“เซลวี” ชาวเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย วัย 42 ปี สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เพราะเกิดอาการคันยุบยิบ และเหมือนมีอะไรกระดืบๆ อยู่ในบริเวณโพรงกะโหลกด้านหลังนัยน์ตา ตอนแรกเข้าใจว่าอาจเป็นเพราะอาการหวัด แต่พอนานเข้า ยังรู้สึกยุกยิกไม่หาย เซลวีก็เดินทางไปพบแพทย์
ตามรายงานของสำนักข่าวทีเอ็นเอ็นของอินเดีย ระบุว่า หมอคนแรกที่ตรวจสอบเป็นแพทย์ประจำคลินิกใกล้บ้าน ที่สงสัยว่าผู้ป่วยจะมีอาการริดสีดวงจมูก แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น กลับหายใจลำบากมากขึ้นตามลำดับ เซลวีจึงไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ซึ่งเข้าใจว่ามีอะไรติดอยู่ในจมูกและพยายามสอดท่อเข้าไปใช้น้ำฉีดไล่ออกมาแต่ไม่เป็นผล เซลวีไปหาหมออีกครั้งที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 ซึ่งแพทย์ที่นั่นแนะนำให้เดินทางไปสแกนที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง ทำให้ผู้ป่วยมาลงเอยอยู่ในความดูแลของนายแพทย์ เอ็ม. เอ็น. แชงการ์ แพทย์ประจำแผนกหูตาคอจมูกของโรงพยาบาลและวิทยาลัยการแพทย์สแตนลีย์ ในเจนไน เมื่อเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ในที่สุด
นายแพทย์แชงการ์ใช้การส่องกล้องดูและพบที่มาของอาการประหลาดของเซลวีว่า เป็นแมลงสาบตัวโตเต็มวัยที่ยังเป็นๆ อยู่ภายในโพรงกะโหลกระหว่างลูกตาของผู้ป่วยซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับโพรงจมูกและอยู่ติดกับสมองของเซลวีนั่นเอง นายแพทย์แชงการ์ต้องระดมทีมแพทย์มาใช้ทั้งเครื่องดูดและปากคีบ พยายามนำตัวมันออกมา แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามนานถึง 47 นาทีจึงนำตัวมันออกมาได้แบบเป็นๆ
“มันยังไม่ตาย และทำท่าเหมือนไม่อยากออกมาข้างนอกอีกต่างหาก” นายแพทย์แชงการ์ระบุ และเปิดเผยด้วยว่า ทีมแพทย์เคยพบหลายอย่าง ตั้งแต่ ลูกปัด ถ่านกระดุม เรื่อยไปจนถึงเศษแท่งชอล์กในโพรงกะโหลก แต่ไม่เคยพบว่ามีแมลงสาบเป็นๆ ตัวใหญ่ขนาดนี้อยู่ในนั้นมาก่อน
แพทย์แชงการ์ระบุว่าหากปล่อยทิ้งไว้อีกไม่นาน แมลงสาบตัวนี้ก็จะตาย เน่า และจะทำให้เกิดอาการติดเชื้อในผู้ป่วยลุกลามถึงสมองที่อยู่ติดกันได้ง่ายมาก
