พอดีได้ไปเห็นข่าวเรื่องบริการ “เพจเจอร์” ในประเทศอังกฤษ ที่กำลังจะเหลือแค่บริษัทเดียวที่ให้บริการคือบริษัทแคปิตา ที่ให้บริการเพจเจอร์ในนามของ “เพจวัน” แล้วมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของเพจเจอร์ ก็เลยอยากเอาเรื่องเพจเจอร์มาเล่าสู่น้องๆ ได้ฟังกัน
ก่อนอื่นก็ต้องเล่าถึงเรื่องเพจเจอร์กันก่อน เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงไม่รู้จักเพจเจอร์ หน้าตาของเพจเจอร์ก็คืออุปกรณ์พกพาเล็กๆ ที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล เอาไว้ติดตามตัว เป็นที่นิยมกันอย่างมากเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ใครพกไว้ไม่มีตกเทรนด์ เวลาติดต่อก็จะต้องโทรเข้าไปที่ศูนย์ให้บริการของแต่ละเจ้า แล้วแจ้งเบอร์หรือข้อความให้ส่งไปที่เครื่อง ก็แล้วแต่รุ่นว่ารุ่นไหนจะอ่านได้แต่ตัวเลข รุ่นใหม่หน่อยก็อ่านตัวอักษรได้แล้ว
แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมา ก็เลยทำให้เพจเจอร์ได้รับความนิยมน้อยลง และบริการมือถือก็เริ่มเข้ามาแทนที่ จนตอนนี้แทบจะไม่เห็นใครใช้เพจเจอร์กันแล้ว
กระทั่งคุณพี่ได้มาเห็นข่าวนี่แหละว่า ที่ประเทศอังกฤษก็ยังมีการใช้บริการเพจเจอร์กันอยู่ ตอนนี้มีอยู่ 2 บริษัทที่ให้บริการคือโวดาโฟนกับแคปิตา ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าแคปิตาจะซื้อธุรกิจส่วนเพจเจอร์ของโวดาโฟนไป แต่ถูกสำนักงานเพื่อการแข่งขันและอำนาจในเชิงพาณิชย์ของอังกฤษ หรือซีเอ็มเอ ขู่ว่าจะเข้าไปตรวจสอบว่าการซื้อขายธุรกิจครั้งนี้จะเข้าข่ายว่าจะทำให้เกิดการผูกขาดบริการและทำให้ลูกค้าอาจจะต้องจ่ายค่าบริการที่สูงขึ้น
ว่าแล้วโวดาโฟนก็เลยออกมาประกาศว่าจะไม่ขายธุรกิจให้แคปิตาแล้ว แต่จะขอประกาศปิดบริการเพจเจอร์ไปเลย หลังจากให้บริการมานานนับสิบๆ ปี
งานนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คงจะเป็นผู้ที่ยังใช้บริการเพจเจอร์ของโวดาโฟนอยู่ ซึ่งจากตัวเลขเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 1,000 คน
และทำให้อังกฤษเหลือผู้ให้บริการเพจเจอร์เพียงรายเดียวคือ “แคปิตา”
เรื่องนั้นจบไป ทีนี้ก็จะเหลือคำถามที่ว่า แล้วใครเป็นกลุ่มคนที่ยังใช้เพจเจอร์กันอยู่
คำตอบก็คือ บรรดาบุคลากรด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทั้งหลาย และพวกดูนก
ซึ่งเหตุผลที่ใช้เพจเจอร์แทนมือถือ เพราะมีเครือข่ายที่น่าเชื่อถือมากกว่า โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ห่างไกล และแบตเตอรี่ก็อยู่ได้ยาวนานกว่า
เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่คุณพี่เห็นว่าอยู่ได้ทนนานดีจริงๆ
**พี่ศรีหนุ่ย**
