| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน หน้า 23 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การรวมกลุ่มอาเซียนอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ว่าคนไทยเองยังคงมีความเข้าใจระหว่างเพื่อนบ้านไม่มากนัก ในโอกาสวันสตรีสากลปีนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงได้จัดเสวนา “พลังสตรีกับการพัฒนาอาเซียน” เพื่อให้เข้าใจเพื่อนบ้านมากขึ้น พร้อมทั้งรวมพลังสร้างเครือข่ายสตรี ในงาน “วันสตรีสากล ประจำปี 2559” โดยเปิดหอประชุมมนังคศิลา บ้านมนังคศิลา ให้เหล่าสมาชิกเข้าร่วมเติมความรู้
มาดามอ่อนแก้ว บุญค้ำ ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เล่าว่า นับตั้งแต่ลาวได้รับเอกราชนั้นสถานภาพของสตรีก็พัฒนาขึ้นมาก รัฐบาลก็มีความพยายามจะยกระดับสถานภาพของสตรีอยู่เสมอ อย่างในลาวมีสตรีที่เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ร่วมกับผู้ชาย และยังดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งรัฐมนตรี หรือแม้แต่ทูตเองก็ตาม ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากจะยกระดับผู้หญิงลาวมากกว่านี้ เรื่องที่สำคัญคือการศึกษาที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรีได้มาก และเรื่องสาธารณสุขที่หากเรามีสุขภาพที่ดีก็จะช่วยพัฒนาประเทศไทย
ด้าน ฯพณฯ อีต โซเฟีย เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย เผยว่า หากจะเอ่ยถึงสถานะของผู้หญิงในกัมพูชา ก็คงต้องพูดถึงภาพรวมทั้งหมด ที่ผู้หญิงเป็นส่วนหนึ่งของโลก เป็นสังคม และยังมีจำนวนประชากรที่มากกว่าครึ่งหนึ่งในโลกด้วยซ้ำ ผู้หญิงมีบทบาทที่หลากหลาย ทั้งการทำงานช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและการเป็นหลังบ้าน ดูแลครอบครัว ส่วนตัวมองว่าผู้หญิงมีบทบาทในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย อย่างในอาเซียนเราอาจพัฒนาผ่านข้อตกลงเครือข่ายต่างๆ เพื่อความเท่าเทียมก็เป็นได้
“ที่สำคัญคือภูมิภาคนี้เรามีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแบบอย่างของผู้หญิงเก่ง ที่แสดงออกถึงศักยภาพของผู้หญิงให้ผู้หญิงหลายคนได้ปฏิบัติตาม” อีต โซเฟีย ย้ำ
ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ เล่าว่า การเข้าร่วมอาเซียนถือเป็นโอกาสที่ดี ต้องลองคิดดูว่าเรารวมประชากรกันเป็น 620 ล้านคน ทำให้ต้องผลิตอะไรที่รองรับคนกว่า 620 ล้านคนนี้ นี่เองเป็นจุดที่สำคัญที่ทำให้เราใช้เป็นโอกาสพัฒนาผู้หญิงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งทอ พลังงาน อาหาร การท่องเที่ยว ซึ่งแลกเปลี่ยนกันได้ ทั้งยังมีเรื่องการช่วยเหลือสตรีด้อยโอกาสที่เราใช้จุดนี้สร้างเครือข่ายให้ผู้หญิงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ระดับภูมิภาค
ปิดท้ายด้วย มิสสุรายา เพาซี่ ผู้แทนเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เผยว่า เรื่องผู้หญิงถือเป็นเรื่องหนึ่งที่มาเลเซียให้ความสำคัญตลอดมา ที่ผ่านมาเรามีกระทรวงสตรี ครอบครัว และการพัฒนาสังคมโดยเฉพาะ และยังมีสตรีเข้าสู่ทุกภาคส่วน รวมถึงตัวเลขในภาคการศึกษาที่พบว่ามีผู้หญิงเข้าสู่การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของรัฐจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตสตรีต่างๆ อย่างการจัดดูแลลูกช่วงพักกลางวัน และในฐานะประธานอาเซียนเราก็ยังผลักดันเรื่องนี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องเงินกู้สำหรับสตรีในถิ่นยากไร้
อาเซียนร่วมกันขับเคลื่อนพลังสตรี
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ
มิสสุรายา เพาซี่
มาดามอ่อนแก้ว บุญค้ำ
ฯพณฯ อีต โซเฟีย
