น.ส.ณัฐยา บุญภักดี คณะทำงานเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่ไทยได้มี พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้เมื่อกลางปี 2559 นั้น ที่ผ่านมาถือว่ารัฐบาลให้ความสนใจและอยากแก้ปัญหาแม่วัยรุ่นจริงจัง เพราะภายหลังมีคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติและมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในรอบ 3 เดือนประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง ได้เป็นร่างยุทธศาสตร์ระดับชาติ ที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วๆ นี้ ได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อเตรียมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมร่างกฎกระทรวงเพื่อใช้เป็นแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องไปกับกฎหมายดังกล่าว ซึ่งคิดว่ากลางปีนี้ จากกฎหมายจะแปลงเป็นการปฏิบัติสู่ระดับจังหวัด และการทำงานจะเข้มข้นมากขึ้น
น.ส.ณัฐยากล่าวว่า จุดอ่อนของกฎหมายนี้คือ ไม่มีบทลงโทษรุนแรงถ้าไม่ทำผิดกฎหมาย ฉะนั้นกฎหมายจะเป็นเพียงกระดาษ หากเด็กและเยาวชนไม่ลุกขึ้นมาทวงสิทธิ อาทิ กฎหมายบอกว่าวัยรุ่นต้องได้เรียนเพศวิถีศึกษา แต่ถามว่าได้สอนไหม เอาไปใช้ได้จริงไหม หรือสอนผิดๆ สอนเรื่องนี้ละเว้นเรื่องนี้ ฉะนั้นการมีกฎหมายไม่เพียงพอ จะต้องมีการติดตามประเมินผลว่าปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ และคนที่ได้รับประโยชน์จากกฎหมาย ต้องลุกขึ้นมา
