เตรียมตัวก่อน “สาดน้ำ” สุขภาพไม่พัง-ผิวไม่เสีย

เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน ก็นับว่าฤดูร้อนได้เริ่มขึ้นแล้ว และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยในช่วงนี้ไม่พ้น “เทศกาลสงกรานต์” ที่หลายๆ คนตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเล่นน้ำ 

แต่ไม่วายกังวลเรื่องการดูแลผิวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นแน่ เพราะนอกจากจะต้องสู้กับความร้อน และแสงแดดแล้ว ยังรวมไปถึงมลภาวะทางอากาศด้วย

พญ.ปิยะมาศ สิงห์วาหะนนท์ แพทย์ประจำศูนย์ความงาม รพ.พญาไท 2 กล่าวว่า ในแสงแดดประกอบด้วยรังสี UV, Visible light และ Infrared ซึ่งส่งผลกระทบต่อผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้จึงควรหลีกเลี่ยงการเกิดผลกระทบจากแสงแดด โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

ก่อนออกเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ควร “พักผ่อนให้เพียงพอ” และดื่มน้ำในปริมาณที่มากกว่าปกติ เนื่องจากเป็นช่วงอากาศร้อน ทำให้มีเหงื่อออกมาก

เลือก “สวมใส่เสื้อผ้าโทนสีดำ” แม้ว่าสีดำจะมีความสามารถในการดูดแสงได้ดี ทำให้รู้สึกร้อนขณะสวมใส่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสามารถในการปกป้องรังสี UV ได้ดี

Advertisement

ตลอดจนไอเท็มที่ขาดไม่ได้คือ “หมวก” ช่วยลดการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง

ส่วนเคล็ดลับการดูแลผิวในช่วงสงกรานต์ คุณหมอแนะนำว่า

ควรเล่นน้ำในช่วงเวลา 08.00-09.00 น. หรือตั้งแต่เวลา  16.00 น. เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่รังสี UVB ลดลง 

Advertisement

นอกจากนี้ ตัวช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดอย่าง “กันแดด” มีความจำเป็นอย่างมาก ควรเลือกใช้ “สูตรกันน้ำ” ซึ่งมีอยู่ 2 แบบคือ Water resistant ที่สามารถคงสภาพ SPF หลังแช่น้ำนาน 40 นาที และ Very Water resistant ที่ทนน้ำได้นานขึ้นเป็น 80 นาที อย่างไรก็ตาม สามารถใช้กันแดดที่มีอยู่ทั่วไปได้เช่นกัน โดยทากันแดดทุก 2 ชั่วโมง และทาเป็นฟิล์มสม่ำเสมอปกคลุมผิวทุกบริเวณ

“ไม่ควรใช้ที่เป็นรูปแบบเจลหรือน้ำ” เพราะจะถูกชะออกด้วยน้ำได้โดยง่าย “ควรเลือกใช้รูปแบบครีมหรือโลชั่น” ในขณะที่กันแดดแบบสเปรย์ฉีดพ่น มักพบปัญหาเกิดฟิล์มบนผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวลดลง

“ควรทากันแดดบริเวณที่ผิวสัมผัสแสงแดดโดยไม่มีเสื้อผ้าปกปิดในปริมาณที่มากกว่าบริเวณอื่น ส่วนค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป จะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVB ได้ไม่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญกว่าคือปริมาณที่ใช้ต้องเพียงพอ และหากเป็นกันแดดสูตร Chemical sunscreen ควรทาก่อนออกแดด 20-30 นาที เนื่องจากต้องใช้เวลาในการดูดซึมเพื่อให้สารกันแดดออกฤทธิ์”

พญ.ปิยะมาศกล่าวอีกว่า ขณะเล่นน้ำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง โดยเฉพาะเวลาเที่ยง และเล่นน้ำต่อเนื่องไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง เพราะนอกจากเสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้แดดแล้ว อาจส่งผลให้ร่างกายมีปัญหาขาดน้ำ หน้ามืด หรือเป็นลมแดดได้

ที่สำคัญ “น้ำที่ใช้เล่น ควรเป็นน้ำสะอาด” ไม่ผสมสิ่งปนเปื้อนหรือสีใดๆ เพราะอาจก่อให้เกิดผื่นแพ้สัมผัส หรือผิวหนังอักเสบต่อผู้อื่นได้

ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image