สรรหา มาเล่า…ผลสำรวจพบหนุ่มสาวทั่วโลก”ไม่ไว้ใจ”นักการเมือง

 

 

 

Advertisement

 

 

สํานักข่าวเอเอฟพี อ้างผลการสำรวจทั่วโลกของบริษัทเวียคอม (Viacom) พบว่า ความเชื่อมั่นไว้ใจในตัวบุคคลสำคัญ คนดัง อาทิ นักการเมือง และผู้นำทางศาสนาของคนหนุ่มสาวทั่วโลก ได้ลดลงฮวบฮาบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็ยังรู้สึกแฮปปี้ มีความสุข

Advertisement

จากข่าวเล่าว่า บริษัทเวียคอม บริษัทด้านสื่อของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของช่องรายการทีวีเกี่ยวกับวัยรุ่นหลายช่อง อาทิ ช่องเอ็มทีวี, ช่อง Nickelodeon รวมทั้งค่ายหนังพาราเมาท์ ได้ทำการสำรวจความเห็นของคนหนุ่มสาวจำนวน 28,600 คนใน 30 ประเทศทั่วโลกทางออนไลน์ เกี่ยวกับทัศนคติ ความเห็นของพวกในหลายเรื่อง ซึ่งพบว่า ในช่วงเวลานี้ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองมีความปั่นป่วนและในวงการศาสนาก็มีปัญหาความขัดแย้ง ปรากฏว่า มีคนหนุ่มสาวที่ตอบแบบสอบถามอยู่เพียง 9% ที่บอกว่ายังคงมีความเชื่อมั่นไว้ใจในตัวผู้นำทางศาสนา และมีอยู่เพียง 2% ที่บอกว่ายังคงเชื่อมั่นไว้ใจในตัวนักการเมืองของประเทศตน

ทั้งนี้ในผลสำรวจกล่าวว่า เมื่อนำผลสำรวจที่ได้เมื่อปี พ.ศ. 2555 มาเปรียบเทียบกับปี 2560 ซึ่งเป็นการสำรวจครั้งล่าสุด พบว่า ความเชื่อมั่น ไว้ใจในตัวผู้นำทางศาสนาของกลุ่มคนหนุ่มสาวอายุ 30 ปี หรือน้อยกว่า 30 ปี ใน 27 ประเทศ ที่บริษัทเวียคอมได้ทำการสำรวจ ได้ลดลงไปถึง 33% แต่ที่ไนจีเรียยังมีคนหนุ่มสาวที่บอกว่าเชื่อมั่นในตัวผู้นำทางศาสนาอยู่ 32%

ในผลสำรวจพบด้วยว่าทั้งแพทย์ ครู หรือแม้แต่เพื่อน ต่างได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจลดลงไปตามๆ กัน แต่บุคคลที่ผู้ถูกสำรวจในทุกประเทศระบุว่าคือบุคคลที่พวกเขาเชื่อมั่นและไว้ใจมากที่สุดก็คือ “แม่” ของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ค่อยไว้ใจใคร แต่ถึงกระนั้นผลสำรวจของเวียคอมก็พบว่า มีคนหนุ่มสาวถึง 76% ที่บอกว่าพวกเขายังรู้สึกมีความสุขอยู่ นี่จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อการสำรวจนี้ว่า The Next Normal: The Rise of Resilience ซึ่ง คริสเตียน เคิร์ซ รองประธานอาวุโสของเวียคอมฝ่ายสำรวจความเห็นของผู้บริโภคทั่วโลกบอกว่า

“ภาพรวมทั้งหมดที่ได้จากการสำรวจนี้ก็คือ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด”

เมื่อถูกให้นิยามถึงคำว่า “ความสุข” ของพวกเขา ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่ทั้งในปี 2555 และ 2560 ต่างบอกว่าคือการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนๆ แต่ข้อมูลสำคัญที่ได้ต่างออกไปจากปี 2555 ก็คือ จากการสำรวจเมื่อปี 2555 ยังมีคนส่วนมากที่ให้ความสำคัญกับ “เงิน”

แต่จากการสำรวจครั้งล่าสุดในปี 2560 โดยเฉพาะข้อมูลที่ได้จากคนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา มีคนให้ความสำคัญกับการใช้เวลาเพื่อเที่ยวพักผ่อน และหาความสุขมากขึ้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image