มื้อนี้ฟินมาก!! น้ำตาลได้กิน “ส้มตำ” แล้ว งานนี้แซ่บหลายสมใจ!!

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ภายหลังจาก น้ำตาล – นางสาวชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เดินทางกลับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม ถึงประเทศไทยเป็นวันที่ 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำตาล – นางสาวชลิตา เดินสายสัมภาษณ์ตามรายการต่างๆ อาทิ เรื่องเล่าเช้านี้ ผู้หญิงถึงผู้หญิง และรายการอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีแผนเดินสายขอบคุณสปอนเซอร์ และสื่อต่างๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ โดยหลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปว่าสิ่งที่คิดถึงเป็นสิ่งแรกเมื่อกลับถึงเมืองไทยคืออยากกินส้มตำ วันนี้กองประกวดจึงได้จัดส้มตำประเภทต่างๆ ให้น้ำตาล – ชลิตา ได้รับประทานครั้งแรกหลังบินกลับมาเมืองไทย โดยทีมงานจัดให้ทั้ง น้ำตก ตำไทย ตำปลาร้า ตำไทยใส่ปู ตำปลาร้า ทุกชนิด แบบจัดเต็ม

ขณะที่ นางสาวชลิตา ส่วนเสน่ห์ ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเล่าเช้านี้ และ ผู้หญิงถึงผู้หญิงถึงบรรยากาศการเก็บตัวขณะทำกิจกรรมที่ประเทศฟิลิปปินส์ว่า สนิทกับนางงามจากประเทศโคลอมเบีย ซึ่งได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์ส 2016 มากที่สุด โดยหลังจากการประกวดก็มีมาพูดคุยกัน และให้ยืมชุดใส่ไปงานเลี้ยงหลังจบการประกวด ซึ่งนางงามจากโคลอมเบียก็จะนำเอาตั๋วเครื่องบินที่ได้รับเป็นรางวัลจากการประกวดที่โคลอมเบีย บินมาหาที่ประเทศไทย รวมทั้งประทับใจแฟนคลับฟิลิปปินส์ทุกคน ที่เชียร์และให้กำลังใจตลอด ไม่ว่าไปที่ใดก็จะตะโกนเรียกชื่อ ชลิตา ชาร์ลิ่ง ทุกๆที่ และสำหรับการตอบคำถามบนเวทีนั้น ก่อนจะได้รับคำถามก็คิดว่าอยากได้รับคำถามที่ดี ที่ตอบได้และนึกคำตอบทัน โชคดีที่ได้รับคำถามนี้ อาจเป็นเพราะพระองค์ช่วยเรา ตอนที่ได้ตอบคำถามก็รู้สึกสำเร็จแล้ว อย่างน้อยก็ได้ตอบคำถามเรื่องในหลวง รัชกาลที่ 9 ให้ทุกคนได้ทราบกัน ให้ทั่วโลกได้รับรู้

“ดีใจที่กลับมาประเทศไทย แล้วคนเชียร์ เรียกชื่อเรา ถือว่าประทับใจมาก ที่พลาดจากตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไป เรียกได้ว่าเสียดายมากกว่าเสียใจ ทุกวันทำอย่างตั้งใจ ทำเต็มที่้่มีวันไหนที่ท้อ พอไม่มีชื่อของเราตอนประกาศ 3 คนสุดท้าย เดินออกมาที่หลังเวที ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหนเห็นเพื่อนเดินก็ตามไป น้ำตาก็เริ่มคลอ และเพราะพี่แจ๊ส (นางประณม ถาวรเวช) พี่เลี้ยงมาจับมือไว้ ตอนนั้นก็ร้องไห้โฮออกมา เพราะตอนนั้นแอบหวังไว้มากว่าอย่างไรก็ต้องไทยแลนด์ พอไม่ได้ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อ หากย้อนเวลาไปก็ไม่รู้สึกว่าต้องแก้อะไร เพราะเราทำเต็มที่แล้ว คุมสติ แล้วรู้ว่าทำอะไร ต่างจากเมืองไทยที่ตาลไม่มีสติอะไรเลย นี่ตาลพยายามควบคุมตัวเองทุกอย่าง” นางสาวชลิตา กล่าว

นางสาวชลิตา กล่าวต่อว่า กับกระแสการเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กสู้ชีวิตนั้น ชีวิตสนิทกับความจนมาก สู้ชีวิตมาตลอด จึงบอกออกไปว่าหากมีโอกาสเป็นมิสยูนิเวิร์ส ก็จะช่วยเหลือคนอื่นโดยเฉพาะคนจน เพราะรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร และขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันเชียร์ ช่วยกันโหวตว่าเวลาไหน ให้กำลังใจว่าเก็บตัวทำอะไรบ้าง ขอบคุณมากๆที่เป็นกำลังใจ เป็นแรงผลักดัน ทุกคนคือกำลังใจ เป็นสิ่งที่ตาลหันหลังกลับไปแล้วภาคภูมิใจมากว่ามีคนรักเรามากขนาดนี้ รู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตและภูมิใจที่ได้สวมสายสะพายไทยแลนด์

Advertisement

S__3022855

S__6922264

S__6922265

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image