วินาทีนี้ กระแสฮิตติดลมบนที่ฟีเวอร์สุดสุด หนีไม่พ้นกระแส “แต่งชุดไทย” โดยเริ่มต้นจากงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว และมาเปรี้ยงปร้างสุดสุดกับละครดังบุพเพสันนิวาส “ออเจ้า” ที่ทำเอาคนไทยลุกขึ้นมานุ่งโจง ห่มสไบ ตามแม่หญิงการะเกดและคุณพี่หมื่น กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ยิ่งเข้าสู่ช่วง “เทศกาลสงกรานต์” หรือ “วันปีใหม่ไทย” กระแสแต่งชุดไทยยิ่ง “ฮอตเว่อร์” ชนิดที่เอาอะไรมาฉุดก็ “ฉุดไม่อยู่” งานนี้จึงได้เห็นเหล่าพ่อค้าแม่ค้านำชุดไทยรูปแบบต่างๆ ทั้งไทยดั้งเดิม ไทยประยุกต์ มาวางจำหน่ายกันทั่วทุกหัวระแหง ทั้งแผงร้านออนไลน์ และออฟไลน์ สารพัดให้ได้เลือกสรร…
ทั้งชุดไทยประยุกต์ที่นำเอาผ้าสไบมาตัดเย็บแบบสำเร็จรูป ให้ใส่ได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ และผ้าสไบเช่นแม่หญิงการะเกดก็ยังได้รับความนิยม มีราคาตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึงหลักพันสำหรับเนื้อผ้าที่ดูหรูหรา
เช่นเดียวกับโจงกระเบนที่เราต่างได้เห็นการนำเอาผ้าลายผ้าถุงคุณยาย มาปรับประยุกต์เป็นโจงกระเบนใส่ง่ายๆ ราคาหลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงนำมาทำเป็นกางเกงขายาวสุดแนว กางเกงขาสั้น และกระโปรงเก๋ๆ ไม่เท่านั้น ไอเท็มอย่างเสื้อคอกระเช้า ก็ยังได้รับความนิยม เพราะเมื่อนำมาประยุกต์รวมกันก็ดูแนวไม่น้อย
แต่งไทยให้เกิด!
แต่จะแต่งอย่างไรให้เกิดนั้น เจี๊ยบ-เอกมล อรรถกมล สไตลิสต์และดีไซเนอร์ชื่อดัง ที่มองว่าอย่างไรชุดไทยก็คงจะมาแรงในช่วงนี้ ได้แนะเคล็ดลับไว้ว่า เวลาที่จะใส่ชุดผ้าไทยนั้น ต้องเข้าใจว่าเทรนด์โลกทั้งหมดคือการมิกซ์แอนด์แมตช์ หากอยากจะสนุก ควรเลือกชิ้นที่เป็นไทยไว้ 1 ชิ้น และประยุกต์ใส่กับชิ้นอื่น ง่ายที่สุดคือการเลือกกางเกงลายผ้าไทย หรือทรงแบบโจงกระเบน เป้าถ่วงๆ เล็กน้อย ผูกผ้าไว้ที่เอว ใส่กับเสื้อยืดสีต่างๆ ก็จะดูไม่มากเกินไป เข้ากันได้ดีกับผ้าใบและเป้สักใบ หรือหากอยากจะใส่ผ้าสไบ ก็อาจจะใส่เสื้อสีขาวด้านใน แขนกุด แล้วพันผ้าสไบทับ ป้องกันผ้าที่อาจจะหลุดได้ง่าย เป็นความสนุกและสีสันสงกรานต์ ซึ่งเราอาจจะไม่ได้หยิบมาใส่ในชีวิตประจำวัน
นอกจากชุดไทยแล้ว เสื้อลายดอกก็คงฮิตไม่สร่างซา เอกมลบอกว่า ด้วยความที่เป็นเสื้อที่คนไทยหยิบมาใส่ช่วงสงกรานต์จนเป็นที่ชินตา จึงเรียกได้ว่าเสื้อลายดอกนี้ก็เป็นชุดผ้าไทยได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องเลือกลายดอกไม้แบบไทยๆ ต่างกับเสื้อฮาวาย หากอยากใส่ให้ดูมากขึ้นหน่อย ก็อาจใส่กับซอฟต์แจ๊กเก็ต สูทเทียม หรือคาร์ดิแกนสักตัว ก็จะดูโมเดิร์นขึ้นได้
สไตลิสต์คนดังย้ำว่า อย่างไรก็ตาม ชุดไทยจะมาในเทศกาลสงกรานต์แน่นอน เพราะพระเอกนางเอกจากเรื่องบุพเพสันนิวาสได้ทำให้ชุดไทยดูน่ารัก น่าใส่ บวกกับการรวมตัวของดีไซเนอร์ที่ออกคอลเล็กชั่นผ้าไทยและนำเอาผ้าไทยมาประยุกต์ให้ง่ายขึ้น จากที่หลายคนมองว่าแก่ก็ใส่ง่ายขึ้น เรียกว่าสงกรานต์นี้ อินเทรนด์แน่นอน
ส่วนใครที่ยังไม่กล้าจะใส่ชุดไทยไปเล่นสงกรานต์ ก็อาจจะเลือกใส่ไปร่วมงานบุญ งานพิธีการประเพณีต่างๆ เรื่องนี้ ปลา-สุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่งฟินนาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ ที่ทำงานกับผ้าไทยมาอย่างยาวนาน แนะนำว่า การจะใส่ชุดไทยไปร่วมงานบุญต่างๆ ก็ควรจะเลือกผ้าฝ้าย ที่ดูแลง่ายกว่าผ้าไหม และโดนน้ำได้ ซึ่งช่วงสงกรานต์จะเป็นหน้าร้อน จึงควรใส่ชุดไทยสมัย ร.3-5 อันเป็นชุดที่สุภาพเรียบร้อย เป็นเสื้อแขนกระบอก และสไบห่ม หรือลูกไม้ฝรั่งเศส นุ่งโจงกระเบน หรือจะใส่ชุดไทยพระราชนิยมอย่างไทยเรือนต้น ไทยจิตรลดา ไทยอัมรินทร์ รวมทั้งซิ่นพื้นเมือง ผ้าลูกไม้ ผ้าแถบ ก็จะดูสวยงาม

แต่ด้วยความที่เทศกาลสงกรานต์ ย่อมหลีกเลี่ยง “น้ำ” ไม่ได้ สุดจิตร์จึงแนะนำว่า ผ้าที่ใส่ไปร่วมงานสงกรานต์จึงไม่ควรเป็นผ้าไหม เนื่องจากเป็นผ้าที่ดูแลรักษายาก อาจทำให้พื้นผ้าไหมเสียไปได้เมื่อโดนน้ำ แป้ง ดินสอพอง และน้ำหอม เพราะเส้นด้ายจะซึมซับง่ายและเร็ว หากโดนสิ่งเหล่านี้ควรรีบถอด แช่น้ำเฉพาะจุดที่ตกแล้วรีบทำความสะอาดทันที สุดจิตร์แนะนำว่า ควรเลือกใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมสังเคราะห์แทน อย่างผ้าพิมพ์ลายต่างๆ ที่ไม่ใช่ผ้าทอ แม้จะสวยไม่เท่าแต่ดูแลรักษาไม่ยาก ทำให้รู้สึกอุ่นใจเมื่อเที่ยวสงกรานต์มากกว่า
ส่วนใครจะเลือกแบบไหน ก็คงต้องให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคน