ทุกวันนี้เมื่อเราพบปะกับเพื่อนๆ คนทำงานไม่ว่าจะอาชีพใด เงินเดือนเท่าไร ตำแหน่งอะไรก็มักจะได้ยินเสียงบ่นไม่โดยตรงก็โดยอ้อมว่า “เบื่องาน ไม่มีความสุขกับงานที่ทำ” ยิ่งเข้าไปดูในเว็บไซต์ชื่อดังเว็ปหนึ่งเราก็ต้องพบกับกระทู้เรื่องความทุกข์ของคนทำงานนานัปการ ตั้งแต่ปัญหาเพื่อนร่วมงานไปจนถึงหัวหน้างาน หลายคนเปลี่ยนงานมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบงานท้ายที่สุดก็เสียดายงานเก่าเพราะที่นั่นมีปัญหาน้อยกว่าที่ใหม่
รศ.สุชีลา ตันชัยนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันปัญญาสิกขา ซึ่งเป็นสถาบันที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการทำหน้าที่สร้างความสุขให้คนทำงานในทุกองค์กร เป็นการสร้าง Happy Workplace : Happy Soul เพื่อให้คนทำงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในที่ทำงานและในชีวิตประจำวัน กล่าวว่า จากรายงานการสำรวจของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลในปี พ.ศ.2555 พบสถานการณ์ความสุขคนทำงานในประเทศไทยว่า คนทำงานทั่วประเทศมีความสุขร้อยละ 61 หรือมีคน 61 คนจาก 100 คนที่มีความสุข ในกลุ่มนี้ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่มีความสุขด้านจิตใจที่เหลือเป็นความสุขภายนอก
อย่างไรก็ตามมีอีก 3 มิติยังเป็นประเด็นที่น่าห่วงใยได้แก่ ใน 100 คนครึ่งหนึ่งมีภาวะเครียด ใน 100 คนมากกว่าครึ่งหนึ่งมีปัญหาการเงิน และสุดท้ายคือ ใน 100 คนมากกว่าครึ่งหนึ่งมีปัญหาครอบครัว
ทำไมต้อง “สุขใจกับการทำงาน” สถาบันปัญญาสิกขาได้พัฒนาหลักสูตรต่างๆ ของสถาบันอย่างต่อเนื่อง เช่น หลักสูตรโครงการสุขใจกับการทำงาน เป็นโครงการที่แก้ทุกข์ให้คนทำงานและตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานที่แตกต่างและหลากหลาย วัตถุประสงค์คือ เพื่อสร้าง Happy Soul ทุกคนมีความสุขกับการทำงาน และ Happy Workplace คือการสร้างบรรยากาศที่มีความสุขในองค์กร หลักสูตรนี้จะชี้ให้เห็นถึงสาเหตุของความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการทำงาน รวมทั้งแสดงวิธีและเคล็ดลับที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น
สุดท้าย รศ.สุชีลา ได้ยกตัวอย่างคำพูดของ พระไพศาล วิสาโล ในเรื่องการทำงานว่า
“ทำงานอะไรไม่สำคัญเท่ากับทำงานอย่างไร กล่าวคือ งานทำด้วยใจรักหรือหวังเงินทอง ทำด้วยใจจดจ่ออย่างมีสติ หรือทำด้วยใจที่ฟุ้งซ่าน หากวางใจไว้ไม่ถูก ไม่ว่าทำงานอะไร เปลี่ยนงานกี่ครั้งก็หาความสุขได้ยาก…”
