สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานผลการสำรวจของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 เมษายน ในวารสารการแพทย์แลนเซ็ท ระบุว่า ผู้ใหญ่ทุกๆ 1 ใน 8 คนกำลังอยู่ในภาวะอ้วน โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เป็นต้นมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 1 ในทุกๆ 5 คน ภายในปี 2568 โดยในปี 2557 ผู้ใหญ่ราว 5,000 ล้านคนที่ยังมีชีวิตอยู่ มีถึง 641 ล้านคนที่อยู่ในภาวะอ้วน และคาดว่าจำนวนตัวเลขของผู้ใหญ่ที่อยู่ในภาวะอ้วนจะทะลุ 1,100 ล้านคนในเวลาอีกเพียง 9 ปี
ผลวิจัยยังได้เตือนเกี่ยวกับภัยที่จะเกิดจากภาวะอ้วนว่า จะนำมาซึ่งโรคหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นไขมันสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและคอเลสเตอรอลสูง โดยนายมาจิด เอซซาติ จากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนอน ผู้นำการวิจัย เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ผลของความอ้วนที่มีต่อสุขภาพนั้นมีอยู่มหาศาลที่พวกเราไม่รู้
ทั้งนี้ การจำแนกว่าเป็นผู้ที่มีสุขภาพดีหรือไม่ มักจะจำแนกตามค่าดัชนีมวลกาย (บีเอ็มไอ) ซึ่งเป็นอัตราส่วนระหว่างน้ำหนักต่อส่วนสูง ซึ่งค่าบีเอ็มไอระหว่าง 18.5 ถึง 24.9 ถือว่าสุขภาพดี แต่ถ้าต่ำกว่า 18.5 ถือว่าสุขภาพไม่ดี หรือเกิน 25 ขึ้นไป ถือว่าอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน และตั้งแต่ 30 ขึ้นไป อยู่ในภาวะอ้วน ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน เส้นเลือดในสมองอุดตัน โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด
