| ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| คอลัมน์ ร่อนตามลม | |
| ผู้เขียน | [email protected] |
| เผยแพร่ |
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา คนฟินแลนด์ถูกมองเป็นคนเงียบขรึม เก็บตัว ขณะที่ประเทศฟินแลนด์ก็เป็นประเทศไม่ค่อยเจอแสงอาทิตย์ ยิ่งในช่วงฤดูหนาวยิ่งแล้วใหญ่ และยังเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง
โดยจากสถิติเมื่อปี 2557 ระบุว่าฟินแลนด์มีสัดส่วนการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 14.1 คนต่อประชากร 100,000 คน ขณะที่คนที่นั่นยังมีอัตราการดื่มเหล้า และการใช้ยาต้านอาการซึมเศร้าอยู่ในเกณฑ์สูงด้วย
แต่ถึงกระนั้นฟินแลนด์ก็ยังเป็นประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก
จากผลสำรวจของสหประชาชาติเกี่ยวกับ “ความสุขโลก” ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานนี้ โดยมีนอร์เวย์ แชมป์เก่าตามมาเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เดนมาร์ก 4.ไอซ์แลนด์ และ 5.สวิตเซอร์แลนด์
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น ฟินแลนด์ก็ไม่น่าจะเป็นประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก ดังที่ นายอุลลา ไมยา โรไฮนาน ชายเกษียณวัย 64 ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเฮลซิงกิ ยังบอกพร้อมเสียงหัวเราะว่า
“ตอนพวกเราได้ยินข่าวนี้ เรายังคิดว่าคงจะรายงานข่าวผิดหรือเปล่าเลย”
แต่จากรายงานของเอเอฟพีที่หยิบข่าวนี้มาพูดถึง บอกว่าในการทำสำรวจเรื่องนี้ สหประชาชาติหรือยูเอ็นพบว่าที่ฟินแลนด์ และประเทศที่ติดอันดับต้นๆ ว่าประชาชนมีความสุขกันมาก เป็นเพราะประเทศเหล่านั้นล้วนมีปัจจัยที่ดีในการส่งเสริมให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อาทิ ปัจจัยเรื่องรายได้ของประชากร อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากร สวัสดิการทางสังคม เสรีภาพ ความไว้ใจ และความใจกว้างของรัฐ
ในรายงานของเอเอฟพียังเล่าด้วยว่า คงเป็นเพราะความต้องการขั้นพื้นฐานของชาวฟินแลนด์ล้วนได้รับการตอบสนองค่อนข้างครบครันนี่เอง ที่ทำให้ตัวละครส่วนใหญ่ในภาพยนตร์ของอากิ เคาริสมากิ ผู้กำกับดังของฟินแลนด์ จึงมักมีสีหน้าเรียบเฉย เหมือนคนไร้อารมณ์
เอเอฟพียังได้ยกคำพูดของ แฟรงค์ มาร์เทลา นักปรัชญาที่พูดถึงปัจจัยที่ทำให้คนเรามีความสุขว่า
ความพึงพอใจในชีวิตของมนุษย์เรานั้นขึ้นอยู่กับว่า หน่วยงานต่างๆ ในประเทศทำหน้าที่ได้ดีเพียงไร แล้วยังความเสมอภาคในสังคม เสรีภาพ การไม่คอร์รัปชั่น ความไว้วางใจในรัฐบาล และความไว้ใจซึ่งกันและกันของผู้คน
ซึ่งฟินแลนด์มีสิ่งที่ว่ามานั้นทั้งหมดและมีอย่างดีเยี่ยมด้วย ขณะที่มีช่องว่างระหว่างค่าแรงน้อยมาก โดยมีค่าเฉลี่ยของเงินเดือนต่อปีเมื่อปี 2558 อยู่ที่ 25,694 ยูโร (ราว 1,002,066 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับฝรั่งเศสซึ่งอยู่ที่ 21,970 ยูโร (ราว 856,830 บาท) และลัตเวียที่ 7,352 ยูโร หรือราว 286,728 บาทในปีเดียวกัน
นอกจากนั้น นอกจากประเทศนอร์เวย์แล้ว ฟินแลนด์ยังเป็นประเทศเดียวในยุโรปที่ประสบความสำเร็จในการลดจำนวนคนไร้บ้านลงได้ระหว่างปี 2557-2559
ทั้งนี้ หากจะว่ากันโดยรวม ก็ต้องถือว่าชาวฟินแลนด์มีสภาพชีวิตที่ดี ด้วยมีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ มีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น และคนทำงานยังได้สิทธิลาไปเลี้ยงลูก ทำให้สามารถจัดสมดุลระหว่างเรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวได้ค่อนข้างดี
นอกจากนั้น คนฟินแลนด์ยังเชื่อมั่นในสวัสดิการสังคมของประเทศตน โดยมีคนฟินแลนด์ถึง 81% ที่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของประเทศ ขณะที่มีคนฟินแลนด์ราว 75% ที่เชื่อมั่นในระบบยุติธรรรมของประเทศ
หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ 18 ปี ในที่สุดระบบสวัสดิการทางสังคมที่ดีของฟินแลนด์ ก็ทำให้ เฮนริกา ทอนเดอร์ และสามีชาวฝรั่งเศสของเธอตัดสินใจพาลูกๆ เดินทางกลับมาใช้ชีวิตที่ฟินแลนด์
“คุณสามารถจัดสรรเวลาระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว เมื่อเราเลิกงานระหว่าง 4 โมงเย็น-5 โมงเย็น ทำให้เรามีเวลาที่จะไปทำธุระส่วนตัว และใช้เวลากับครอบครัวได้” เฮนริกาบอก
ทั้งนี้ ในฟินแลนด์มีคนส่วนน้อยที่ไปโบสถ์ ส่วนใหญ่จะไป “เซาน่า” กัน ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนที่นั่น โดยเฉลี่ยมีคนฟินแลนด์ราว 5.5 ล้านคน ไปเซาน่าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
“เมื่อคุณอยู่ในเซาน่า คุณจะแฮปปี้มาก” เทอริ คัวราเนน วัย 68 ปีบอก
แต่ แฟรงค์ มาร์เทลา ก็ยังอดพูดกระเซ้าไม่ได้ว่า
“แต่เมื่อหิมะตก ผมก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า มันยากอยู่นะที่จะคิดว่า คนฟินแลนด์อาจเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก”
