ต้องเรียกว่าเป็น “ศึกเกาเหลาข้ามปี” สำหรับ 2 สาว ไฮโซชื่อดัง “ม่านฟ้า-อรปภัตร จันทรสาขา” และอดีตนางงามรุ่นน้อง”น้ำเพชร-สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” กรณีที่ไฮโซม่านฟ้าถูกอดีตนางงามน้ำเพชรเข้าแจ้งความในคดีทำร้ายร่างกาย ในห้องน้ำร้านอาหารย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558 และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินถึง 10 ล้านบาท
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ไฮโซม่านฟ้าสวมชุดดำตั้งโต๊ะแถลงข่าว ที่ห้องโมลิแยร์ โรงแรมโนโวเทล สยาม พร้อมงัดหลักฐานข้อเท็จจริงแฉกลับน้ำเพชร และยังกรวดน้ำสตรอว์เบอร์รี อุทิศส่วนกุศลให้น้ำเพชร พร้อมย้ำอโหสิกรรม
อรปภัตร หรือ ไฮโซม่านฟ้า เปิดเผยว่า วันนี้ที่ออกมาแถลงข่าว เนื่องจากครั้งก่อนที่มีปัญหากับรุ่นน้องงามท่านหนึ่ง จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้ดูกลายเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรง ทำให้เสียหายทั้งด้านครอบครัว ธุรกิจ ทำให้โดนโจมตีจากคนที่ไม่หวังดี ยั่วยุให้เราโมโห สร้างเรื่องขึ้นมาต่างๆ นานา ทั้งที่เราไม่ได้เป็นคนทำ
“วันนี้ คดีความทั้งหมดได้จบสิ้นลงแล้ว และมีหลักฐานชิ้นเด็ดที่จะมาแสดงให้ทุกคนได้รู้ความจริง”
จากนั้น เจ้าตัวโชว์หลักฐานพร้อมท้าวความกลับไปเรื่องเกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558 น้ำเพชรได้เข้าแจ้งความ ที่สน.ทองหล่อ แจ้งความในข้อที่ 1 คือ ทำร้ายร่างกาย ข้อ 2 ข่มขู่ ข้อ 3 กักขังหน่วงเหนี่ยว
“ในวันนี้ม่านมีเอกสารมาแสดงเป็นเอกสารหลักฐานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่น้องเขาได้ไปแจ้งความเอาไว้ระบุว่า ตามเลขคดีอาญาที่ 1516/2558 ประจำข้อ 9 เวลา 23.50 น. วันที่ 5 กันยายน 2558 รต.ท.วีระพงศ์ พลไชย พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ ได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้วข้อเท็จจริงได้ความว่า ตามวันเวลาดังกล่าว น.ส.สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ ได้เดินไปเข้าห้องน้ำที่เกิดเหตุ และมี น.ส.อรปภัตร จันทรสาขา น.ส.จันทกานต์ เมธเกรียงชัย และน.ส.นาน จิน หยุน (NAN KYIN NYUNT) สัญชาติพม่า เดินเข้าห้องน้ำด้วยเช่นกัน”
“จากนั้น น.ส.สุณัณณิการ์ กับ น.ส.อรปภัตร ได้ยืนคุยกันในห้องน้ำเกี่ยวกับเรื่องพรีเซ็นเตอร์น้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด โดย น.ส.สุณัณณิการ์ ได้ใช้มือข้างขวาไปจับและบีบกดแขนข้างซ้ายของน.ส.อรปภัตร ขณะนั้น น.ส.จันทกานต์ ยืนอยู่ใกล้ๆ เห็นเหตุการณ์ จึงเดินเข้าไปใช้มือขวาปัดไปที่แขนขวาของน.ส.สุณัณณิการ์ อย่างแรงจนมือของน.ส.สุณัณณิการ์ หลุดจากแขนของน.ส.อรปภัตร”
“จากนั้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้เดินออกจากห้องน้ำไป โดยที่ น.ส.อรปภัตร และน.ส.นาน จิน หยุน ไม่ได้ทำร้ายน.ส.สุณัณณิการ์ แต่อย่างใด พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วว่า น.ส.สุณัณณิการ์ และน.ส.จันทกานท์ ทะเลาะวิวาทกัน โดยทั้งคู่ใช้กำลังทำร้ายร่างกายกันไม่ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ได้สอบถามคู่กรณีแล้ว น.ส.สุณัณณิการ์ และน.ส.จันทกานต์ ได้ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ทำให้คดีสิ้นสุดลงโดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความใดๆ ต่อกันอีกต่อไป จึงลงรายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน”
“นั่นแสดงว่าไม่มีการตบกันนะคะ” ม่านฟ้าย้ำ
“และม่านก็ไม่ได้ทำอะไรเขาด้วย เอกสารทุกอย่างชัดเจนมากมีการตรวจสอบ และมีพยานทุกอย่าง แต่ในส่วนที่น้องบอกว่า ข้อ 1. โดนม่านฟ้าตบ 20 ที รวมกับที่เลขาตบอีก 20 ที รวมทั้งหมด 40 ที โดยที่น้องมีการปัดป้องกันตัวแต่สู้ไม่ได้ เพราะ 3 รุม 1 ม่านยังมีเอกสารตรวจร่างกายของฝั่งม่าน ทั้ง 3 คน ในวันหลังเกิดเหตุทันที ที่รพ.คามิลเลียน”
“เอกสารระบุว่าร่างกายสุขภาพแข็งแรง ไม่มีรอยพกช้ำตามร่างกาย แสดงว่าน้องตบกับใคร ข้อที่ 2 น้องยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทุกสำนักว่า โดนม่านและเลขาตบ 40 ที แต่ภาพที่ออกมามีรอยพกช้ำแค่นิดหน่อยเท่านั้น แต่ม่านได้ไปทราบมาว่าน้องได้ไปฉีดเมโสเฟท ที่คลีนิกดังย่านห้วยขวาง ซึ่งคนที่เคยฉีดจะทราบว่า เมื่อฉีดมาแล้ว วันแรกหรือวันที่สองจะไม่มีอาการช้ำ แต่จะช้ำในวันที่สามพอดี”
“ข้อที่ 3 น้องแจ้งว่ามีการกักขังหน่วงเหนี่ยวล็อกประตูไม่ให้คนเข้าออก แต่ประตูของร้านถ้าคนเคยไปจะรู้ว่าเป็นประตูแบบผลักไม่สามารถล็อกประตูได้ สามารถล็อกได้แต่ข้างนอกอย่างเดียว ซึ่งวันนี้เราได้นำภาพของประตูร้านมาให้ดูได้ และอีกอย่างคือถ้าเราล็อกประตูแล้วน้องจะคุยกับฝรั่งอย่างที่น้องเคยให้สัมภาษณ์ได้อย่างไร”
“แต่สิ่งที่อึ้งมากไม่คิดว่าน้องจะกล้าทำคือ การสาบานเพื่อตบตาประชาชนเรียกความสงสาร นอกจากนี้ยังมีเอกสารเรียกร้องเงินที่เขียนโดยลายมือของน้องนางงามท่านนี้ ขาดแค่ลายเซ็นเท่านั้นเอง โดยเนื้อหาระบุว่า 1.ให้คู่กรณียอมรับความผิดที่ได้ก่อไว้ทั้งหมด 2.เรียกค่าทำขวัญเป็นเงิน 10 ล้านบาท 3.ขอโทษผ่านสื่อโดยต้องมีสื่อมาร่วมทำข่าวไม่ต่ำกว่า 50 สื่อ และสุดท้ายข้อที่ 4. ให้ม่านโพสต์อินสตาแกรม เฟซบุ๊คเพื่อขอโทษถึงข้อรับผิดทุกประการ”
“ซึ่งทุกข้อที่น้องเรียกร้องมาไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้น้องทำทุกข้อที่น้องขอมา แต่ยกเว้นข้อ 2 เรียกค่าทำขวัญ 10 ล้านบาท ขอไม่รับ เพราะน้องคงจะต้องเลี้ยงแกะอีกหลายตัวกว่าจะพอมาเสียค่าทำขวัญให้ม่าน แต่ข้ออื่นน้องช่วยทำตามด้วย”
“ในวันนี้ม่านขอกรวดน้ำ ซึ่งเป็นน้ำสตรอว์เบอรี เพราะกรวดน้ำเปล่าคงไม่ถึงน้องเขา คาถาก็คงใช้บทปกติไม่ได้ ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่มีทั้งหมดให้เขาหยุดจองเวรจองกรรมกันสักที อย่ามาพบเจอกันอีกเลยขออโหสิกรรมให้กับคนที่คิดร้าย อย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมกับใครอีก เพราะมันเป็นบาป จงหยุดและหลุดพ้นไปจากชีวิตของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ด้วยเทอญ สาธุ”
นอกจากนี้ ไฮโซม่านฟ้ายังกล่าวอีกว่า “หลังจากนี้ถือว่าคดีทุกอย่างยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“เราเคลียร์กันวันสุดท้ายคือวันที่เสียค่าปรับ มีการขอโทษขอขมา แต่คุณทำเราเสียหายผ่านสื่อ คุณก็ควรขอโทษเราผ่านสื่อด้วย และไม่ควรเกินอาทิตย์นึง มันจะได้ไม่ยืดเยื้อ ถ้าไม่ทำก็จะได้รู้ไว้ว่าเป็นคนที่แย่และไม่น่าให้อภัย”
“แต่ม่านคงไม่ฟ้องกลับ เพราะฟ้องคนแบบนี้คงไม่มีประโยชน์ และไม่มีเวลาว่างมากที่จะมารบกับเด็กแบบนี้ ถ้าเขาไม่ทำตามเงื่อนไขจะมีผลตามกฎหมายถ้าม่านฟ้องกลับ แต่ถ้าเขาไม่ขอโทษจริงๆ ก็ไม่แน่ม่านอาจจะฟ้องกลับก็ได้ ม่านคงไม่คิดตัดสินใจอะไรมากคงจะทำเลย เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาขอโทษ เพราะเขากลัวติดคุก ในส่วนที่เขาแจ้งความเท็จไว้เจ้าหน้าที่ก็แล้วแต่ม่านว่าจะทำอย่างไรต่อ”
“ยังไงก็ฝากถึงเขาว่า รีบขอโทษเร็วๆ จะได้ไม่เดือดร้อน ซึ่งม่านก็อโหสิกรรมให้จริงๆ แต่ถ้าไม่ขอโทษก็ลองดู” ไฮโซม่านฟ้าทิ้งท้าย
