ชิมชิล-ชิล : Knock โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ

“Knock-น็อก” แปลได้ตั้งแต่ขั้น “เบาๆ” เช่น เคาะประตู “ก๊อกๆ” หรือชก-ตี “แรงๆ” หรือชนจน “ล้มคว่ำ” ก็ใช้ ถ้าเป็นมวยก็โดน “Knock Out” นับสิบเรียบร้อยกลับบ้านได้

เมื่อมีคนรู้จักมาบอกว่าหลานไปเปิดร้านกับเพื่อนๆ ชื่อ “น็อก” ตรงทองหล่อ ขอให้แวะไปชิมบ้าง ตอนฟังก็ปากหนัก ไม่ได้ถามด้วยว่า “น็อกไหน” จะต้องไป “น็อก” เพื่อขอเข้าร้าน หรือทานแล้ว “น็อกเอาต์” ไปเลย จะเป็นด้วย “อร่อย” เลอเลิศ หรือ “ทานไม่ลง” ก็คงต้องพิสูจน์กัน

ค่ำๆ วันก่อนตั้งใจไปหาบะหมี่ทานแถวทองหล่อ โดยบังเอิญเดินผ่านป้ายร้าน “Knock” ก็ “คลับคล้ายคลับคลา” แต่มองระดับถนนเห็นแต่ป้าย กลับไม่เห็นร้านเลยผ่านไป ปรากฏ “บะหมี่” หมด เลยเดินย้อน คราวนี้มองเงยเลยขึ้นไป จึงเห็นว่าร้านอยู่ชั้นสอง มีบันไดให้ไต่ขึ้นไป เมื่อเคยรับปากแล้วไหนๆ ก็ไหนๆ มาถึงที่ ลองซะเลยละกัน

IMG_3644

Advertisement

บรรยากาศร้าน “ชิลๆ ชิลๆ” เป็นห้องยาว ด้านหลังเปิดหลังคา “Open Air” รับอากาศ ดูท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ แต่ถ้าฝนตกเขาก็จะปิด น้องพนักงานรีบบอก ชั้นสองที่ขึ้นไปเป็นร้าน ส่วนครัวอยู่ชั้นล่าง ผมเข้าใจว่าเป็นครัวเดียวกับโรงแรมเล็กๆ ที่มีร้านติดกัน เพราะ “เชฟ” คนเดียวกัน (เดาเอาตอนพนักงานคุยสรรพคุณของเชฟให้ฟัง) แต่ไม่แน่ใจ ส่วนชั้นสามผมนึกว่าเป็นร้านอาหารด้วย แต่พนักงานรีบบอกว่าเป็นร้าน “รองเท้า”!!

มิน่าเห็นป้ายร้าน เขาชื่อเต็มๆ ว่า “Knock Kitchen & Kicks – น็อก คิชเช่น แอนด์ คิกส์” ทั้ง “ต่อย” ทั้ง “เตะ” หรือเปล่าไม่รู้ ถามพนักงานว่าเจ้าของตั้งชื่อร้านมีความหมายอย่างไร น้องบอกไม่รู้ หุหุ เลยบอกว่าประชุมพนักงานรอบหน้าให้ถามไว้ด้วย เผื่อลูกค้าคนอื่นสงสัยเหมือนผม

 

Advertisement

นั่งสั่งอาหารเสร็จ มีเวลาจึงไต่บันไดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง อ๋อร้านรองเท้าประเภท “Sneakers” ใส่เล่นกีฬาก็ได้ หรือใส่เป็นแฟชั่นซึ่งยอดฮิตขณะนี้ ผมชอบอยู่แล้ว แต่ประเภทแพงๆ ไม่กล้าซื้อ ยิ่งปัจจุบันเป็นพวก “คอนเวิร์ส” ทางใครทางมัน (กับรัฐบาล) ยี่ห้ออื่นไม่มอง!!

แต่ต้องยอมรับว่าที่ร้าน “คิกส์” นี้ มีรุ่นสวยๆ เยอะ เป็น “Limited Edition” จะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ “สะสม” เช่น “Air Jordan” ของนักบาสเกตบอลดัง “Michael Jordan” ไปนิวยอร์กรอบที่แล้วก็ “เล็ง” อยู่ มาดูที่กรุงเทพฯก็ “เล็ง” ต่อไป น้องที่ดูแลร้านเป็นกันเอง แต่งตัวเข้าบรรยากาศ Hip Hop เห็น “ลุง” ขึ้นมาถามโน่นนี่ ก็ตอบหมด แม้รู้ว่าลุงไม่ซื้อ แต่ยอมคุยด้วยอย่างสนุกสนาน จนลุงต้องอุดหนุนซื้อ “หมวก” มาใบ (เขามีของเท่ๆ อย่างอื่นนอกจากรองเท้าขายด้วยครับ)

จากร้านอาหารมองขึ้นมาก็จะเห็นร้านรองเท้า และจากร้านรองเท้ามองลงไปก็เห็นโต๊ะเรียงราย ได้ความว่าเจ้าของที่เป็นเชฟนั้น ชอบทั้ง “Sneakers” ทั้งอาหาร จะแปลกอะไร ร้านจักรยานอยู่กับร้านอาหารได้ ร้านหนังสืออยู่กับร้านกาแฟได้ ชอบซะอย่าง

ตอนกลับลงมานั่งทานอาหาร เห็นคนผ่านขึ้นไปดูร้านคิกส์เยอะเหมือนกัน ดูออกแนวนักท่องเที่ยว น่าจะมีลูกค้าพอควร เพราะ “Sneakers” เหล่านี้ไม่มีขายตามห้าง

กลับมาที่อาหาร ก็เพิ่งสังเกตว่าร้านตกแต่งมีลวดลายที่เป็นเชือกรองเท้า ทำให้แน่ใจว่า “ชอบจริง”

ซักถามพนักงานต่อ จึงได้ความว่า เชฟมีเชื้อสายอินเดีย เคยทำงานอยู่ในครัวของ “สถานทูตฝรั่งเศส” ได้วิชามาพอตัว และออกมาเปิดร้านเอง เป็นเจ้าของอยู่หลายแห่ง ผมไปสืบมาทีหลังว่าชื่อ “Charlie Kader-ชาลีกาเดอร์” ซึ่งถือว่ามีฝีมือคนหนึ่งในวงการ

วันนั้นสั่ง “Fried Chicken & Waffles Cupcake” เป็นจานเริ่มเรียกน้ำย่อย ครับ “ไก่ทอด” และ “วาฟเฟิล” อ่านไม่ผิดครับ เป็นการเอาไก่ทอดเสิร์ฟคู่กับคัพเค้กทำจากแป้ง Buttermilk ที่ใช้ทำวาฟเฟิลนั่นละครับ มีลูกเล่นคือซอสเมเปิลเป็นครีมเนย แปลกทั้งการออกแบบ รูปลักษณ์ที่นำเสนอ ซึ่งไม่ใช่วาฟเฟิลแพนเค้กแน่นอน แต่ขอบอกว่ารสชาติเข้ากันได้ ไม่น่าเชื่อ

ตามด้วย “Chilli Tater Tots” คือ มันทอดกับพริก Jalapeno ผงกะหรี่ และหอมแดง ใช้ทานเป็นกับแกล้มได้อย่างดี “Knock Burger” ใส่ชื่อร้านจานไหนผมชอบลอง โฆษณาว่า วัวเลี้ยงด้วยหญ้า ไม่ใช่อาหารสัตว์ ผมว่าใช้ได้ ส่วนปลา “Bass” กับผัก Rocket ปลาทอดได้ที่ดีมาก จานนี้ผมชอบ ความอยากลองเลยสั่ง “เป็ดกับแม็คแอนด์ชีส” (Duck Confit Mac ?n? Cheese) แนวคิดแหวกหน่อย “เป็ดร่อนทอดกรอบ” (เปิดกูเกิลเขาแปลอย่างนั้นจริงๆ ครับ คือเป็ดทอดแบบฝรั่งเศส) กับพาสต้าชีสแบบเด็กๆ ชอบทาน (ซึ่งธรรมดา ผมก็ชอบแม็คแอนด์ชีส) แต่จานนี้ผมเฉยๆ ผมว่าไม่ค่อยเข้ากัน

ถึงขนมลองจานเด็ดของร้าน “Hot Cake” แพนเค้กกระทะร้อนกับผลไม้เบอรี่ต่างๆ อร่อยครับ ตบท้ายไม่ผิดหวัง

ไปอุดหนุนกันได้ครับ Concept น่าสนใจทั้งร้านและอาหาร อยู่ใกล้ๆ J-Avenue ส่วนจะ “Knock” หรือจะ “Kicks” แล้วแต่ใจ!!
IMG_3680

IMG_3666

IMG_3662

IMG_3694

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image