ปรากฏโฉมต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในการทำกิจกรรมทัศนศึกษากรุงเทพฯ กับกองประกวด ซึ่งเหล่าสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ทั้ง 40 คน ต่างสวยสง่าในชุดไทยจิตรลดาสีดำ
งานนี้ กองประกวดเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการพาสาวๆ สักการะขอพรศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น เดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง รวมทั้งทัศนศึกษาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สักการะพระแก้วมรกต และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
แม้ในช่วงเช้าสายฝนจะโปรยปรายลงมาเล็กน้อย แต่ทุกคนก็ตั้งใจร่วมกิจกรรมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 เพราะนับเป็นครั้งแรกของหลายคนที่ได้กราบพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง
หมายเลข 34 เฟรม-น.ส.รัตน์ชนก เนาวะเศษ อายุ 22 ปี ซึ่งเดินทางมาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และภูมิใจ เมื่อได้เข้าไปกราบก็ทำให้ความรู้สึกคิดถึงพระองค์กลับมาอีกครั้ง
“เฟรมเป็นคนอีสานได้ศึกษาพระราชกรณียกิจเรื่องฝนหลวง ที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น จากพื้นที่อีสานที่เคยแห้งแล้ง ก็ชุ่มชื้นขึ้นมาได้ นอกจากนี้ พ่อแม่ยังสอนตลอดในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด อดออม ไม่ฟุ่มเฟือย” รัตน์ชนกกล่าว
ด้าน สาวนักเรียนนอก หมายเลข 15 แก้ม-น.ส.กชกร ทรัพยโตษก วัย 21 ปี ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์เคมี มหาวิทยาลัย Paris Dederot ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมาร่วมประกวดในช่วงปิดเทอม เผยว่า ได้เข้ามากราบพระบรมศพครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจและตื้นตันมาก
“การเรียนที่ฝรั่งเศส ประเทศเขาไม่มีกษัตริย์ เมื่อตอนพระองค์เสด็จสวรรคต เพื่อนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องใส่ชุดดำ หรือต้องเศร้ามาก ก็ได้บอกเล่าให้เพื่อนฟังว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีแค่ไหน ทรงช่วยเหลือคนยากจน พัฒนาชนบท และทำให้ประเทศไทยดีขึ้น ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่าง ทรงรอบรู้ทุกด้าน มีพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี กีฬา ทั้งยังทรงขยัน ช่วยเหลือคนไทยในทุกด้าน ทำให้คนไทยมีความสุข” กชกรกล่าว
ปิดท้าย “มารีญา” น.ส.มารีญา พูนเลิศลาภ หมายเลข 5 อายุ 25 ปี เปิดใจว่า เพิ่งมีโอกาสได้มากราบพระบรมศพพระองค์เป็นครั้งแรก รู้สึกตื้นตันใจและปลื้มใจมาก
“ที่ผ่านมาก็ติดตามการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาโดยตลอด ที่ประทับใจมากที่สุดคือเรื่องเทคโนโลยี ที่พระองค์ทรงคิดค้นขึ้นมาเองเพื่อนำมาช่วยเหลือชาวนาในการบริหารจัดการน้ำ และกังหันชัยพัฒนา ทุกครั้งที่เจอเพื่อนต่างชาติจะเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้ฟังเสมอว่านี่คือพระมหากษัตริย์ของเราและของคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ซึ่งในชีวิตของมารีญานั้นไม่เฉพาะเพียงแค่การใช้เงิน แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิตและความคิด ทุกอย่างสามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข” มารีญากล่าว
จากนั้น ในช่วงบ่ายทั้ง 40 สาวงาม ได้ทัศนศึกษานิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และเดินทางไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุและชมทิวทัศน์อันงดงามบนภูเขาทอง วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร โดยในวันที่ 19-26กรกฎาคม เหล่าสาวงามจะเดินทางไปเก็บตัวทำกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่
