นงนุช นามวงศ์ ดาวค้างฟ้าวงการ “พีอาร์”

ในวงการ “พีอาร์” หรือ “ประชาสัมพันธ์” ไม่มีใครไม่รู้จัก นงนุช นามวงศ์ เจ้าแม่พีอาร์แห่งห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ที่อยู่กับเดอะมอลล์มาตั้งแต่รุ่น “ตอกเสาเข็ม” สาขาราชประสงค์ ซึ่งเป็นสาขาแรกของประเทศไทย หรือประมาณ 30 ปีมาแล้ว

เรียกว่า นงนุชเป็น “เพชรเม็ดงาม” เม็ดหนึ่งของวงการพีอาร์ ที่ทุกวันนี้ยังไม่เกษียณอายุการทำงาน แม้อายุจะล่วงเลยเข้าสู่เลข 7 เธอยังทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ยังคงเป็นที่รักของเจ้านาย พีอาร์รุ่นน้องๆ และที่สำคัญเป็นที่รู้จักของสื่อมวลชนทุกแขนง

ด้วยนิสัยใจคอที่มีความจริงใจ การทำงานที่ทุ่มเท รวมทั้งภาพลักษณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงสังคมชั้นสูงมาโดยตลอด โดยเฉพาะความสนิทชิดเชื้อกับ “เจ้าป้า” หรือ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เจ้านายฝ่ายเหนือ “ไฮโซตัวจริงเสียงจริง” เจ้าของฉายา “เจ้าแห่งการตัดริบบิ้น” ประหนึ่งเป็นแม่ลูกกัน ทำให้หลายคนเข้าใจว่า เธอคือ “ไฮโซ”

“นุชไม่ใช่ไฮโซ” นงนุชยืนยัน

Advertisement
scan0001
(ที่ 2 จากซ้าย) เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่-กฤษณา อัมพุช-นงนุช นามวงศ์

และถ้าหากไม่ได้ลงนั่งคุยกับเธอ จะไม่รู้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้เคยเป็น “นางงาม” และ “นางแบบ” มาก่อน

นงนุชเกิดใน อ.สารภี เมืองเล็กๆ ใน จ.เชียงใหม่ พ่อแม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่ด้วยความสวยตามฉบับสาวชาวเหนือ เธอคว้าตำแหน่งนางงามลำพูน และนางสาวถิ่นไทยงาม จ.เชียงใหม่ มาครอง อีกทั้งยังได้รองอันดับ 1 การประกวดแต่งกายสตรีงาม ในเวทีประกวดนางงามวชิราวุธานุสรณ์ จากนั้นชีวิตก็ผันเปลี่ยนเมื่อ อ.ลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ เจ้าของโรงเรียนสอนตัดเสื้อระพี ทาบทามนงนุชให้มาเป็น “นางแบบ” ในสังกัด

“ที่ระพี เราเป็นทั้งนางแบบประจำร้าน นางงาม ประชาสัมพันธ์ คนรับใช้ ทำทุกอย่างเป็นหมด อยู่ที่นี่นานกว่า 10 ปี จนได้รับความเมตตาจากอาจารย์ลำยงค์ส่งไปเรียนนางแบบและตัดเสื้อที่ฝรั่งเศส หลังจากกลับมาก็มาเปิดห้องเสื้อของตัวเอง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคุณหญิงคุณนาย”

Advertisement

และเพราะเป็นคนสนุกสนาน จึงทำให้เป็นที่รักของใครหลายคน อีกทั้งหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของห้องเสื้อระพีทำให้นงนุชรู้จักสื่อจำนวนมาก เวลาไปเดินแฟชั่นโชว์ก็มักจะมีรูปของเธอลงเป็นภาพข่าวเสมอๆ

นงนุช 3
(ที่1จากซ้าย) นงนุช นามวงศ์ เดินแฟชั่นโชว์ต่างประเทศ

 

ด้วยบุคลิกที่เข้ากับคนอื่นง่าย มีหัวใจบริการ ชอบเอ็นเตอร์เทน และมี “คอนเน็กชั่น” กับสื่อ นงนุชจึงได้รับการชักชวนจาก กฤษณา อัมพุช เจ้าของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ให้เข้ามาเป็น “ประชาสัมพันธ์” ให้กับ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป”

จะว่าไปแล้ว เธอคือหนึ่งในทีมงานที่ร่วม “บุกเบิก” ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก็ว่าได้

“สมัยก่อนมีแค่ห้างไดมารูกับเซ็นทรัล ส่วนเดอะมอลล์เปิดสาขาแรกเมื่อปี 2524 คือ เดอะมอลล์ สาขาราชดำริ ต่อมาก็ขยายสาขาไปเรื่อยๆ เรามาทำงานที่นี่ก็ไม่ได้เรียนจบมาทางนี้ แต่ชอบเอ็นเตอร์เทน ชอบพูดชอบคุย ก็เลยทำให้ไม่กดดัน ซึ่งเจ้านายก็เชื่อมั่น เนื่องจากมีประสบการณ์”

นงนุชย้อนเล่าไปถึงการทำงานพีอาร์สมัยนั้นว่า ไม่เหมือนสมัยนี้ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้การทำงานง่ายขึ้น และไม่มีการวางแผนเหมือนสมัยนี้ อยากจะทำอะไรก็ทำเลย ซึ่งเธอก็เป็นต้นตำรับการจัดแฟชั่นโชว์ในห้าง

“ทำงานห้าง เราก็ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้าห้าง ดิฉันก็จัดแฟชั่นโชว์ในห้าง ซึ่งเดอะมอลล์ถือเป็นแห่งแรกที่ทำ โดยได้รับความร่วมมือจากบูติกต่างๆ ในห้างมาจัดแฟชั่นโชว์ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ โดยให้นางแบบชื่อดังอย่าง ลินดา ค้าธัญเจริญ, นวลปรางค์ ตรีชิต, ดวงตา ตุงคะมณี มาเดินแบบในชุดบูติก, ชุดว่ายน้ำ และชุดนอน เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมาก”

ปัจจุบันนงนุชอยู่กับเดอะมอลล์มา 30 กว่าปี และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสงานประชาสัมพันธ์การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป

“อยู่มา 30 กว่าปี ทำงานเหมือนเดอะมอลล์เป็นบ้านหลังที่สอง ไม่เคยคิดเปลี่ยนงาน เพราะการเปลี่ยนงานต้องนับหนึ่งใหม่ ต้องไปเรียนรู้ใหม่ สู้อะไรทนได้ก็ทน ถ้าเราย้ายงานบ่อยๆ แล้วเราไปเจอปัญหาเดิมๆ ก็ย้ายอีก ถือว่าไม่มีความอดทน”

ด้วยอยู่มานาน จนถือได้ว่า เธอเป็น “โลโก้” หนึ่งของห้างดัง ที่ไปไหนมาไหนคนก็จะเรียกว่า “นงนุช เดอะมอลล์”

123
ยามออกงานสังคม นงนุช นามวงศ์ แต่งตัวจัดเต็มให้เกียรติเจ้าของงานเสมอ

“ทุกวันนี้จะให้เกษียณก็ยังทิ้งกันไม่ลง เพราะผูกพัน ทั้งกับเจ้านาย องค์กร และสื่อ ในฐานะรุ่นพี่ เห็นการเปลี่ยนแปลงของมาวงการนี้มาเยอะ นงนุชแนะนำว่า คุณสมบัติของพีอาร์ที่ยึดปฏิบัติมาตลอดคือ ต้องเป็นคนที่ชอบเอ็นเตอร์เทน ชอบบริการ ต้องมีความจริงใจ เพราะการทำหน้าที่พีอาร์เป็นงานที่ท้าทายความสามารถพอสมควร จะต้องเป็นคนที่ชอบเอาใจใส่ดูแลทุกคนที่เราต้องไปพบ ดูแลอย่างดี

“มือจะต้องอ่อนตลอดเวลา ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เราจะต้องยกมือไหว้ไว้ก่อน บางทีถ้าเราไม่รู้จัก เรายิ่งต้องศึกษาก่อนว่าคนนี้เป็นใคร นิสัยเขาเป็นคนยังไง เราจะได้ปรับตัวเข้าหาถูก ดิฉันจะไม่เลือกที่จะไหว้ เวลาไปโรงพิมพ์ เห็นใครก็จะไหว้หมด ไหว้ตั้งแต่ประตูทางเข้าจนถึงตัวบุคคลที่เราจะไปพบ พอได้พบแล้วก็ต้องพูดคุยศึกษาใจเขาดูด้วย เราต้องทำแบบเสมอต้นเสมอปลาย ถึงแม้เราจะไม่ได้ทำงานหรือไม่ได้อยู่ในที่นั้นๆ แล้วก็ตาม”

“สำหรับอาชีพพีอาร์ ปัญหาและอุปสรรคในการทำงานคือ หน้าที่บริการและเป็นหน้าตาของบริษัท อุปสรรคคือจะต้องนำพาองค์กรให้ประชาชนรู้จัก ทำยังไงให้ลูกค้าเข้าห้าง ทำยังไงส่งข่าวถึงจะได้ลง ซึ่งถ้าเราไม่มีสื่อ เราก็คงไม่มีวันนี้ สื่อคือหัวใจของพีอาร์ ที่ทำให้เราได้เกิด สำหรับดิฉัน สื่อคือผู้มีพระคุณ และมีน้ำใจต่อกันเสมอมา”

“เพราะฉะนั้นหัวใจของการทำพีอาร์คือ ต้องมีความจริงใจ ต้องมีความซื่อสัตย์ ความผูกพันจงมีให้กับผู้ที่มีพระคุณกับเรา และไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องทำมาจากใจด้วย ไม่เฉพาะสื่อเท่านั้น แต่เราจะต้องมีความจริงใจให้กับคนที่เราพบเจอทุกคนด้วย..”

นงนุช 5
(ที่2 จากซ้าย) นงนุช นามวงศ์-ศุภลักษณ์ อัมพุช

ซึ่งนี่คือเคล็ดลับที่ทำให้นงนุชเป็นดาวค้างฟ้าวงการพีอาร์มาได้จนทุกวันนี้ ซึ่งเธอว่า มาจนถึงทุกวันนี้ได้ “เกินฝันมากๆ แล้ว” และหากวันหนึ่งต้องเกษียณอายุไป เธอว่า “อยากกลับไปอยู่อย่างเรียบง่ายที่เชียงใหม่”

“ตอนนี้ก็ไปสอนหลานๆ ให้ปลูกข้าว ทำสวน ปลูกผักออร์แกนิค ปลูกลำไย ปลูกอินทผลัม เลี้ยงปลา ทำอะไรที่เคยทำมาก่อนตอนเด็กๆ เพราะเราเคยเป็นชาวสวนชาวนามาก่อน จะบอกหลานๆ เสมอว่า เราไม่ได้เกิดมารวย ไม่อยากให้เขาลืม เราต้องทำทุกอย่างของเราเอง”

จากคำพูดเหล่านี้ทำให้นึกถึงคำว่า “สูงสุดคืนสู่สามัญ”

“ไม่ได้แบ่งว่า ชีวิตอยู่สังคมไฮโซแล้วจะกลับมาติดดินไม่ได้ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นด้วยโชคชะตา ทุกวันนี้ เราเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น จะนึกเสมอว่า เรามาจากไหน เมื่อเรามีเยอะ เราก็แบ่งปันให้คนที่เขาไม่มี เพราะตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง สู้เราให้ตอนที่เรามีชีวิตอยู่ดีกว่า”

เพชรเม็ดงามของวงการพีอาร์

IMG_7829

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image