ไอ แอม ไทย ‘มารีญา’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ความเป็นไทย…ไม่ได้อยู่ที่หน้าตา

“สวยสมมง” กลายเป็นคำที่เหล่าแฟนนางงาม ต่างพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อสิ้นคำประกาศรางวัลและมงกุฎเพชรดอกพิกุลอันงดงามได้สวมใส่ลงบนศีรษะของ “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017

ด้วยใบหน้าอันงดงาม ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี และการเดินแบบที่ไม่ธรรมดา ทำให้มารีญา สาวลูกครึ่งไทย-สวีเดน นางแบบแถวหน้าของเมืองไทย อายุ 25 ปี กลายเป็นที่จับตามองนับตั้งแต่วันสมัคร รวมไปถึงเพื่อนๆ ผู้สมัครในกองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่เทคะแนนให้เธอเป็นเสียงเดียวกัน

ก่อนจะเอาชนะใจกรรมการ ด้วยตอบคำถามบนเวทีประกวดว่า “สิ่งที่ยากที่สุดในการเกิดมาเป็นผู้หญิงคืออะไร?”

เป็นคำถามวัดกึ๋น แต่มารีญาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอบคำถามในทันทีโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด “ปัจจุบันนี้ ไทยยังคงมีความไม่เท่าเทียมทางเพศระหว่างชายและหญิง ซึ่งการจับมือกันจะก้าวข้ามปัญหานี้ไปพัฒนาประเทศได้ คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนใหม่ได้สำเร็จ” สิ้นเสียงหวานๆ เสียงปรบมือก็ดังสนั่น!

Advertisement

“มารีญาดีใจมากที่ทำสำเร็จ นับตั้งแต่ขึ้นเวที ก็ได้ยินเสียงเชียร์ส่งพลังมาให้กับเราทำให้เรายกเอาความกดดันทั้งหมดออกไปได้และทำบนเวทีให้ดีที่สุด และวันนี้มารีญาทำได้แล้ว” เจ้าตัวเปิดใจหลังคว้ามงกุฎ

ซึ่งแน่นอนว่านอกจากการตอบคำถามบนเวทีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นคงไม่พ้นความสูง 184 เซนติเมตร และความสามารถด้านการเดิน ที่ไม่แพ้ใคร และไม่น่าเชื่อว่าความสูงนี้จะเคยเป็นปมด้อยในชีวิตเธอ

Advertisement

“คุณพ่อมารีญาสูง 2 เมตร ขณะที่พี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนสูง 195 และ 180 เซนติเมตร ทำให้มารีญาสูงกว่าเพื่อนคนอื่นตั้งแต่เด็ก จนถูกล้อและคิดมาตลอดว่านี่คือปมด้อย นอกจากนี้ กินอะไรก็ไม่อ้วน ทำให้มีปัญหาน้ำหนักขึ้นยาก จนเมื่อโตขึ้นมาแล้วก็ได้เปลี่ยนมุมมองใหม่ ก็คิดว่าโชคดีที่ได้ใช้จุดนี้ทำงานเดินแบบให้ตัวเองได้”

“และอยากให้จุดนี้เป็นแรงใจให้คนรุ่นใหม่ที่มีปมด้อย เปลี่ยนเป็นพลังผลักดันตัวเองอย่างมารีญา”

แต่เมื่อถามถึงจุดแข็งที่ได้มองตัวเองนั้น มารีญากลับเลือกประสบการณ์ ที่คิดว่าเป็นอาวุธสำคัญ

“คุณพ่อทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้าประจำประเทศต่างๆ ทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เล็ก เมื่อจบมัธยมที่อินเตอร์เนชั่นแนล สกูล ออฟ แบงค็อก มารีญาก็เดินทางไปเรียนปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจนานาชาติ จาก ร็อตเธอร์ดาม สกูล ออฟ เมเนจเม้นท์ อีราสมุส ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ และปริญญาโทด้านการตลาดที่สตอล์กโฮล์ม ยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศสวีเดน ทำให้ได้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเยอะ ได้เห็นโลกที่ต่างออกไป”

“นอกจากการเรียน มารีญาเริ่มเดินแบบตั้งแต่อายุ 13 ปี ทำให้ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับคนอื่นได้เป็นอย่างดี และกลายเป็นจุดแข็งของมารีญา ซึ่งการจะไปคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 ได้ ต้องนำทั้งหมดที่มารีญามีไปสู้กับเขาและยังต้องฝึกฝน เรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้พร้อมไปประกวดที่สุด”

และก็ไม่หวั่นหากใครจะบอกว่าเธอ มีใบหน้าไม่ไทย พูดไม่ชัด เพราะความเป็นไทยไม่ได้มีแค่หน้าตา

“ตั้งแต่เด็ก มารีญาชอบพี่ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ที่มีความงดงามและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้ จึงรู้สึกดีใจ ที่หลายคนบอกมารีญาเหมือนพี่ปุ๋ย และทำให้อยากจะเดินตามรอยเขา”

“หลายคนบอกว่ามารีญาหน้าไม่ไทย แต่เราคิดว่าความเป็นไทยของเราอยู่ที่สิ่งอื่นด้วย ทั้งกิริยา ความมีน้ำใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ที่แตกต่างจากชาวต่างชาติ ซึ่งหลายครั้งเพื่อนต่างชาติไม่เชื่อว่าเราเป็นคนไทย แต่ก็ภูมิใจเสมอที่ได้บอกเขาว่า I’m thai (ไอ แอม ไทย)”

และต่อจากนี้ เธอก็อยากใช้ตำแหน่งที่มีเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง

“ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้มารีญารู้ว่าเรื่องทีมเวิร์กเป็นเรื่องสำคัญ และการได้รับตำแหน่งจะทำให้มีคนมาสนใจเรามากขึ้น รณรงค์สิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น มารีญาจึงอยากจะทำโครงการ “ทีม บิลดิ้ง” (Team building) รวมถึงเรื่องของท้องไม่พร้อมและขยะในท้องทะเล ที่เป็นปัญหาสำคัญของอนาคตประเทศที่ต้องแก้ตั้งแต่วันนี้”

ก่อนจะทิ้งท้ายให้แฟนนางงาม ช่วยเป็นกำลังใจในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้

ก้าวตามรอย ‘ไอดอล’

ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์

หลังจากคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 มาครอบครองได้สำเร็จ ก็เกิดกระแสเดินตามรอย ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาล ปี 2531 ที่มีความน่ารักทั้งเรื่องภาษาไทย และการวางตัว ซึ่ง “ประเสริฐ เจิมจุติธรรม” กูรูนางงามคนดังเผยว่า ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มสมัครมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มารีญาเรียกได้ว่าเป็นที่จับตาของแฟนนางงาม ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่สวยสะกด รูปร่างที่ดี รวมถึงภาษาอังกฤษที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะภาษาอังกฤษจะเป็นส่วนสำคัญที่สามารถทำให้มารีญาสื่อสารกับใครก็ได้ แสดงสิ่งต่างๆ ให้ผู้อื่นได้รู้

“บนเวทีมารีญายังโดดเด่นด้วยความสวยในลุคของเจ้าหญิง การเดินที่ดูเทพ ไม่เคยหลุดเหมือนลอยออกมา สะกดทำให้ผู้ชมต่างละสายตาจากเธอไม่ได้ ทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่เรียกว่าม้วนเดียวจบจริงๆ”

“ในช่วงเวลาที่หลายประเทศได้ตัวแทนกันเป็นที่เรียบร้อย หลายคนก็เป็นนางแบบมาก่อนแบบเทรนด์นางงามยุคใหม่ เรียกได้ว่าหากภาพของมารีญาขณะรับมงกุฎได้เผยแพร่ออกไปให้แฟนนางงามทั่วโลกได้เห็น ก็มีโอกาสที่จะขึ้นท็อป 10 ได้ไม่ยาก”

และแม้จะไม่ได้หน้าไทย แต่มารีญาก็น่าจะเอาชนะใจคนไทย ด้วยความน่ารักเหมือน ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ ได้

“แม้มารีญาจะเป็นลูกครึ่ง แตกต่างกับปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ที่เป็นคนไทยแท้ แต่ความน่ารักหนึ่งที่คล้ายกันคือเรื่องการใช้ภาษาไทย ที่อาจจะไม่เชี่ยวชาญนัก ต้องอาศัยการประมวลผลต่างๆ ที่พอพูดออกไปหลายคนคงจะเอ็นดู ซึ่งน่าลุ้นว่าจะสามารถเดินตามรอยปุ๋ยได้หรือไม่”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image