“หัวเว่ย”รุกตลาดไทย เชื่อมั่นศักยภาพในการเติบโต

ต้องยอมรับว่า ชื่อของ “หัวเว่ย” เริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยกันมากขึ้น แม้ว่าหัวเว่ยจะทำตลาดในประเทศไทยมานานถึง 18 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็จะเน้นหนักไปที่กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่หรือการวางโครงข่ายต่างๆ มากกว่า อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เริ่มทำตลาดคอนซูเมอร์ หัวเว่ยเริ่มมีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมไปถึงนาฬิกาอัจฉริยะออกมา ชื่อของหัวเว่ยก็เป็นอีกชื่อหนึ่งที่เริ่มติดตลาดในไทย

และล่าสุด หัวเว่ยก็ได้เลือกประเทศไทย ในการเปิดตัวแคมเปญโฆษณาระดับโลกตัวใหม่ เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้สโลแกน มุ่งมั่น มานะบากบั่น และฝ่าฟันสู่ความสำเร็จ โดยงานนี้ มี น.ส.เฉิง ลี่ฟาง รองประธานอาวุโส ฝ่ายองค์กร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด เดินทางมาถึงเมืองไทยเพื่อร่วมเปิดตัวแคมเปญดังกล่าว

โดยแคมเปญนี้ น.ส.เฉิงอธิบายไว้ว่า จะประกอบไปด้วยภาพ 3 ภาพ ที่บอกเล่าถึงช่วงเวลาสำคัญของความมุ่งมั่น มานะบากบั่น และการฟันฝ่า จนนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในที่สุด

ภาพแรก เป็นภาพของชาวคองโกกำลังจับปลาด้วยกระชังสานอันใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น การตั้ง

Advertisement

เป้าหมายอย่างไม่ลดละ เช่นเดียวกับหัวเว่ย ที่มีความมุ่งมั่นในการทำใหลูกค้าได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

ส่วนภาพที่สอง เป็นภาพของเครื่องเร่งอนุภาคของสถาบันเซิร์น ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป ที่ต้องการสื่อถึงความมานะบากบั่นที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ใช้เวลานานหลายสิบปีและทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการสร้างเครื่องเร่งอนุภาคที่มีความซับซ้อนมากพอที่จะตรวจจับอนุภาค “ฮิกส์โบซอน” เช่นเดียวกับหัวเว่ยที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่ถือเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีต่างๆ

และ ภาพสุดท้าย เป็นภาพของฟลอเรนซ์ กริฟฟิท จอยเนอร์ นักกรีฑาเหรียญทอง เจ้าของสถิติโลกประเภทวิ่ง 100 เมตรหญิง ที่เหมือนกับหัวเว่ยในการมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมายให้ได้สำเร็จ

นอกไปจากนี้ หัวเว่ยก็ยังประกาศเปิดศูนย์ ซีเอสไอซี (Customer Service Innovation Center) ในประเทศไทย โดย นายเดวิด หลิว ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์ซีเอสไอซีนี้ จะเป็นศูนย์สำหรับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ รวมทั้งสถาบันการศึกษาที่สนใจ ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จากหัวเว่ย และที่ประเทศไทยนี้ถือว่าเป็นศูนย์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เหตุที่เลือกไทยเพราะมีภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ที่เหมาะสม และคนไทยเองก็เป็นกลุ่มคนที่ชอบเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และตอบสนองต่อไฮเทคอย่างรวดเร็ว

สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดในไทยนั้น นายวัง อี้ฝาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ใน 3 กลุ่มธุรกิจของหัวเว่ยในไทย ซึ่งได้แก่ กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่, อุปกรณ์โทรคมนาคมสื่อสาร และกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป หรือคอนซูเมอร์นั้น แน่นอนว่าธุรกิจคอนซูเมอร์เป็นกลุ่มที่หัวเว่ยคาดหวังมากที่สุดในตอนนี้ และต้องยอมรับว่าอย่างสมาร์ทโฟนนั้น หัวเว่ยเองก็ยังเป็นน้องใหม่ในกลุ่มนี้ และรู้ดีว่าการให้ผู้ใช้เปิดใจรับและชื่นชมในผลิตภัณฑ์นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง แต่หัวเว่ยก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อพัฒนาทั้งสมาร์ทโฟน และนาฬิกาอัจฉริยะ หัวเว่ย วอทช์

ในขณะที่หัวเว่ยสำนักงานใหญ่เองก็ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยอย่างมาก และเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ว่าผู้บริโภคยังมีอำนาจในการซื้ออยู่ และจะเดินหน้าบริหารศูนย์บริการหลังการขายเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

ตอนนี้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย อยู่อันดับ 3 ของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกแล้ว แม้จะมีอยู่ไม่กี่ประเทศที่สมาร์ทโฟนของหัวเว่ย เป็นอันดับ 1 แต่จากข้อมูลที่หัวเว่ยมี ก็พบว่าอัตราการเติบโตของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยอยู่ในสถานการณ์ที่น่าพอใจอยู่ไม่น้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image