The Style by TOYOTA เปิดพื้นที่นัดพบสำหรับคนรักงานศิลปะ

The Style by TOYOTA เปิดพื้นที่นัดพบสำหรับคนรักงานศิลปะ ในงาน PASTFORWARD EP.3 “Build Up” Design Together (Change the World of Design)ในรูปแบบนิทรรศการศิลปะที่จัดแสดงผลงานการออกแบบจาก 5 ศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

ยานพาหนะนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีแล้ว ดีไซน์ที่สวยงามก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คนยุคใหม่ให้ความสำคัญ และ ‘โตโยต้า’ (TOYOTA) แบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญด้านงานดีไซน์มาเสมอ โดยล่าสุดได้จัดงาน PASTFORWARD EP.3 “Build Up” Design Together (Change the World of Design) นิทรรศการศิลปะที่นำเสนอผลงานการออกแบบของ 5 ศิลปินดัง ได้แก่ รักกิจ ควรหาเวช, กรกต อารมย์ดี, พงศ์ภาสกร กุลถิรธรรม, ปริญญาพิเชษฐศิริพร และธนา แสงศร ให้เหล่าคนรักงานศิลปะได้ร่วมค้นหาแรงบันดาลใจผ่านผลงานระดับมาสเตอร์พีซพร้อมกัน   ที่บริเวณ The Style by TOYOTA ศูนย์การค้าสยาม สแควร์ วัน ชั้น 3 ซึ่งจัดแสดงผลงานให้ได้ชมกันตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 มีนาคม 2560

โดยงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ หม่อมหลวงอธิฉัตร ฉัตรชัย, พงศธร ธรรมวัฒนะ, พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล, ชวนล ไคสิริ, ตะวันนา ธารา, ขนิษฐา ดรุณเนตร, อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, พลอย หอวัง และอีกมากมาย

ซึ่งการจัดนิทรรศการศิลปะครั้งนี้ ‘โตโยต้า’ (TOYOTA) ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘เรียนรู้จากอดีต สร้างสรรค์ผลงานปัจจุบัน ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่อนาคต’ ซึ่งถูกสะท้อนออกมาในรูปแบบของนิทรรศการศิลปะจาก 5 ศิลปินดัง กับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Vibrant Clarity’ โดยนำเอาความแตกต่างของ 2 สิ่ง อย่างอารมณ์และเหตุผลมาผสานรวมกันและถ่ายทอดเป็นผลงานศิลปะได้อย่างน่าติดตาม เริ่มจากหนุ่มกราฟฟิตี้เจ้าของลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ One Block Stencil รักกิจ ควรหาเวช ในผลงานที่มีชื่อว่า ‘Emorat’ กับการนำเสนอแรงบันดาลใจในการเปรียบเทียบสภาวะการตัดสินใจของมนุษย์ระหว่างอารมณ์และเหตุผลนำมารวมเป็นผลงานชิ้นเดียวกัน เพื่อต้องการสื่อถึงช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจของมนุษย์ โดยได้ไอเดียจากไม้บรรทัด 3 มิติ ที่เมื่อเปลี่ยนมุมมอง ภาพที่เห็นก็จะเปลี่ยนไปด้วย ผลงานชิ้นนี้ผู้ที่เข้ามาชมจึงสามารถเลือกมุมมองที่ใช่ได้ในแบบของตนเอง

ถัดมาที่นักออกแบบผลิตภัณฑ์มากฝีมือที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ผลงานจากวัตถุดิบพื้นบ้าน กรกต อารมณ์ดี กับผลงานที่มีชื่อว่า ‘โครงสร้างแห่งความสุข’ ในคอนเซ็ปต์ของความงามแบบร่วมสมัย ที่นำเอาเทคนิคของงานหัตถกรรมพื้นบ้านมาประยุกต์เข้ากับลวดลายกราฟฟิกสุดล้ำสมัย ถ่ายทอดมาเป็นผลงานศิลปะที่หาชมได้ยาก ด้านศิลปินผู้สร้างภาพวิชวลสามมิติที่โด่งดังไปทั่วโลก พงศ์ภาสกร กุลถิรธรรม กับผลงานที่มีชื่อว่า ‘Vibrant Reflection’ ในการนำเสนอผลงาน Installation Visual โดยใช้ลูกเล่นการสะท้อนของกระจกเงามาเป็นเทคนิค และมีวิชวลในหลากหลายอารมณ์เคลื่อนไหวอยู่ตรงบริเวณจอภาพ ซึ่งจะถูกปรับเปลี่ยนตามอารมณ์ของศิลปิน

ต่อมาที่นักกราฟฟิกดีไซน์เนอร์สุดแนว ปริญญา พิเชษฐศิริพร ในคอนเซ็ปต์การออกแบบที่นำความแตกต่างของงานศิลปะด้าน Computer Graphic และ Sculpture มาหลอมรวมกันให้เกิดเป็นผลงานศิลปะที่มีชื่อว่า‘3 Balls Mind’  ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอความหมายของอารมณ์และเหตุผลผ่านการเลือกใช้โทนสี โดยผลงานหนึ่งด้านถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสเป็นตัวแทนของอารมณ์ที่หลากหลายและอีกหนึ่งด้านถูกทาด้วยสีขาวล้วนเป็นตัวของเหตุผลที่ชัดเจน

ปิดท้ายที่หนุ่มโมชั่นกราฟฟิกชื่อดัง ธนา แสงศร ที่หยิบยกความงดงามทางธรรมชาติมาเป็นตัวแทนของอารมณ์ที่ซับซ้อนของมนุษย์ ส่วนรูปทรงเรขาคณิตและกราฟฟิกต่างๆ ถูกนำมาตัวแทนของเหตุผลเปรียบเสมือนเป็นสองสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ถ่ายทอดเป็นผลงานที่มีชื่อว่า ‘Emorational‘ ได้อย่างลงตัว

และนอกจากนิทรรศการศิลปะแล้ว ภายในงานยังมีกูรูด้านงานศิลปะและการออกแบบมาร่วมพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับงานดีไซน์อีกด้วย ได้แก่  จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ บรรณาธิการนิตยสารCheeze และ Looker ที่มาพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงทิศทางของกระแสสังคมในอนาคต, อภิชาติ ภูมิสุข นักออกแบบรถยนต์และอาจารย์พิเศษด้านการออกแบบรถยนต์ กับการให้ความรู้ด้านการออกแบบที่สามารถนำไปสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นชิ้นงานที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และณัฐวงศ์ รอดพันธ์ธนโชติ นักออกแบบแผนกวางแผนรถเพื่อการพาณิชย์ ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่พูดคุยเกี่ยวกับการต่อยอดแนวคิดและการพัฒนาไอเดียให้เกิดงานศิลปะ

ด้านเหล่าเซเลบริตี้ที่อยู่ในแวดวงงานดีไซน์ที่มาร่วมชมงานต่างก็ร่วมเผยถึงสถานที่โปรดที่คนรักงานศิลปะต้องไม่พลาดที่จะไปเยือนพร้อมกล่าวถึงศิลปินในดวงใจ เริ่มจาก ดีไซเนอร์มากฝีมือแห่งแบรนด์เสื้อผ้าโพเอม ชวนล ไคสิริ เผยว่า ‘งานศิลปะที่ชอบจะเป็นงานอิมเพรสชั่นนิสม์ เพราะด้วยเทคนิคการใช้พู่กันและโทนสี มันทำให้เรารู้สึกว่าเป็นงานที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองของผู้หญิง ซึ่งปกติก็เป็นคนที่ชอบดูงานอาร์ตอยู่แล้วเพราะมันก็มีส่วนช่วยในงานดีไซน์เสื้อผ้าของเรา และศิลปินคนโปรดที่เราชอบงานของเขามากก็คือ เซอร์ ลอว์เรนซ์ อัลมา-ทาเดมา เพราะเป็นศิลปินที่ถ่ายทอดผลงานจิตรกรรมได้อย่างน่าสนใจและมีความโรแมนติกแฝงอยู่ และหากใครมีโอกาสได้ไปปารีสก็อยากแนะนำให้ไปชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ดีออเซ่ (d’Orsay) เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะเอาไว้ทุกยุคทุกสมัยไว้อย่างน่าสนใจ’

ถัดมาที่ พัชรวัฒน์ ตระกาลสันติกูล ดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้าลาบูทีคส์ เล่าว่า ‘ศิลปินที่เราชื่นชอบจะเป็นช่างภาพชาวอังกฤษที่ชื่อนิค ไนท์ (Nick Knight) เพราะด้วยเอกลักษณ์งานของเขาที่มีความแฟนตาซี ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโลกของความฝัน ส่วนพิพิธภัณฑ์ที่ชอบไปจะเป็นที่ประเทศเกาหลีชื่อ ดีดีพี (DDP : Dongdaemun Design Plaza) เพราะที่นี่เขาจะชอบเอางานของศิลปินดังๆ มาจัดแสดงอยู่บ่อยๆ เพราะเราเชื่อว่าการดูงานศิลปะจะช่วยเปิดมุมมองด้านความคิด ด้านงานดีไซน์ ให้เรานำไปต่อยอดในการทำงานได้’

คนต่อมา ดีไซเนอร์สาวฝีมือเฉียบแบรนด์เทีย บาย ธารา ตะวันนา ธารา เผยว่า ‘หนูใหม่มองว่างานศิลปะของคนไทยเป็นงานที่มีคาแรคเตอร์พอสมควร พวกเครื่องเบญจรงค์ งานสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งก็อยากให้ประเทศไทยมีพื้นที่อนุรักษ์งานพวกนี้ไว้ เพราะอยากให้คนรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้งานศิลปะดีๆ ซึ่งตัวหนูใหม่จะชอบ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี เพราะเป็นสถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะที่หาชมได้ยากของคนไทยเอาไว้ ซึ่งเราก็คิดว่าฝีมือคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกนะคะ’

ปิดท้ายที่สาวแฟชั่นนิสต้า พลอย หอวัง เล่าว่า ‘พลอยจะชอบงานศิลปะที่เป็นงานวาดเส้น (drawing) กับงานเพ้นท์ เพราะมันเป็นงานที่ใช้มือทำและต้องมีความใจเย็นมาก เราจะสัมผัสได้ถึงความประณีตของศิลปินที่เขาสร้างงานขึ้นมา ซึ่งศิลปินที่ชอบก็คือ ซัลวาดอร์ ดาลี่ เพราะงานของเขาสามารถตีความได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจริงๆ พลอยว่าศิลปะมันก็อยู่รอบตัวเรา การชมงานศิลปะก็เป็นการสร้างแรงบันดาลให้ชีวิตในทุกๆ วันอยู่แล้ว’

นอกจากนี้ภายในงานยังมีพื้นที่สำหรับคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีให้ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงในการขับขี่ TOYOTA i-ROAD เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และประกาศผลตัดสินผลงานดีไซน์ของนักออกแบบรุ่นใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัยที่ผ่านเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้าย จากการเข้าร่วมประกวดการออกแบบ “i” Style Design Together เพื่อคว้าสิทธิ์เป็นผู้ชนะ 3 ทีม ที่มีโอกาสได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์เยี่ยมชมงานดีไซน์สุดล้ำสมัยถึงประเทศญี่ปุ่น ดินแดนต้นแบบแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่