‘ซาลอนแห่งอนาคต’ ไอเดียบรรเจิด เด็กมธ.ตัวแทนไทยสู้เวทีโลก

เพราะไอเดียเล็กๆ จากคนรุ่นใหม่ อาจสร้างสรรค์สิ่งยิ่งใหญ่ เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้กับโลกนี้ได้

บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันโครงการ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2018” เฟ้นหาคนรุ่นใหม่มาร่วมแข่งขันด้วยการนำเสนอกลยุทธ์และพัฒนาแผนการตลาดดิจิทัลในโครงการ “ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2018” ครั้งที่ 15 ในประเทศไทย

ซึ่งปีนี้ ลอรีอัลกำหนดโจทย์ “อินเวนท์ เดอะ โปรเฟสชั่นแนล ซาลอน เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออฟ เดอะ ฟิวเจอร์” หรือ สร้างประสบการณ์ซาลอนมืออาชีพแห่งอนาคต ให้กับแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เน้นเข้าถึงและสื่อสารแบบกลุ่มมิลเลนเนียม

และจากผู้เข้าแข่งขันกว่า 90 ทีม ก็ได้ผู้ชนะเลิศได้แก่ ทีม “เบรนสตรอง” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบด้วย พลอย-ภัณฑิลา จินดาสถาน, ป๊อป-เปมิกา มาศอาณา และ โฟลท-ณัชชารีย์ นิธิพรรธนรัตน์ นักศึกษาปี 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (หลักสูตรนานาชาติ)

Advertisement

ภัณฑิลาเผยว่า โปรเจ็กต์นี้เริ่มจากสำรวจร้านทำผมในทุกระดับว่าพฤติกรรมลูกค้าเป็นอย่างไร ราคาประมาณไหน กระบวนการเป็นเช่นไร รวมถึงบริการและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีว่าพัฒนาไปถึงไหน ก่อนจะเริ่มสำรวจผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม และจากประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อนำมาวิเคราะห์ ตีโจทย์ให้แตก

“ลูกค้าไทยส่วนใหญ่มักจะนำรูปทรงผมที่ต้องการจากอินเตอร์เน็ตไปให้ช่างทำผมทำ แต่มักไม่ได้ผลตามที่คิดไว้ และเมื่ออยากเปลี่ยนร้านก็ไม่รู้ว่ามีร้านที่ดีกว่าเดิมหรือไม่ ไม่มีคนแนะนำ จึงเลือกร้านเดิมต่อไป โดยการจะเข้าร้านทำผมนั้นเกิดจากความต้องการ มากกว่าโปรโมชั่น” ภัณฑิลาเผย

จึงเป็นที่มาของการออกแบบนวัตกรรม L”oreal True You ที่เปมิกาเผยว่า ประกอบด้วย Augmented Reality ที่จะวิเคราะห์รูปหน้าว่าเหมาะกับทรงผมหรือไม่ จากนั้นตรวจสภาพเส้นผมด้วยเครื่องสแกน Near-Infrared วิเคราะห์เส้นผมโดยละเอียด ทั้งพื้นสีผม ความหนา บาง ชุ่มชื้น และความแข็งแรงของเส้นผม โดยเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่ลอรีอัลมี เพื่อให้ได้ตรงกับความต้องการที่สุด ข้อมูลทั้งหมดนี้จะเข้าสู่แอพพลิเคชั่น Style my hair ที่บริษัทมีอยู่สามารถให้คะแนนร้านได้ เป็นฐานข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกร้านทำผม รวมไปถึงการจองร้าน เพื่อให้คนโหลดมาใช้แล้วไม่ลบ

Advertisement

 

“นวัตกรรมนี้ ออกแบบมาเพื่อให้ร้านได้ใช้สกิลของช่าง เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด เพราะเทคโนโลยีจะไม่ได้แม่นยำที่สุด ต้องใช้คน บวกกับเทคโนโลยี จึงจะตอบโจทย์ที่สุดทั้งร้านค้าและลูกค้า”

ไม่เพียงเท่านั้นนวัตกรรมนี้ยังช่วยสังคมได้ด้วย

ภัณฑิลาเผยว่า การวิเคราะห์และคำนวณนี้จะช่วยลดการใช้มลพิษได้มากถึง 19.6 ล้านตัน/ปี จากการลดใช้หลอดอะลูมิเนียม ฟลอยด์แร็บเส้นผม และเรายังเสนอให้ลูกค้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

จากนี้ ทีมเบรนด์สตรองก็พร้อมนำเอาโปรเจ็กต์นี้พัฒนาต่อไปเพื่อไปสู้กับเยาวชนจากทั่วโลกในการแข่งขันที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 16-17 พฤษภาคมนี้

เป็นกำลังใจให้เด็กไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image