ทีมสำรวจพบ “กบจิ๋ว” พันธุ์ใหม่ในอินเดีย แต่กำลังจะสูญพันธุ์

กบกลางคืน สายพันธุ์ Nyctibatrachus pulivijayani เทียบขนาดกับหัวแม่มือ (ภาพ-SD Biju)

ทีมสำรวจทางชีววิทยาที่เดินทางเข้าไปสำรวจพื้นที่ป่าบริเวณแนวเทือกเขากาตตะวันตก ของอินเดีย ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ภายใต้การนำของ เอส.ดี. บิจู นักชีววิทยาจากห้องปฏิบัติการซิสเตเมติค แล็บ ในสังกัดภาควิชานิเวศวิทยาศึกษา ของมหาวิทยาลัยนิวเดลี ประเทศอินเดีย ค้นพบ “กบกลางคืน” สายพันธุ์ใหม่อีก 7 ชนิด โดย 4 สายพันธุ์ในจำนวนที่พบใหม่ดังกล่าวนี้ ถือเป็นกบชนิดที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เท่าที่มีการค้นพบกันมา เล็กขนาดนั่งบนปลายเล็บหัวแม่มือได้สบายๆ

กบกลางคืนเมื่อรวมกับสายพันธุ์ที่ค้นพบใหม่นี้แล้ว มีจำนวนทั้งหมด 35 สายพันธุ์ จัดอยู่ในวงศ์ Nyctibatrachus สายพันธุ์ใหม่ที่พบว่าเป็นกบที่เล็กที่สุดในโลก ประกอบด้วย Nyctibatrachus manalari, N. pulivijayani, N. robinmoorei and N. sabarimalai เมื่อโตเต็มที่วัดขนาดได้ ระหว่าง 12.2 มิลลิเมตร ถึง 15.4 มิลลิเมตร เล็กกว่ากบจิ๋วที่เคยพบมาแล้วซึ่งวัดขนาดตัวได้ 18 มิลลิเมตร ซึ่งถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่สำรวจ แต่ยังไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนจนถึงขณะนี้ เนื่องจากมีขนาดตัวเล็กมากและส่งเสียงร้องไม่เหมือนกบทั่วไปแต่กลับเหมือนเสียงแมลงมากกว่า

พื้นที่บริเวณเทือกเขากาตตะวันตกของอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เป็นแนวเทือกเขาที่ทอดตัวตามแนวชายฝั่งด้านตะวันตกของอินเดีย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราว 140,000 ตารางกิโลเมตร

กบกลางคืนที่ค้นพบใหม่ 7 สายพันธุ์ มี 4 สายพันธุ์ ที่เล็กที่สุดเท่าที่ค้นพบมา ประกอบด้วย D. กบกลางคืนซาบาริมาลา (Nyctibatrachus sabarimalaiI), E กบกลางคืนวิชายัน (Nyctibatrachus pulivijayani), F. กบกลางคืนมานาลาร์ (Nyctibatrachus manalari) และ G. กบกลางคืนโรบินมัวร์ (Nyctibatrachus robinmoorei) ส่วนอีก 3 ชนิดที่ค้นพบใหม่คือ A. กบกลางคืนแรดคลิฟฟ์ (Nyctibatrachus radcliffei), B. กบกลางคืนอธิรัปพิลลี (Nyctibatrachus athirappillyensis)และ C. กบกลางคืน คัดดาลาร์ (Nyctibatrachus webilla) เมื่อเทียบกับขนาดของเหรียญ 5 รูปี (ภาพ-SD Biju)
กบกลางคืนที่ค้นพบใหม่ 7 สายพันธุ์ มี 4 สายพันธุ์ ที่เล็กที่สุดเท่าที่ค้นพบมา ประกอบด้วย D. กบกลางคืนซาบาริมาลา (Nyctibatrachus sabarimalaiI), E กบกลางคืนวิชายัน (Nyctibatrachus pulivijayani), F. กบกลางคืนมานาลาร์ (Nyctibatrachus manalari) และ G. กบกลางคืนโรบินมัวร์ (Nyctibatrachus robinmoorei) ส่วนอีก 3 ชนิดที่ค้นพบใหม่คือ A. กบกลางคืนแรดคลิฟฟ์ (Nyctibatrachus radcliffei), B. กบกลางคืนอธิรัปพิลลี (Nyctibatrachus athirappillyensis)และ C. กบกลางคืน คัดดาลาร์ (Nyctibatrachus webilla) เมื่อเทียบกับขนาดของเหรียญ 5 รูปี (ภาพ-SD Biju)

พื้นที่มรดกโลกแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชนับพันชนิดที่ถูกระบุว่ากำลังตกอยู่ภายใต้การคุกคามในพื้นที่อื่นๆของโลก นอกจากนั้นในพื้นที่นี้ยังมีอีก 145 สปีชีส์ ที่ถูกจัดให้เป็นสัตว์หรือพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ และอีก 51 สปีชีส์ ที่จัดอยู่ในสถานะเสี่ยงสูญพันธุ์ในระดับวิกฤต

Advertisement

ในช่วง 10 ปีหลังมานี้มีนักวิทยาศาสตร์ต้นพบสัตว์และพืชสายพันธุ์ใหม่มากถึง 103 สายพันธุ์จากพื้นที่ป่าแห่งนี้ รวมทั้งกบอินเดียนเพอร์เพิ่ล หรือกบม่วงอินเดีย ซึ่งมีแต่เฉพาะในพื้นที่ป่าแห่งนี้ไม่มีในที่อื่นใดในโลก และยังถือเป็นกบพันธุ์เดียวที่สืบทอดสายพันธุ์มาจากยุคจูราสสิคโดยตรง

เอส.ดี. บิจู ระบุว่า อนาคตของกบกลางคืนที่เทือกเขากาตตะวันตก ยังไม่แน่นอน ทั้งนี้เนื่องจากกบในพื้นที่ดังกล่าว 32 เปอร์เซ็นต์ ตกอยู่ในสภาพถูกคุกคามจนอาจทำให้สูญพันธุ์ได้ นอกจากนั้นจากจำนวนกบที่พบใหม่ 7 ชนิดนั้น มี 5 สายพันธุ์ ที่อยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์

และจำเป็นต้องให้ความสำคัญสูงสุดเพื่อดำเนินการอนุรักษ์ในทันทีอีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image