ชิลชิมญี่ปุ่น

งานนี้ถ้าพากย์ “เสียงในฟิลม์” เป็นภาษาญี่ปุ่นได้ คงทำครับ!!

เหตุมาจากเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อนญี่ปุ่น “ฮากิซัง” แนะนำให้รู้จักคณะญี่ปุ่นที่มาเมืองไทย และสนใจลงทุนธุรกิจทำ “ขนม” ในร้านกาแฟและมาขอคำปรึกษา ช่วงพบปะกัน รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จนผมทนไม่ไหว ขอไปดูด้วยตาตัวเองเพื่อให้ชัดว่าสิ่งที่ “ตกหล่น” ระหว่างการแปลภาษา “ไทย” เป็น “ญี่ปุ่น” ผสม “อังกฤษ” มีอะไรบ้าง

การเดินทางไปแดนอาทิตย์อุทัยจึงเกิดขึ้น และเป็นความจริงเมื่อ “คสช.” อนุมัติ พร้อมกำชับว่าให้ “ระวังการเคลื่อนไหวทางการเมือง” โธ่…ผมไปงานนี้กินขนม จิบสาเก อย่างเดียวครับ ไม่เจอคนไทยที่ไหนแน่นอน ไม่ “เคลื่อนไหว” จะมีก็แต่ “เคลื่อนพุง”

ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะไปรู้เรื่อง “ขนม” ถึงที่ญี่ปุ่นได้ง่ายๆ ล่ามไทยญี่ปุ่นไม่มีสักคน ผม “ดุ่ย” ลุย “เดี่ยว” ท่องคาถา “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าลิ้นเลีย” ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ เอาเป็นว่าสิ่งที่แปลไม่ออก จับยก และหยิบเข้าปากชิม น่าจะทำให้พอเข้าใจได้

สายการบิน Japan Airlines เครื่องออกห้าทุ่มกว่าถึงหกโมงเช้าเวลาญี่ปุ่น (ตีสี่เวลาไทย) แอร์บริการดี ถามด้วยว่าจะให้ปลุกทานอาหารเช้าไหมก่อนเครื่องลง ตั้งใจครับ สั่งชุดอาหารญี่ปุ่นไว้ พอถึงเวลาจริง ไม่ชิมไม่ชิลละ นอนต่อก่อนดีกว่า

ADVERTISMENT

เดินผ่าน ตม.คว้ากระเป๋าได้เลย ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ไม่ต้องรอสายพานกระเป๋าหมุน “นานเท่านาน” อย่างบางประเทศ ไลน์หาเพื่อนที่จะมารับ แหะๆ เครื่องลงเร็วไป มายังไม่ถึง มื้อแรกผมที่ญี่ปุ่นจึงเป็นกาแฟ “สตาร์บัคส์” ที่สนามบินนั่นเอง!!

เมื่อมาถึงพร้อมขึ้นรถมุ่งสู่ “โอซาก้า” โรงแรมยังเข้า “เช็กอิน” ไม่ได้ เริ่มชิมกันเลยดีกว่า เข้าร้านกาแฟในเมืองชื่อ “Willer Express Cafe” ใกล้สวนสาธารณะและสำนักงานหลายแห่ง อาหารเช้าง่ายๆ โยเกิร์ตใส่ถ้วย ขนมปังชุบไข่ (French Toast) หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถ้วย ราดน้ำเชื่อม “เมเปิล” ก็พอแล้ว ดูดี ถือสะดวกสำหรับคนทำงาน

สุนันท์ 2 เมย.02

อิ่มแล้วต่อซิครับ พามาชมมาชิม กินกันอิ่มไม่พอ น้ำหนักขึ้นว่ากันทีหลัง ห้างเปิด “โตชิม่าซัง” เพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านขนมญี่ปุ่นประเภทที่มี “ถั่วแดง” เป็นพื้น “โดริยากิ” ที่ “โดราเอมอน” กินนั่นละครับ และขนมอื่นๆ อีกมากมาย เช่นเจ้า “ไทยากิ” รูปปลาที่คนไทย “ฮิต” กันอยู่พักหนึ่ง

“โตชิม่าซัง” พาทัวร์ เพิ่งรู้ว่าใต้ห้างไดมารูและห้างฮันชินเขามีร้านอยู่ เดินกันเพลิน เกินอิ่มไปไกล เพื่อนญี่ปุ่นเป็นคนสุภาพ อยากให้ลองทุกอย่าง เราย่อมต้องสุภาพตอบไม่มีปฏิเสธ!!

ที่น่าสนใจคือ การที่ญี่ปุ่นเป็นชาติอุตสาหกรรม จึงมีการคิดค้นเครื่องจักรกลในการช่วย “ผ่อนแรง” อย่างในการทำขนม “เค้กญี่ปุ่น” ก้อนกลมๆ เล็กๆ ไส้ถั่วแดง ร้านของโตชิม่าซังมีเครื่อง “ปั๊ม” ขนม ใช้คนคน เดียวควบคุม ตั้งไว้ทำขนมให้ดู และขายจริง บวกกับความตั้งใจที่จะเรียงใส่กล่อง ห่ออย่างดี ทำให้ขนมมีคุณค่าขึ้นอีกมาก

และโตชิม่าซังยังไม่ทำเพียงขนมดั้งเดิม ยังพร้อมจะทดลองสิ่งใหม่ๆ จับมือกับคนทำขนมรุ่นใหม่ๆ ที่แนวออกขนมฝรั่งอย่าง “เซอิชิโร่ นิชิโซโน่” ซึ่งบวกความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในการ “ผสม” วัตถุดิบให้ได้รสชาติ การจัดการรูปลักษณ์การนำเสนอ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการอบขนม อย่างเตาอบที่นิชิโซโน่ซังใช้นั้น ตั้งโปรแกรมความร้อนและเวลาได้ถึง 12 แบบ ซึ่งเมื่อ “ลงตัว” ว่าเค้กแบบไหน ใช้ “สูตร” ใด ใคร “กดปุ่ม” ก็ทำได้เลย ใช้คนน้อย ประหยัดเวลา

ทริปนี้ได้ไปร้านกาแฟหลายแห่ง คนญี่ปุ่นดื่มกาแฟอย่างละเมียด และมีความรู้ บางร้านมีกาแฟให้เลือกจากหลายประเทศทั่วโลก คั่วเตรียมไว้ มีคำอธิบายที่มาที่ไป จนผู้บริโภคสนใจและสงสัย ชวนให้ลอง

ส่วนการบรรจุหีบห่อของญี่ปุ่นนั้น ศึกษากันได้ไม่รู้จบ รายละเอียดมากมาย อย่างร้านช็อกโกเลต Malebranch หนังสติ๊กที่รัดแกะออกมายังเป็นรูปคนและไดโนเสาร์ ต้องชื่นชมความตั้งใจ

รอบนี้ไปทั้ง “โอซาก้า” และ “เกียวโต” ด้วย ไปกับคนญี่ปุ่น จึงได้ไปหลายร้านที่เป็นร้านท้องถิ่น มีแต่ลูกค้าคนญี่ปุ่น และใช้แต่ภาษาญี่ปุ่น เมนูภาษาอังกฤษอย่าหวัง กินกันอย่างไม่มี “มื้อ” เก็บมาเล่าไม่หมด ดูรูปกันไปให้น้ำลายหกเล่นละกันครับ!!

อาหารญี่ปุ่น