| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | อรพรรณ จันทรวงศ์ไพศาล |
| เผยแพร่ |
ไม่บ่อยครั้งนักที่คนไทยจะมีโอกาสได้สักการะพระพุทธรูปชื่อดังจากจังหวัดต่างๆ ในเวลาเดียวกัน ครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสอันดี สำหรับคนที่ต้องการไปไหว้พระเสริมสิริมงคล แต่ไม่มีเวลาจะเดินทางไกล
เมื่อหนังสือพิมพ์ข่าวสด พร้อมด้วยสื่อในเครือมติชน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท คิงเพาเวอร์, เอไอเอส, บริษัท ป.วช.ลิขิตการช่าง จำกัด และ กรมการศาสนา จัดงาน “สบายใจไหว้พระดี สะสมบุญปี 60” งานเดียวที่อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากวัดดังทั่วประเทศมาให้สักการะมากที่สุด กลางเมืองกรุง
ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวสด ระบุว่า งานสบายใจไหว้พระดี จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้เสมือนเดินทางไปไหว้พระชื่อดัง เสริมความเป็นสิริมงคลจากพระพุทธรูปทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าเข้าชม
“ในปีที่ 3 นี้คนเริ่มรู้จักงานมากขึ้น ก็เลยมีการเพิ่มเติมด้วยการอัญเชิญพระมาให้พุทธศาสนิกชนสักการะมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แล้วก็มีความร่วมมือกับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาและสนับสนุนให้คนไหว้พระใน กทม.เพิ่มขึ้นด้วยการอัญเชิญพระพุทธรูปองค์จำลองขนาดเล็กจากพระอารามหลวงและวัดในกรุงเทพฯ มาให้สักการะในงาน โดยหวังว่าจะทำให้คนที่อยู่ในเมือง ที่มีความศรัทธาได้ทราบว่าในกรุงเทพฯ ก็มีพระพุทธรูปปางต่างๆ และสามารถตามไปกราบไหว้องค์จริงต่อไป”
สำหรับการอัญเชิญพระพุทธรูปบูชา จะมีการอัญเชิญมาครบทั้ง 9 ปาง เป็นพระประจำวันเกิด เพื่อให้ผู้ร่วมงานสักการะ ได้แก่ พระพุทธรูปปางถวายเนตร ประจำวันอาทิตย์ จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพฯ, พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร หรือปางห้ามญาติ ประจำวันจันทร์ จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯ, พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ประจำวันอังคาร จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร (วัดโพธิ์) จ.กรุงเทพฯ, พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ประจำวันพุธ (กลางวัน) จากวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม, พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ประจำวันพุธ (กลางคืน) จากวัดใหม่ทองเสน กรุงเทพฯ
ยังมี พระพุทธรูปปางสมาธิ ประจำวันพฤหัสบดี จากวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ, พระพุทธรูปปางรำพึง ประจำวันศุกร์ จากวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ, พระพุทธรูปปางนาคปรก ประจำวันเสาร์ จากวัดโพธิ์ กรุงเทพฯ และสำหรับผู้ไม่รู้วันเกิดมีการอัญเชิญ พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร-พระเกตุ จากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ อีกองค์หนึ่งเป็น พระพุทธนาคน้อยองค์จำลอง วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และอีกองค์เป็น หลวงพ่อวัดไร่ขิง จากวัดไร่ขิง จ.นครปฐม
ชุมฉันท์อธิบายว่า นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเนื้อหา ที่อยากจะให้คนที่มาสักการะพระประจำวันเกิด ได้รู้ความหมายเเละที่มาที่ไป ตามพุทธประวัติและหลักพระธรรม ตามแต่ละปาง ไม่ใช่แค่ท่องบทสวด เพราะถ้าเราไหว้พระด้วยแล้วเชื่อมต่อถึงพระธรรมด้วยจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง
นอกจากพระพุทธรูปประจำวันเกิดที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ในปีนี้ ภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการไหว้พระทั่วไทย อัญเชิญพระพุทธรูปจำลององค์สำคัญจาก 4 ภาค ประกอบด้วย หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อพระใส จ.หนองคาย, พระเชียงแสน พระพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อทองคำ วัดพิพัฒนมงคล จ.สุโขทัย หลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก จ.ตาก พระศรีอาริย์ จากวัดศรีสุดาราม กรุงเทพฯ ยังมีกิจกรรมฟังธรรมเทศนาจากพระเถระชื่อดัง และนำเสนอเนื้อหาท่องเที่ยวไหว้พระทั่วไทย รวมทั้งกิจกรรมงานบุญ มีพระภิกษุจากวัดหนัง เขตจอมทอง กรุงเทพฯ รับสังฆทานทุกวันประจำจุดทุกวัน
“ปีนี้ก็ยังมีพิธีถวายมหาสังฆทาน ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสมมหาเถระ) เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร และพระสงฆ์ 99 รูป” ชุมฉันท์อธิบายถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในงาน
พร้อมความหวังว่า ผู้ร่วมงานจะได้รับสิ่งดีๆ กลับไป
“สำหรับความคาดหวังในงานครั้งนี้ ก็อยากให้คนไทยได้มีโอกาสมาไหว้พระที่รวมมาจากทั่วประเทศในวันเดียว ประกอบกับช่วงนี้ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้คนมีความกังวลมากกว่าปกติ ก็หวังว่าคนที่มาร่วมงานอย่างน้อยจะได้รับความสบายใจกลับไป ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว หรือผู้สูงอายุที่มาร่วมงานมากในทุกปี รวมถึงกลุ่มคนหนุ่มสาวก็มาได้ เพราะเรื่องความสบายใจเป็นเรื่องที่คนทุกวัยแสวงหา นอกจากความสบายใจแล้วก็อยากให้คนที่มาฟังเทศน์มาพิเคราะห์พระพุทธรูป ได้เรียนรู้เรื่องธรรมะ ที่เป็นเรื่องของการใช้ปัญญา นำไปสู่การมีสติ มีสมาธิ เป็นแก่นแท้ที่จะนำมาสร้างความสบายใจในการดำเนินชีวิต ก็จะตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ” ชุมฉันท์ทิ้งท้าย
สำหรับงาน “สบายใจไหว้พระดี สะสมบุญปี 60” จัดขึ้นที่เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ ระหว่างวันที่ 16-19 มีนาคมนี้
