‘ปวิณ วรพฤกษ์’ กับก้าวต่อไปของ’เอชพี’ สู่ผู้นำคอมพิวติ้ง-พรินติ้ง

ปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับเอชพี หลังการแยกเอชพี ออกเป็น 2 ส่วน คือ เอชพี อิงค์ ที่ยังคงดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพีซีและเครื่องพิมพ์ และอีกบริษัท คือ ฮิวเล็ต-แพ็คการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ กระนั้นก็ตาม เอชพี อิงค์ ก็ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจทั้งในตลาดพีซี และพรินเตอร์มาได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการล้มหายตายจากไปของบริษัทไอทีในท้องตลาด

นายปวิณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ “มติชน” ว่า ตั้งแต่มีการแยกตัว

ของบริษัทเอชพีเมื่อปีก่อน ถือเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นมาก และตลาดเองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้ว่าเอชพีจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย คือเรื่องของการมุ่งเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา หรืออาร์แอนด์ดี และเรื่องของนวัตกรรม เพื่อนำไอทีมาทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น

โดยสิ่งที่เอชพีทำคือ การเบลด์ เรียลิตี้ คือการรวมกันระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกดิจิทัล ซึ่งเอชพีมองว่าจะทำอย่างไรให้เทคโนโลยีมาทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น โลกเสมือนจริงกับดิจิทัลที่กำลังรวมเข้าหากันมากขึ้น อย่างเรื่องของพรินเตอร์ 3 มิติ ก็เป็นการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นฟิสิคอล หรือสิ่งที่จับต้องได้ ให้กลายเป็นรูปแบบของดิจิทัล

Advertisement

ตอนนี้ เอชพีถือว่าเป็นที่หนึ่งในตลาดพีซีทั่วโลกในกลุ่มคอมเมอร์เชียล เพราะมีสินค้าที่ดี รวมไปถึงกลุ่มเกมมิ่ง อย่าง โอเมน ที่แสดงให้เห็นว่าเอชพีมีสินค้าพีซี โน้ตบุ๊กที่ครบไลน์ ครบตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น เอชพี อีลีท เอ็กซ์ 3 และเอชพี พาวิเลียน เอ็กซ์ 2 โน้ตบุ๊กไฮบริดรุ่นล่าสุด ทั้งหมดนี้ทำให้เอชพีขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้เพราะมีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า หรืออย่างสเปกเตอร์ ที่เพิ่งออกรุ่นสีโรสโกลด์ออกมาใหม่ ซึ่งเป็นการออกแบบตามความต้องการของลูกค้า

ในส่วนของพรินติ้ง นายปวิณกล่าวว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับพรินเตอร์ สังเกตได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวในตลาดพรินเตอร์เท่าไหร่ แต่เอชพี ยังคงมีพรินเตอร์ที่ครบไลน์สินค้า บวกกับการมีเทคโนโลยีที่ยูนิค อย่างเรื่องของเพจวายด์ หรือแม้แต่การซื้อกิจการธุรกิจการพิมพ์จากซัมซุง เพื่อเป็นการตอบโจทย์กลุ่ม เอ 3 ซึ่งจะเป็นอีกกลุ่มที่เอชพีจะเข้าไปทำตลาด เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี

เหตุที่มุ่งเน้นไปที่ เอ 3 สาเหตุแรกคือ มูลค่าของตลาดตอนนี้อยู่ที่ราว 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงอย่างมาก รวมถึงตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็มีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ทุกคนยังคงต้องมีการพิมพ์ใส่กระดาษอยู่ แม้ว่าหลายองค์กรจะพยายามลดการพิมพ์งาน แต่ที่สุดแล้วก็มีการพิมพ์เอกสารออกมาอยู่ดี เพราะบางอย่างต้องมีการเก็บเอกสารตามกฎหมาย

Advertisement

เหตุผลที่สองคือเรื่องของต้นทุนในการพิมพ์แต่ละแผ่นนั้น ถูกลงอย่างมาก และมีความสะดวกในการพิมพ์มากขึ้น เช่น การพิมพ์ด้วยไวไฟพรินต์ ที่ทำให้สามารถพิมพ์ภาพได้โดยตรงจากมือถือได้เลย ไม่ต้องมีการลงไดรฟ์เวอร์เหมือนเมื่อก่อน และข้อสาม คือ ลูกค้าต้องการประหยัด แต่ละแผนกของบริษัทก็จะมีพรินเตอร์ที่ตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป และพรินเตอร์ที่ตอบสนองการใช้งานที่ตรงความต้องการนี้เอง ที่ช่วยทำให้ประหยัดต้นทุนในการพิมพ์ได้อย่างมาก

ซึ่งพรินเตอร์ของเอชพีสำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์ ได้เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้ ด้วยโซลูชั่นด้านความปลอดภัย เนื่องจากที่ผ่านมา ลูกค้าในเมืองนอกจำนวนมาก มีการพูดถึงเรื่องการแฮกพรินเตอร์มากขึ้น เนื่องจากพรินเตอร์ในองค์กรส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อเข้ากับสายแลน ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้พรินเตอร์เป็นช่องทางในการเจาะเข้าไปในเครือข่ายของบริษัทที่ต้องการได้ผ่านสายแลน

และเอชพีถือเป็นผู้ผลิตพรินเตอร์รายแรกของโลกที่มีโซลูชั่นด้านความปลอดภัยที่ครบวงจร คือตั้งแต่การตรวจพบ ป้องกัน และการฟื้นฟูกลับมา โดยพรินเตอร์ที่จะมีโซลูชั่นนี้ จะเป็นพรินเตอร์เลเซอร์ สำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015

ในส่วนของประเทศไทยนั้น เอชพีถือเป็นพีซีอันดับ 1 ในกลุ่มคอมเมอร์เชียล รวมถึงตลาดเกมมิ่ง ที่มีการเปิดตัวโอเมนไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดเด่นของโอเมน นอกเหนือจากสเปกที่แรงแล้ว เอชพียังได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ทั้งเจ้าของเกม อย่างวอร์คราฟท์ หรือผู้จัดจำหน่ายเกม อย่างเอเชียซอฟต์ และเจ้าของพลังขับเคลื่อนอย่างอินเทล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในตลาดเกมของเอชพี

ส่วนของคอมเมอร์เชียลนั้น เอชพีถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่ให้บริการ ดีไวซ์แอสเอเซอร์วิส (Daas-Device as a Service) ที่ครบวงจร เพื่อทำให้ผู้บริหารไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับเรื่องการแก้ปัญหาต่างๆ ของไอทีในบริษัท เรียกง่ายๆ ว่าเปลี่ยนจากการซื้อเครื่อง มาเป็นการเช่าเครื่องพีซีแทน และเอชพียังมีบริการด้านการเงิน เอชพี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสด้วย

สรุปโดยรวมคือ เอชพีจะยังคงมุ่งเน้นไปที่เรื่องของนวัตกรรมเป็นสำคัญลำดับแรก ที่ถือว่าคอร์หลักของเอชพี ตามด้วยสิ่งที่กำลังเติบโต และสิ่งที่เป็นอนาคต อย่างพรินเตอร์ 3 มิติ และสิ่งที่เอชพีจะมุ่งเน้นอย่างมากในปีนี้ คือเรื่องของ เกม เอ 3 และบริการ

เพื่อเป้าหมายคือ การเป็นผู้นำในตลาด ทั้งด้านคอมพิวติ้ง และพรินติ้ง ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image