เปิดลิสต์ 6 วัดลับ ฉบับโลคอลฮ่องกง สายมูตัวจริงต้องไปให้ถึง
ในฐานะมหานครระดับโลกแห่งเอเชีย ‘ฮ่องกง’ ถือเป็นเดสทิเนชั่นของเหล่าสายบุญ สายมูเตลู ที่นิยมเดินทางมาสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดดังต่างๆ
ท่ามกลางตึกสูงเสียดฟ้า และท้องถนนอันพลุกพล่าน ‘ฮ่องกง’ ยังมีวัดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ถือเป็น ‘วัดลับ’ ที่ ‘คนท้องถิ่น’ มักมากราบไหว้บูชาในวันสำคัญ อาทิ ตรุษจีน เทศกาลไหว้พระจันทร์ วันเกิด หรือเทศกาลฉลององค์เทพ
การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) จึงอาสาเป็นไกด์พาออกสำรวจ ‘ฮ่องกงมุมใหม่’ ที่หลายคนยังไม่เคยรู้จัก ทั้งการออกเยือน ‘วัดลับ’ ใน ‘ฮ่องกง’ ที่นักท่องเที่ยวไทยอาจยังไม่คุ้นเคย แต่เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่น โดยได้ ‘อ.คฑา ชินบัญชร’ กูรูสายมูฯ ตัวจริง แนะนำเคล็ดลับในการสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดแต่ละแห่งอย่างครบถ้วนฉบับโลคอลฮ่องกงให้สายมูฯไปมูฯ กันแบบไม่ซ้ำใคร
- วัดกว๋อง-ฟก-ฉี่-ห่อง วัดขอคู่-รักใคร่ปรองดอง
เริ่มต้นวัดแรก ‘วัดกว๋อง-ฟก-ฉี่-ห่อง’ ตั้งอยู่บนถนนไถ่ผิงซาน ‘ย่านเซิงหว่าน’ เป็นย่านที่เงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม มีร้านค้าใหม่ แกลเลอรี่ศิลปะ และคาเฟ่มากมาย ถนนยาว 300 เมตร
ณ ถนนแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่อย่าง ‘วัดกว๋อง-ฟก-ฉี่-ห่อง’ ที่ขึ้นชื่อในหมู่คนฮ่องกง ว่าเป็น ‘วัดขอคู่’ เพราะแม้แต่ดาราดังๆ ก็ยังแวะเวียนมาไหว้ ด้วยมีองค์เทพที่ได้รับความร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ คือ ‘หยืดว์-โหลว’ หรือ ‘ผู้เฒ่าจันทรา’ หรือ ‘เทพพ่อสื่อในตำนานจีน’ ที่นี่สามารถทำพิธีผูกด้ายแดงได้ด้วย โดยมีเกจิอาจารย์ของวัดเป็นผู้ประกอบพิธีให้

อ.คฑา แนะนำว่า สำหรับคนโสด ให้มาขอคู่จาก ‘ผู้เฒ่าจันทรา’ ส่วนคนมีคู่หรือแฟนแล้ว แต่อยากให้มีความสุข ให้มาขอพรจาก ‘เทพปรองดองกัน’ หรือ ‘ฮั้วท้อเซียนซือ’

“วัดแห่งนี้ไม่ได้เหมาะแค่คู่รัก หรือคนโสดเท่านั้นแต่ยังเหมาะกับคนทำธุรกิจ หุ้นส่วน รัฐบาล ประเทศชาติ มาขอพรให้คนในองค์กร และประชาชนรักกันสามัคคีกันก็ส่งพลังให้ประเทศชาติรุ่งเรือง”
นอกจากเป็นวัดขอคู่แล้ว วัดนี้ยังถูกเรียกว่า ‘วัดจี้กง’ เพราะมีรูปปั้นองค์จี้กงให้สักการะอยู่ภายใน อ.คฑาบอกว่า ใครอยากขอพรเรื่องความสำเร็จ ขอโชคลาภ การเงิน การมีกินมีใช้ผู้ใหญ่เมตตา ให้มาขอพระกับองค์จี้กงที่ขออะไรก็ได้สำเร็จ
- วัดหยวนหยวน แก้ปีชงกับองค์ไท้ส่วยเอี๊ย
ต่อกันที่ ‘ย่านซึนวาน’ เขตทางตะวันตกของ New Territories อาจดูไกล แต่เดินทางสะดวกด้วย MTR สายสีแดง สถานี Tsuen Wan และสายสีน้ำตาล สถานี Tsuen Wan West โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นย่านที่อยู่อาศัย แต่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และท่ามกลางหุบเขาและแม่น้ำ เป็นที่ตั้งของ ‘วัดหยวนหยวน’ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1950 เพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธ ลัทธิขงจื๊อ และเต๋า


ไฮไลต์สำคัญคือ ‘หอฟ้า’ อาคารทรงหกเหลี่ยมจำลองจากหอฟ้าเทียนถานในปักกิ่ง ผู้คนมักมาสักการะ ‘องค์ไท้ส่วยเอี๊ย’ ที่นี่เพื่อแก้ปีชง และสักการะศาลไฉ่ซิงเอี๊ย ศาลเทพเจ้าโชคลาภ 5 องค์ที่มอบพรในด้านต่างๆ ตามทิศ ได้แก่ ทิศเหนือ (ธาตุน้ำ) โชคลาภที่ไม่คาดคิด เช่น จากการลงทุน, ทิศใต้ (ธาตุไฟ) โชคลาภจากที่ดินหรือการเพาะปลูก, ทิศตะวันออก (ธาตุไม้) การงานก้าวหน้า ค้าขายรุ่งเรือง, ทิศตะวันตก (ธาตุทอง) โอกาสภายนอก การค้ากับต่างประเทศ และศูนย์กลาง (ธาตุดิน) ความมั่งมีในภาพรวม
อ.คฑาเผยว่า วัดหยวนหยวนถือเป็นวัดที่มีพลังมาก ชาวฮ่องกงนิยมมาฝากดวงชะตากับองค์ไท้ส่วยเอี๊ยเทพเจ้าประจำปีเกิด ในช่วงตรุษจีน ณ วัดแห่งนี้ จำนวนมาก

สำหรับ ‘วิธีการไหว้แก้ชง’ อ.คฑาแนะนำว่า 1.จุดธูปใหญ่ 3 ดอก ธูปเล็ก 6 ดอก หันหน้าไปทางประตูวัด บอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสิ่งที่ต้องการขอ ปักธูปดอกเล็กที่กระถางซ้ายขวา กระถางละ 3 ดอก จากนั้นนำธูปดอกใหญ่ ไปปักไว้บนกระถางชั้นบนของหอฟ้า หน้าองค์พระศาสดาทั้งสาม คือ พระพุทธเจ้า ขงจื๊อ และศาสดาของลัทธิเต๋า
2.ลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อไหว้องค์ไท้ส่วยเอี๊ย ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 60 องค์ตามปีนักษัตร ในโถงชั้นนี้ห้ามจุดธูป แต่จะใช้วิธีวางธูปหน้าเทพเจ้าหลังจากไหว้เสร็จสิ้น โดยจะเริ่มจากไหว้องค์ ‘เต๋า-โหม่ว’ หรือเต๋าบ๊อ (Doumu) พระมารดาแห่งดวงดาวที่มี 3 พระเศียร และ 8 พระกร จากนั้นตรงไปไหว้ที่องค์ไท้ส่วยเอี๊ยประจำปีเกิด วางธูป 3 ดอก และไหว้องค์อื่นๆ พร้อมวางธูปองค์ละ 1 ดอก จนครบ 60 องค์
- สำนักสงฆ์ไซ้ฟ้องจี๋ ชมเจดีย์ 9 ชั้นอันงดงาม
ถัดไปไม่ไกล ‘สำนักสงฆ์ ไซ้-ฟ้อง-จี๋’ (Western Monastery) ที่มีเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมที่จำลองจากพระราชวังจีน ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ เจดีย์ 9 ชั้น ที่บรรจุพระพุทธรูปและโบราณ วัตถุจำนวนมาก และอุทยานเจ้าแม่กวนอิมที่ร่มรื่น สงบ พร้อมประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมหลากหลายปาง การเดินทาง MTR สถานี Tsuen Wan, Exit B1 แล้วเดินไปที่ถนน ‘ซิว-หว่อ-ก๊าย’ (Shiu Wo Street) เพื่อไปขึ้นมินิบัสสาย 81

อ.คฑาเล่าว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่ถูกฮวงจุ้ย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะฮ่องกงและเกาลูน เป็นวัดที่มีจุดรับพลังที่ดี โดยอยู่บนเนินเขา สามารถมาไหว้ขอพรเรื่องการสอบ การแข่งขัน และให้มีสติปัญญาดี
“วิธีการพุทธจีนนิกาย บอกว่า การมาไหว้พระ คือ การสั่งสมพลังดีๆ เข้ามาไว้กับตัวเรา ส่วนเต๋าบอกว่า การมาเดินในสถานที่ที่ฮวงจุ้ยดี ร่างกายของเราจะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ลมหายใจของเราจะเป็นหนึ่งเดียวกับลมหายใจของโลก ผิวสัมผัสรู้อุ่น ร้อน หนาว เย็น ตาของเราได้มองเห็นแต่สิ่งที่สวยงาม เหล่านี้ เป็นการนำธรรมชาติของเรารวมเป็นหนึ่งเดียว เราจะได้รับพลังจักรวาลและธรรมชาติ”
- วัดหลินฟ้า เยือนจุดกำเนิด เทศกาลประจำปีของฮ่องกง
มาที่ ‘ย่านไท่หาง’ ในพื้นที่เล็กๆ ซ่อนตัวจากถนนใหญ่ ไม่ไกลจาก Causeway Bay และยังเป็นพื้นที่กิน-ดื่มในบรรยากาศชิลๆ อีกด้วย ณ ย่านแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของ ‘วัดหลินฟ้า’ (Lin Fa Kung) วัดนี้บูชาเจ้าแม่กวนอิมส่วนชื่อวัดว่า ‘หลี่น-ฟ้า-ก๊ง’ แปลว่า วังดอกบัว มีที่มาจากความเชื่อที่ว่า เจ้าแม่กวนอิมศึกษาการเทศนาธรรมบนดอกบัว

วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นราวปี ค.ศ.1863 ในสมัยราชวงศ์ชิงมีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเจ้าแม่กวนอิมเคยปรากฏกายบนก้อนหินใหญ่ที่นี่ ชาวบ้านจึงสร้างวัดบนหินก้อนนั้นเพื่อบูชาท่าน พร้อมกับเรียกหินก้อนนั้นว่า “หินดอกบัว” ปัจจุบันยังปรากฏหินก้อนใหญ่อยู่บริเวณด้านหลังของวัด

ผู้คนมักมาสักการะขอพรโดยรวมจากเจ้าแม่กวนอิม เทพธิดาแห่งความเมตตา ในวันที่มีพิธีเปิดท้องพระคลังเจ้าแม่กวนอิม ช่วงวันที่ 26 ของเดือน 1 จะมีผู้คนนับพันมาต่อคิวด้านนอกวัดเพื่อรอเข้าไปสักการะและทำพิธีทุกปี นอกจากนี้ ยังมี เทศกาลเชิดมังกรไฟ (Tai Hang Fire Dragon Festival) ซึ่งเป็นประเพณีโบราณในช่วงวันไหว้พระจันทร์ของคนในหมู่บ้านไท่หางที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่าศตวรรษ

- วัดเจ้าแม่ทับทิม จอสเฮาส์เบย์ ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง
ปิดท้ายย่านไซกุง ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น ‘สวนหลังบ้านของฮ่องกง’ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวภูเขาและทะเลยอดนิยมสำหรับคนท้องถิ่น ทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย เช่น ปีนเขาแคมป์ปิ้ง หรือนั่งเรือเพื่อออกสำรวจเกาะบริเวณรอบๆ หากใครเป็นสายกิน ที่นี่คือแหล่งกินอาหารทะเลที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง บางร้านยังได้ดีกรีมิชลินสตาร์อีกด้วย
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ‘วัดเจ้าแม่ทับทิม จอสเฮาส์เบย์’ วัดเจ้าแม่ทับทิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ต่าย-หมีว’ หมายถึงวัดที่ยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1266 ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของฮ่องกง
ผู้คนมักมาสักการะขอพรองค์เจ้าแม่ทับทิม เทพธิดาแห่งท้องทะเล หรือราชินีแห่งสรวงสวรรค์ ให้เดินทางปลอดภัย โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวไทยมักจะมาในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์

ไฮไลต์ของวัดนี้ คือห้องที่อยู่ทางด้านซ้ายของห้องโถงหลัก อันเป็น ‘ห้องนอนของเจ้าแม่ทับทิม’ ภายในมีเตียงมังกรจำนวน 3 หลัง ให้ผู้คนได้เข้ามาขอพรในเรื่องการเงิน สุขภาพ และขอบุตร โดยหลังจากอธิษฐานเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้มือทั้งสองข้างทำท่าโกยเข้าหาตัวจำนวน 3 ครั้ง จากนั้นล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มเพื่อคลำหาของ เชื่อกันว่า หากคลำพบ ‘เมล็ดบัว’ หมายถึงจะได้ลูก หรือหากคลำเจอซองใส่เงินนำโชค ก็จะพบกับความร่ำรวยในปีที่กำลังจะมาถึง วันที่ผู้คนนิยมมาสักการะวัดแห่งนี้คือ วันเทศกาลเจ้าแม่ทับทิม
- วัดแชกง โหวช้ง ไหว้แชกง 400 ปี หมุนกังหันนำโชค
จบทริปสายบุญสายมูที่ ‘วัดแชกง โหวช้ง’ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราว 400 ปีก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเก่าแก่กว่าวัดที่ซาถิ่น ตามประวัติศาสตร์ นายพลแชกง เป็นผู้นำทัพในสมัยราชวงศ์ซ่งในการเดินทางมายังฮ่องกงและปักหลักที่ไซ-กุง หลังจากนายพลแชกงเสียชีวิต คนในพื้นที่จึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและแสดงความเคารพต่อเรื่องราวของท่านนายพลแชกง คนในพื้นที่มักมาสักการะท่านเนื่องจากเชื่อว่าพลังอำนาจของท่านจะช่วยปัดเป่าโชคร้าย พัดพาโชคดีเข้าหาตัว และให้พรด้านธุรกิจรุ่งเรือง วัดแชกง โหวช้ง ยังมีกังหันใหญ่ 2 ตัวตั้งอยู่ด้านหน้าวัด ตัวทางซ้ายเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงครอบครัวส่วนตัวทางขวาสื่อถึงความราบรื่นในชีวิต



แวะย่านลับ สักการะวัดท้องถิ่นที่เด็ดไม่แพ้ใคร สำหรับผู้ที่สนใจขอแนะนำคู่มือเที่ยววัดฮ่องกง ‘ฮ่องกงที่สุดแห่งพิกัดการมูเตลู’ ไกด์บุ๊กสายมูฯ สุดน่ารัก ที่จะรวบรวมเอาวัดเด็ด วัดลับในฮ่องกงถึง 25 วัด พร้อมเทคนิคการไหว้จากอาจารย์คฑา ชินบัญชร ที่สำคัญยังมีแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในแต่ละย่านอีกด้วย เรียกว่าครบจบในเล่มเดียว ดาวน์โหลด ไกด์บุ๊ก ในรูปแบบดิจิทัลพกพาง่ายได้เลยที่ https://bit.ly/goodfortunehk
- อ.คฑา เผยทริกขอพรที่ฮ่องกงให้ได้ผล และการไหว้พระที่เปลี่ยนแปลงไป
อ.คฑา ชินบัญชร กล่าวถึงเสน่ห์ของฮ่องกงที่ทำให้คนไทยนิยมมาไหว้พระนั้น เริ่มตั้งแต่ฮ่องกงเดินทางง่าย มีหลายสายการบินเปิดให้บริการ รวมไปถึงเรื่องที่พักในฮ่องกงที่มีพลังงานที่ดีในหลายๆ ที่ โดยเฉพาะริมอ่าววิคตอเรีย ฉะนั้น เมื่อมาที่นี่ก็จะได้รับพลังงานดีๆ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังอากาศดีตลอดทั้งปี และสุดท้าย วัดในฮ่องกงมีความศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญมีความศรัทธา อาจจะเป็นเพราะว่าเราข้ามน้ำ
ข้ามทะเลมาทำให้เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจ เรียกว่า วิริยะบารมี บากบั่นพากเพียร ซึ่งนี่เป็นเสน่ห์ของการมาฮ่องกง สุดท้ายเรื่องของอาหาร อาหารการกินที่นี่มีตั้งแต่ อาหารท้องถิ่น สตรีทฟู้ด ไฮเอนด์ฟู้ดมิชลินสตาร์ มีความหลากหลาย แล้วก็มีรสชาติที่กลมกล่อม ถูกปากคนไทย ราคารับได้
“ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างทำให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายหลักของคนไทยในหลายปีที่ผ่านมา เพราะได้ครบถ้วนเลย พลังแห่งน้ำ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ พลังของไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่า หมายถึงความเจริญเติบโตงอกงาม พลังของไฟก็คือแสงอาทิตย์ หมายถึงความรุ่งเรือง พลังแห่งดินก็ภูเขาต่างๆ หมายถึงความมั่นคง พลังแห่งทองหมายถึง มั่งคั่ง ร่ำรวย ครบถ้วน ฮ่องกงจึงถือว่ามีเสน่ห์แบบสุดๆ”

โดยเคล็ดลับการไหว้ อ.คฑามีทริกง่ายๆ ว่า การไหว้คล้ายๆ ชาวจีน นั่นคือ 1.การไหว้ฟ้าดิน ไหว้ทิศ ไหว้เจ้าที่ และเข้าไปไหว้พระประธาน อันนี้คือความสำคัญ 2.อย่าเหยียบธรณีประตู เชื่อกันว่ามีแม่พระธรณีอยู่ อีกอันหนึ่งก็คือมันเป็นอันตราย เพราะธรณีประตูมันแคบ และก็เกะกะขวางทางคนเข้า-ออก 3.แต่งกายสุภาพ
“เคล็ดลับของชาวฮ่องกง คือ เขาจะยืนอธิษฐานนานๆ เพราะฉะนั้นหลายคนถามว่า ทำไมผมถึงให้ทุกท่านอธิษฐานอย่างละเอียด เพราะว่าเราต้องบอกชื่อ นามสกุล เอ่ยพระนามพระหรือเทพที่เราไหว้ จากนั้นเอ่ยความต้องการของเรา และที่สำคัญกำหนดเวลาด้วย เราจะได้รู้ว่าท่านประทานพรไว้ จะคิดในใจ จะเอ่ยออกเสียงได้หมด ขอเพียงแค่ว่าให้เรามีจิตที่มั่นคง และเป็นสมาธิ เรียกว่าจิตเรารวมเป็นหนึ่งต่อองค์พุทธะ หรือองค์เทวะ”
“แต่สิ่งที่อยากจะห้ามเลย ก็คือว่า การไปคิดทำอะไรที่แผลงๆ เช่น เขาไม่ปิดทอง ก็ไปปิดทอง เขาไม่ทำแบบนี้ ก็ไปทำ พยายามหาอะไรทำที่มันดูแหวกแนว แตกต่างแล้วก็คิดว่ามันสเปเชียล พิเศษ ตรงนี้เนี่ย มันไปทำให้ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมเขาอาจเสียหายหรือไปรบกวนคนที่มาไหว้พระ โดยเฉพาะทั้งนักท่องเที่ยว รวมทั้งคนพื้นถิ่น อันนี้อาจารย์ก็อยากฝากบอก ขออนุญาตเป็นกระบอกเสียง ว่าขอให้ทำให้ถูกต้องด้วย”
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลกับคนในปัจจุบัน อ.คฑาเผยว่า สำหรับในอนาคตคิดว่าวัดในฮ่องกงจะน่าเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการลดการใช้เทียนและธูป สำหรับบางวัด บางศาลเจ้า โดยเฉพาะบางวัดที่อยู่ใกล้ชุมชน เพื่อลดค่าฝุ่น PM2.5
“การไหว้พระปัจจุบัน แต่ละวัดปรับตัวเร็วมาก มีคิวอาร์โค้ดให้สแกนในการอธิษฐานจิต เช่น ถ้าเราไม่มีเวลา ก็สามารถสแกนภาพเทพของวัด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด จากคิวอาร์โค้ด แล้วอธิษฐานตามคิวอาร์โค้ดเลย อันนี้ถือว่าทันสมัย หรือถ้าจะทำบุญก็สแกนคิวอาร์โค้ดได้เลย อีกทั้งการเข้ามาในวัดต่างๆ ก็สะดวกมากขึ้น เช่น ไม่ต้องถอดรองเท้า เพราะฉะนั้นผมมองว่า วัดของฮ่องกงได้ปรับตัวเข้ากับคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี แล้วจากที่พานักท่องเที่ยวชาวไทยมาฮ่องกงเพิ่มขึ้น อายุก็ลดลงเรื่อยๆ จากสมัยก่อนจะเป็นรุ่น 60-70 ปี ปัจจุบันอายุ 20 กว่า จนถึง 40 ปี ซึ่งก็เป็นช่วงอายุที่ลดลงในการท่องเที่ยวสายใหม่” อ.คฑากล่าว