“หากใครจะเรียกม๊าเดี่ยวว่าเน็ตไอดอล ก็ขอเป็นเน็ตไอดอลที่ดี มีประโยชน์ การเป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่เป็นเรื่องดีแต่ทำให้ม๊าเดี่ยวต้องทำตัวให้ดีเสมอ”
พูดถึงเน็ตไอดอลชื่อดัง หลายคนอาจจะคิดถึงภาพวัยรุ่นหน้าตาดี แต่งตัวสวย แต่กับ “ม๊าเดี่ยว” อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ เรียกได้ว่าเน็ตไอดอลที่ฉีกแนวความดังจากใครคนอื่น เมื่อวัยรุ่น 18 ปีจากขอนแก่นคนนี้สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการแฟชั่น โดดเด่นด้วยชุดจากของใกล้ตัวทั้งผ้า สุ่มไก่ ใบไม้ สังกะสี มาครีเอตออกเป็นแฟชั่นสุดแนว โด่งดังจนนิตยสารไทม์ ยกให้เป็น 1 ในผู้นำคนรุ่นใหม่ของโลก เมื่อเดือนตุลาคม 2559
ก่อนจะโด่งดังไปไกลแบบนี้ จุดเริ่มต้นความฝันของม๊าเดี่ยวก็เหมือนกับคนทั่วไป เมื่อได้เห็นนางแบบนายแบบในนิตยสารแต่งตัวสวยงาม แรงบันดาลใจที่อยากจะทำชุดสวยๆ ก็เกิดขึ้น ม๊าเดี่ยวในวัยอนุบาลเห็นภาพแฟชั่นในนิตยสารในร้านทำผมชาย มุ่งกลับบ้านไปขอแม่ซื้อตุ๊กตา ขอเศษผ้าจากข้างบ้านมาตัดชุดให้ตุ๊กตา และเมื่อเฟซบุ๊กเป็นที่นิยม เด็กวัย 16 ในตอนนั้นก็นำเอาผลงานมาอวดเพื่อนๆ บ้าง จนภาพของม๊าเดี่ยวมีคนกดไลค์และแชร์ออกไปจนเปรี้ยงในที่สุด
“แรกๆ ที่เริ่มถ่ายภาพ เราก็หยิบเอาผ้าขนหนู ผ้าม่านมาทำเป็นชุด ก่อนเขยิบมาเป็นใบไม้ จนแอดวานซ์ขึ้นใช้อิฐบล็อก สังกะสี มาทำเป็นชุด ความสนุกคือเวลาถ่ายคุณพ่อจะถ่ายให้เป็นร้อยภาพ ถ่ายทุกมุม แต่ชุดจะมีแค่ด้านหน้าเท่านั้น ด้านหลังโล่งๆ เปลือยๆ รูปเป็นร้อยจะเอามาคัดเหลือรูปดีที่สุดใบเดียว เอามาแต่งภาพอีก เวลาลงก็ต้องเลือกเวลาให้ดี ให้คนเล่นเฟซบุ๊กเยอะ จะได้มีคนเห็นมากหน่อย ในทุกขั้นตอนของม๊าเดี่ยวเราคิดมาหมด ซึ่งโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและซัพพอร์ตทุกขั้นตอน”
“ผลพลอยได้คือม๊าเดี่ยวกลายเป็นคนมีนิสัยว่าต้องใช้ของให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเห็นอะไรก็เกิดไอเดีย” ม๊าเดี่ยวเผย
ไม่เฉพาะกับในไทย แต่ความเปรี้ยงของรูปเหล่านี้ยังไปเข้าตารายการต่างๆ ระดับนานาชาติอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบีบีซี ที่เข้าไปตามติดชีวิตม๊าเดี่ยวกว่าจะได้ภาพแต่ละภาพ หรือแม้กระทั่งเอเชีย เน็กซ์ ท็อป โมเดล รายการเฟ้นหานางแบบระดับเอเชียที่ม๊าเดี่ยวได้นำเอาชุดที่ไทยๆ อย่างสุ่มไก่ ผ้าขาวม้า ไปให้เหล่านางแบบจากประเทศต่างๆ ได้สวมใส่ ที่สุดคงไม่พ้นนิตยสารไทม์ ที่ม๊าเดี่ยวตื่นเต้นและภูมิใจแบบสุดสุด นั่นเพราะมีคนเห็นค่าในสิ่งที่ทำ
“สิ่งที่ม๊าเดี่ยวทำ คนไทยต่างมองว่ามันแปลก ตลก แต่ต่างชาติกลับมองว่ามันเป็นสิ่งสร้างสรรค์ ที่จริงแล้วเราแค่อยากส่งสารว่าของที่ไม่มีค่า เราสามารถทำให้มันมีค่าขึ้นมาได้ เราส่งสารผ่านสื่อไทยได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีสื่อต่างชาติให้ความสนใจ มันเหมือนได้ขยายความคิดนี้สู่คนอื่นมากขึ้นไปอีก” ม๊าเดี่ยวเผย
กับคนหลายคน แค่ดังก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่กับม๊าเดี่ยว มองว่านั่นคือขั้นแรกของความฝันเท่านั้น ทุกวันนี้ม๊าเดี่ยวเริ่มก้าวขั้นต่อไปด้วยการจริงจังกับการเรียนแฟชั่นดีไซน์ ที่โรงเรียนบุนกะแฟชั่น ทั้งยังมีโอกาสได้ชิมลางออกแบบคอลเล็กชั่นกับดีไซเนอร์ดัง โอ่ง กงพัฒน์ ในแบรนด์ KOxMA เมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจกับคอลเล็กชั่นนี้ไม่น้อย และยังเป็นด่านหินอีกด่านหนึ่งในชีวิต
“ม๊าเดี่ยวฝันไว้ว่า อยากเป็นดีไซเนอร์ที่คนทั่วโลกเปิดตู้เสื้อผ้ามาต้องมีเสื้อของเราชิ้นหนึ่ง เมื่อได้ลองทำคอลเล็กชั่นแรกในชีวิต เราไม่เพียงแต่ออกแบบ แต่ได้ฝึกทั้งการออกแบบ การผลิต จำหน่าย กว่าจะมีโชว์ใช้เวลาเป็นปี ทำให้รู้ว่าของจริงไม่ง่ายเลย ทำให้เราต้องพยายาม ฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นไปอีก แม้ว่าเส้นทางของเราจะมีคนเข้ามาว่าบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันแรง เราจะมองแต่คำวิจารณ์ที่เกิดประโยชน์ เพื่อไปปรับปรุงต่อมากกว่า”
“แม้ว่าใครจะว่าอย่างไร เราไม่ได้คิดมาก เพราะที่บ้านเขาเข้าใจ อบอุ่น เป็นกำลังใจที่ดี แม้พ่อแม่จะเป็นคนต่างจังหวัดที่ไม่รู้ว่าดีไซเนอร์คืออะไร แต่ก็สนับสนุนเราทุกขั้น แม้ว่าจะเป็นกะเทยแม่ก็รักที่เป็นแบบนี้ โดนว่าอะไรกลับมา บ้านเติมพลัง นั่นคือที่สุด วัยรุ่นคนอื่นก็เช่นกัน ทุกคนมีศักยภาพ ใครก็ตามที่ครอบครัวยังไม่เห็น เรามีหน้าที่ทำเต็มที่พิสูจน์ให้เขาเห็น เพราะกำลังใจที่บ้านสำคัญที่สุด”
“เพราะเรามีสิทธิจะฝันให้ไกล และสู้กับมันดีกว่าไม่มีเป้าหมายอะไรเลย”
