สนามกอล์ฟที่ชลบุรี มีสนามหนึ่งเรียกกันว่า “สนามผีเสื้อ”
ความจริงไม่ได้ชื่อนี้หรอก ชื่อที่เจ้าของสนามตั้งขึ้นมาคือ “สนามเพรสเซ่นวัลเล่ย์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ” แต่ชาวบ้าน โดยเฉพาะนักกอล์ฟนั่นแหละ ไม่นิยมเรียกชื่อที่เจ้าของตั้ง พากันเรียก “สนามผีเสื้อ” กันเสียเป็นส่วนใหญ่
ที่เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะเป็นสนามที่เต็มไปด้วยผีเสื้อหรืออะไรทำนองนั้นหรอกครับ เท่าที่ถามดูเป็นเพราะสนามนี้อยู่ใกล้ “สวนผีเสื้อ” แหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่คนรู้จักกันมากกว่า
คงเป็นเรื่องที่เกิดจากในช่วงที่สนามนี้สร้างเสร็จใหม่ๆ เมื่อบอกชื่อไป จะเป็นเรื่องปกติที่คนจะถามว่า “อยู่ตรงไหน” คำตอบคือ “ใกล้ๆ สวนผีเสื้อ” นานวันเข้าความง่ายๆ ก็ชนะ เลยถูกเปลี่ยนชื่ออย่างไม่ยินยอมพร้อมใจของเจ้าของว่า “สนามสวนผีเสื้อ” และย่นมาเป็น “สนามผีเสื้อ”
คราวนี้ผู้คนแถวนั้นก็ลืมชื่อจริงไปเลย เมื่อบอกว่าไป “สนามเพรสเซ่นวัลเล่ย์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ” จะเริ่มไม่มีใครนึกออกว่าอยู่ตรงไหน
แต่ถ้าบอกว่า “สนามผีเสื้อ” ไม่ต้องอธิบายต่อ
ถ้ามาเส้นมอเตอร์เวย์ หลุดจากชลบุรี บางแสน เข้าทางที่ป้ายบอกว่า “พัทยา ระยอง” แล้ววิ่งมาเรื่อยๆ สักพักหาทางเบี่ยงออกคู่ขนานซ้ายไว้ เพื่อความไม่เผลอเลย เพราะเลยเมื่อไรหาทางกลับรถยากมาก หากไม่ใช่เจ้าถิ่น
แยกเข้า “อ่างเก็บน้ำบางพระ” หรือจุดสังเกตคือสะพานรถข้ามแยกสะพานแรกของมอเตอร์เวย์ เลี้ยวเข้ามาวิ่งตรงเรื่อยๆ “สนามผีเสื้อ” อยู่ซ้ายมือ เข้ามาไม่ลึกมาก
ช่วงหลังๆ ที่ “ก๊วนเมืองชล” ของข้าพเจ้ามาสนามนี้บ่อย นัยว่าเป็นสนามมวลชนดี ไปง่ายมาง่าย ค่าเสียหายเหมาะกับการจ่ายบ่อยๆ
เป็นปกติครับ กอล์ฟกับกินเป็นของคู่กัน จุดนัดพบก่อนเข้าสนาม หรือจุดสังสรรค์หลังเล่นเสร็จ จะต้องมี บางคนใช้คลับเฮาส์ แต่บางคนชอบข้างนอกมากกว่า สำหรับ “ก๊วนข้าพเจ้า” เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นวันๆ ไป ในสนามบ้าง ข้างนอกบ่อย ร้านเปลี่ยนไปตามประสาคนอยากลองของใหม่
ที่จะบอกคือ เพราะ “สนามผีเสื้อ” ทำให้มาเจอร้านนี้
เป็นร้านไม่มีชื่อ อยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์ เหมือนร้านริมทางแวะกินระหว่างเดินทางทั่วไป อยู่ปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำบางพระ หรือทางเข้า “สนามผีเสื้อ” เลย หาไม่ยาก ถ้าใช้ความสังเกตสักนิด
การค้นพบเกิดจาก ครั้งหนึ่งที่นัดก๊วนมาสนามผีเสื้อ แล้วตั้งใจแวะกินร้านที่เคยกินข้างทาง ปรากฏว่าขับเลยร้าน เลยลองเลาะหาร้านอื่นมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงทางเลี้ยว เห็นป้าย “ก๋วยเตี๋ยวปลา” ก็แวะเลย
ปรากฏว่ามีของโปรด “ไก่หุบบอน” แฮะ ลองเลย
“ไก่หุบบอนจาน-ข้าวเปล่าจาน”
เข้าท่า เป็น “ไก่หุบบอน” ที่ไม่ต่างจากต้นตำรับ
กินครั้งนั้นก็จำไว้
พอมาอีกทีคราวนี้แวะทั้งที่ยังไม่หิวมาก สั่ง “กวยจั๊บน้ำข้น” มารองท้อง
จะว่าไป “นั่งกินรอเพื่อน” มากกว่า เพราะมาเร็วก่อนเวลามาก ขี้เกียจไปลงถุงเร็วให้แคดดี้บ่นว่ารอนาน นั่งไปสังเกตไปร้านนี้ไม่ได้ขายแค่จานด่วน อย่าง “ก๋วยเตี๋ยวปลา-กวยจั๊บ” หรือ “ไก่หุบบอน” แต่ยังมีอาหารตำรับเมืองชล ขึ้นป้ายไว้อีกหลายเมนู ตั้งใจไว้ถ้าอย่างนี้วันหลังต้องมาลอง
ที่ไหนได้วันนั้นพอเล่นกอล์ฟเสร็จ เพื่อนในก๊วนบอกมีธุระที่จะต้องรีบไป
จะหาร้านนั่งแช่ให้คนแพ้ถูกย้ำให้เจ็บแผลเหมือนคราวก่อนๆ ไม่ได้
ที่สุดมาลงร้านนี้ แฮ่ม! ข้าพเจ้าลองเสนอเองแหละ
ด้วยเหตุผลส่วนตัว ความรีบทำให้คนอื่นขี้เกียจคิด
แต่กินแล้วขอบอกเลยว่าไม่คิดเปลี่ยนน่ะถูกแล้ว นอกจากจะเป็นร้านง่ายๆ สะดวกแวะ ไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปไหนไกลแล้ว ทุกจานทุกชามที่สั่งมาถือว่าใช้ได้ ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แบบรสมือต้นตำรับ “สำรับชล”
เอาอย่างนี้ดีกว่า เพื่อนคนที่บอกว่าเร่งว่ารีบน่ะเจอฝีมือแม่ครัวร้านนี้เข้า ลืมไปเลยว่าต้องรีบกินรีบไป กินเอาๆ สรวลเสเฮฮาประสาคนที่เพิ่งขึ้นจากสนามกอล์ฟ ซึ่งใครที่เป็นนักกอล์ฟจะรู้ดีว่าเรื่องที่คุยกัน หน้าเหล้า หน้าข้าว หลังเล่นเสร็จนี่มันสนุกสนานแค่ไหน เชื่อเ ถอะว่าเอา “ตั๋วเดี่ยวไมโครโฟน” มาแลกยังไม่ยอม
กินไป อำกันไป ไม่มีอะไรจะสนุกเท่า ยิ่งได้ร้านที่มีอะไรถูกปาก ถูกใจ แบบนี้ วันนั้นงานที่บอกว่าต้องรีบไปน่ะ ลืมกันไปเลย
รู้ตัวอีกทีต่างบอกกันว่า “สงสัยงานเค้าเลิกแล้ว (ฮา)”