ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
แอปเปิลวอทช์ นาฬิกาอัจฉริยะ จากค่ายแอปเปิล ที่มีหน้าจอเป็นสี่เหลี่ยม ตัวเรือนทำจากสแตนเลส โดยมีหลายรุ่นมาให้เลือก เริ่มจากแอปเปิล วอทช์ สปอร์ต, แอปเปิล วอทช์ และรุ่นเอดิชั่น ทั้งหมดมีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด คือ 38 นิ้ว กับ 42 นิ้ว โดยรุ่นที่จะพูดถึงกันนี้คือรุ่น “สปอร์ต” รุ่นที่มีราคาถูกที่สุดในตอนนี้
รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย เพราะจะมีปุ่มกดบริเวณด้านหลังของตัวเรือนอยู่ทั้งสองด้าน ซึ่งสายก็จะเป็นสายที่เป็นยางนุ่ม มีหลายสีให้เลือก แล้วแต่ว่าชอบสีไหน สำหรับเปลี่ยนสายทั้งสองด้าน โดยระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ “วอทช์โอเอส” ก็จะมีแอพพลิเคชั่นให้เราได้โหลดเล่นกันมากมาย
มาเริ่มจากการเชื่อมต่อเข้ากับไอโฟนกันเลยดีกว่า เพียงแค่เปิดทั้งแอปเปิลวอทช์และไอโฟนขึ้นมา เปิดโปรแกรมวอทช์ในไอโฟน แล้วเชื่อมต่อกันก็เป็นอันเรียบร้อย กรอกข้อมูลต่างๆ เพื่อตั้งค่าร่างกายของเราเอาไว้ใช้กับฟีเจอร์เพื่อสุขภาพทั้งหลาย
โดยฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพก็จะมีแอพพลิเคชั่นที่ชื่อ “แอคติวิตี้” คอยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ และคอยเตือนให้เราเคลื่อนไหว ดื่มน้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง ที่สำคัญตัวแอปเปิลวอทช์สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้
นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องการแจ้งเตือน ซึ่งในตอนที่เชื่อมต่อกับไอโฟนอยู่ จะสามารถแจ้งเตือนข้อความต่างๆ ได้ ทั้งข้อความสั้น ไลน์ หรือเฟซบุ๊ก ที่สามารถแสดงข้อความเป็นภาษาไทยได้ด้วย และเราสามารถตั้งได้ว่าต้องการให้แจ้งเตือนอะไรบ้าง ที่อัจฉริยะคือถ้าเราเปิดดูข้อความจากบนไอโฟนแล้ว มันก็จะไม่แจ้งเตือนบนแอปเปิลวอทช์ แต่ถ้าเราไม่ได้เปิดดู ข้อความก็จะมาปรากฏให้เราเห็นบนแอปเปิลวอทช์แทน
ในส่วนของหน้าจอนาฬิกานั้น ก็มีให้เลือกมากมาย และเรายังสามารถปรับแต่งหน้าจอนั้นๆ ได้ว่า ต้องการเอาอะไรปรากฏไว้บ้าง ตามที่มีมาให้ อย่างเช่น ระดับของแบตเตอรี่ วันที่ เวลา แล้วแต่ว่าเราต้องการให้อะไรโชว์ขึ้นมาบ้าง หรือจะไปโหลดหน้าจอใหม่มาก็ได้
แต่ที่ชอบและดูว่าแตกต่างจากสมาร์ทวอทช์อื่นๆ เรื่องแรกคือ การที่มันสามารถรับสายเข้าได้ในทันที แบบคุยผ่านแอปเปิลวอทช์ได้เลย ไม่ต้องไปรับสายที่ไอโฟน และยังสามารถโทรออกจากตัวแอปเปิลวอทช์ได้เลยเช่นกัน โดยเราสามารถตั้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ในเครื่องแอปเปิลวอทช์ได้
อย่างที่สองคือ การทำหน้าที่เป็นชัตเตอร์ เพียงเปิดกล้องจากเครื่องไอโฟน แล้วเปิดแอพพลิเคชั่นกล้องในแอปเปิลวอทช์ เวลาจะถ่าย เราจะสามารถมองเห็นภาพในวอทช์ได้เลย และสามารถกดชัตเตอร์ที่วอทช์ได้เลยเมื่อต้องการ
สุดท้าย สำหรับแบตเตอรี่ใช้งานได้โดยประมาณวันกว่าๆ แต่เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง เวลากลางคืน เราก็ชาร์จทิ้งไว้ เช้ามาก็เอามาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ชาร์จนั้นก็มีมาหลายแบบให้เลือก ที่มากับในกล่องก็เป็นที่ชาร์จแบบไร้สาย ที่เพียงแปะกับด้านหลังของวอทช์ ก็ชาร์จได้แล้ว หรือจะเลือกใช้แท่นชาร์จ พอแปะวอทช์เข้าไป ก็จะแปลงร่างเป็นนาฬิกาดิจิตอลโชว์ขึ้นมา
ซึ่ง 2 ข้อสุดท้ายนี้เรียกได้ว่า เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้แอปเปิลวอทช์แตกต่างและดีกว่าสมาร์ทวอทช์อื่นๆ เพียงแค่ว่าการใช้งานต้องเชื่อมต่อเฉพาะกับไอโฟนเท่านั้น ไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอนดรอยด์ได้ ด้วยราคาเครื่องที่เริ่มต้นจากประมาณหมื่นสามกว่าๆ ไปถึงหมื่นห้า ก็ยังพอรับได้สำหรับสมาร์ทวอทช์