เนื่องในวันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้คัดเลือก “ผู้สูงอายุแห่งชาติ” ซึ่งปีนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดยเข้ารับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ปัจจุบันอายุ 78 ปี ทำงานถวายใต้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาตลอด 35 ปี กล่าวว่า ตนเองมีชีวิตแปลกประหลาดไปเรียนต่างประเทศมาเพื่อหวังเป็นทูตเป็นอะไรที่โก้หรู ปรากฏว่าได้มาอยู่สภาพัฒน์ “แต่เป็น 8 เดือน ที่ไม่ได้ทำงานที่สภาพัฒน์ แต่ต้องทำงานเรื่องความมั่นคง ไปอยู่ป่าพื้นที่สีแดงรอบประเทศถึง 11 ปี ทุกก้าวย่างที่ไปไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น จะเหยียบระเบิดหรือโดนซุ่มยิงกลางทาง ก็กลัวนะ แต่ก็ทำมาตลอด 11 ปี เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ในฐานะเป็นคนไทย เป็นข้าราชการ ทุกคนปฏิเสธหน้าที่รับผิดชอบไม่ได้” ดร.สุเมธย้อนเล่าถึงประวัติการทำงาน
กระทั่งปี 2524 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “เลขาธิการสำนักคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)”
ซึ่งที่นี่เอง ทำให้ ดร.สุเมธ ได้มีโอกาสถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และถวายต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 35 ปี
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนทุกอย่างโดยทรงทำให้ดู ซึ่งทรงสอนเพียง 3 ประโยคสำคัญคือ “มองทุกอย่างที่ฉันทำ” คือ พระองค์ไม่สอน แต่ให้มองทุกอย่างที่พระองค์ทำ “จดทุกอย่างที่ฉันพูด สรุปทุกอย่างที่ฉันคิด” คือ ทุกจังหวะต้องคิดถึงปัจจุบัน อย่าลืมบทเรียนในอดีตด้วยการทำบันทึก และมุ่งไปสู่อนาคต ก็เหมือนการเดินเข้าไปสู่ความสูงอายุ ต้องการหรือไม่ต้องการก็ต้องเดินไป”
“ซึ่งเคล็ดลับของผู้สูงอายุที่ได้รับจากพระองค์มาคือ อย่าหยุดทำงาน จะหาเรื่องอะไรทำต่อไปก็ได้”
ดังนั้น แม้ว่าจะสูงวัยแล้ว ดร.สุเมธก็ฝากว่า “จะอายุขนาดไหน ก็ให้ทำงานต่อไป”
“อย่านึกว่างานเสร็จ งานแก้ไขปัญหาแผ่นดิน งานแก้ปัญหาของบ้านเมือง งานแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และที่อยู่รอบๆ ตัวเรา มันไม่มีวันเสร็จ ตราบใดที่โลกยังเต็มไปด้วยมนุษย์ซึ่งเป็นผู้สร้างและทำลาย ฉะนั้น ขณะที่สร้างไปด้วย ทำลายไปด้วย เราก็ต้องไปแก้ไขสิ่งที่เราทำลายอยู่ตลอดเวลา”
“ซึ่งการแก้ไข การสร้างนั้นไม่มีอายุ” ดร.สุเมธย้ำ
“วันไหนหมดเรี่ยวแรงแล้ว สังขารไม่เอื้อจะเป็นวันที่รู้ว่าเราต้องหยุดแล้ว แต่ตราบใดที่วันนั้นยังมาไม่ถึง ขอฝากว่าพวกเราจะทำเพื่อแผ่นดินที่เป็นของเรา รอบตัวเป็นญาติมิตรของเรา แล้วต้องนึกถึงอนาคตตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่งไว้ด้วย การพัฒนาที่ยั่งยืน รักษาแผ่นดินวันนี้ เพื่อให้ลูกเราได้อยู่ต่อ รักษาต่อไปจนอยู่ไม่รู้จบ”
“อย่างตัวผมเองจะรักษาความสูงอายุที่มีคุณภาพต่อไป และฝากน้องๆ ที่จะตามมาเป็นผู้สูงอายุ ให้เตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้ ระหว่างที่อยู่ อยู่ให้สง่า และตายอย่างสงบ” ดร.สุเมธทิ้งท้าย