สัญญาณเตือนรัก Toxic ‘ชื่นชมตัวเอง’ เป็นสิ่งสำคัญ ยับยั้งการเกิดมลพิษทางใจ
ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มักจะพบปัญหาความสัมพันธ์ที่มีความ Toxic ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของคู่รักหรือคนรอบข้าง ที่ทำให้เกิดมลพิษทางจิตใจ จนทำให้เกิดการสูญเสียตัวตนไป หรือรู้สึกไร้คุณค่า ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการเป็นโรคซึมเศร้า
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะ (สสส.) จึงได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ ประจำปี 2567 “Love is not toxic รักไม่เป็นพิษ” ร่วมกับมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยง ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
นางสาวปาลิณี ต่างสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า สังคมของวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ที่ Toxic น่าเป็นห่วง เพราะเป็นสัญญาณเตือนที่อาจจะนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าและการใช้ความรุนแรงระหว่างคู่รัก และเห็นปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามาเป็นปัจจัยร่วมที่จะทำให้ความรักเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด พนัน เหล้า ซึ่งพวกเราอาจจะต้องรับรู้ เข้าใจปัญหา และร่วมกันหาทางออกกับปัญหาเหล่านี้
โดยการเสวนาเรื่อง “สัญญาณเตือน…ก่อนรักเป็นพิษ และการจัดการความสัมพันธ์” ซึ่งมีตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เคยเจอความสัมพันธ์แบบ toxic เข้าร่วมการเสวนา โดยเธอเผยว่า สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่ารักเป็นพิษ คือ ปัญหาการโดนคนรักตำหนิในเรื่องของการแต่งกาย รูปร่าง หรือหน้าตา ที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ และลดทอนคุณค่าของตัวเอง อีกทั้งยังพบปัญหาคนรักติดการพนัน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเธอและคนรอบข้าง หรือการกู้เงินออนไลน์โดยมีการแอบอ้างชื่อของเธอในการทำธุรกรรม และความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยในการโดนควบคุม รวมไปถึงการโดนข่มขู่ถึงชีวิต
ในขณะเดียวกัน ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ หรือ “เชียร์” นักแสดงชื่อดัง ก็ได้เผยว่า ในอดีตเธอเคยโดนคำพูดเชิงตำหนิรูปร่าง แล้วมีคนหัวเราะเห็นด้วย ซึ่งคนที่พูด คนที่หัวเราะเขาผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เธอกลับผ่านไปไม่ได้ ทำให้ไม่มีความสุข ไม่กล้าเป็นตัวเอง ไม่อยากไปกองถ่าย และไม่กล้ายืนหน้ากล้อง แต่ที่ผ่านมาได้เพราะสุดท้ายพยายามบอกกับตัวเองว่าเรารู้สึกไปก็เท่านั้น เราจะให้ค่ากับคนเหล่านั้นจริงๆ หรือ เพราะหากเราผ่านไปไม่ได้ก็ทำให้เราทำผลงานออกมาไม่ดี คนที่ได้รับคำตำหนิก็เป็นตัวเรา
“เรื่องความรักเหมือนถูกควบคุมโดยไม่รู้ตัว จากการยอมทุกอย่าง รู้ตัวอีกทีก็เสียความเป็นตัวตนแล้ว พอจะทำอะไรที่เป็นเรื่องของเราเองก็กังวลว่าจะทำได้หรือไม่ พูดได้หรือไม่ และก็ไม่กล้าเอ่ยปากว่าเราต้องการอะไร” เชียร์กล่าว
กับเรื่องนี้ ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น โรงพยาบาลรามาธิบดี และเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณเตือนถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ถูกควบคุม ถูกลดทอนคุณค่าของตัวเอง ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว เพราะคนที่เจอปัญหาความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ แต่ยังไม่สามารถก้าวออกมาได้ ก็คือการมีความหวังว่าเขาจะดีขึ้น แต่เรากลับไม่แข็งแรงพอที่จะโอบอุ้มให้เรามีความกล้าหาญ หรือมีความรู้สึกปลอดภัยในการที่จะก้าวออกมา
“สิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับบางคนที่ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างในวันที่อยากจะก้าวออกมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ คือ การหันกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเราเอง ไม่ว่าเจอปัญหาอะไร เราควรมองตัวเองในกระจก และชื่นชมตนเอง หรือแม้กระทั่งวันที่เราคิดจะหยุดความสัมพันธ์เหล่านี้ ควรมองว่าเป็นสิ่งที่กล้าหาญมาก เพราะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เข้าไปเติมเต็มความสัมพันธ์ในตัวเราคือสิ่งที่ดี การชื่นชมตัวเองคือเรื่องธรรมดามากๆ ที่เราควรจะทำ” ผศ.พญ.จิราภรณ์กล่าว
นอกจากนี้ เชียร์ได้เสริมว่า แนวคิดการพูดกับตัวเอง ใจดีกับตัวเอง ชื่นชมตัวเองให้มาก เป็นหลักการที่ดีมาก ช่วยให้เราสามารถก้าวข้ามอุปสรรคอย่างมีความหวังได้
