| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน หน้า 23 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
แสงเจิดจรัสสาดส่องเสื้อผ้าแบรนด์ไทยให้ได้อวดโฉมสายตาชาวโลกเป็นระยะตามงานพรมแดงเวทีต่างๆ สยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับสมาคมแฟชั่นดีไซเนอร์กรุงเทพ รวมพลังเปิดตัวงาน “วี บีลีฟ อิน ไทย ดีไซเนอร์” จัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าตำนานที่สุดของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยภายในงานมีดีไซเนอร์และคนในแวดวงแฟชั่นไทยเข้าร่วมงาน อาทิ ชัยชน สวันตรัจฉ์, ภาณุ อิงคะวัต, จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์, พลพัฒน์ อัศวะประภา, วรรณศิริ คงมั่น ฯลฯ ที่สยามเซ็นเตอร์
หนึ่งในตำนานไทยดีไซเนอร์กับแบรนด์เกรย์ฮาวด์ ภาณุ อิงคะวัต กล่าวว่า วงการอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยเราแข็งแรงมากในสายตาของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่โลคอลดีไซเนอร์ ที่สามารถพูดถึงได้ทั้งคุณภาพการตัดเย็บและคุณภาพการออกแบบของเราที่ต่างจากประเทศอื่น หากจะวัดพลังคนไทยด้วยกันกับประเทศที่พลิกตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรือเกาหลีใต้ที่พลิกผันวงการแฟชั่นได้อย่างน่าทึ่ง
“ความสำเร็จมาจากพลังของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะหน่วยราชการ องค์กร ตัวดีไซเนอร์ หรือผู้บริโภคร่วมมือกัน ถ้าไม่เริ่มที่คนของเราแล้วจะเริ่มที่ใคร เราต้องปลุกกระแสคนของเราให้หันมามองเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างวงการแฟชั่นเพื่ออวดสู่สายตาประชาโลกอย่างแข็งแกร่งต่อไป” ภาณุกล่าว
สำหรับนิทรรศการนำเสนอวิวัฒนาการแฟชั่นไทย เริ่มจากยุค 80s ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปไทย ต่อมาเข้าสู่ยุค 90s รูปแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูปนั้นเปลี่ยนไปโดยรับอิทธิพลจากต่างประเทศ สไตล์ของเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อยืดสกรีนลายและเเจ๊กเก็ตประดับตกแต่งด้วยหมุด กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าบู๊ต หรือเสื้อผ้าที่มีลายพิมพ์หรูหราและอ่อนหวาน ปิดท้ายด้วยยุค 2000s ยุคแห่งความเป็นสากล เสื้อผ้ามีความแฟนตาซี ซับซ้อนและแปลกใหม่ เฉดสีเมททัลลิคและความมันวาวของโลหะ เริ่มมีการออกแบบเสื้อผ้าเป็นฤดูกาล
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
รวมสุดยอดดีไซเนอร์ไทย
ชัยชน สวันตรัจฉ์, ภาณู อิงคะวัต และ จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์
แฟชั่นยุค 80s
แฟชั่นยุค 2000S
