เปิดมุมมอง 3 นักธุรกิจสตรีอาเซียน

จัดเป็นผู้หญิงระดับแถวหน้าในวงการธุรกิจ ซึ่งจะมาเล่าถึงเคล็ดลับความสำเร็จ ภายหลังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ประกอบการสตรีที่มีผลงานโดดเด่นจากภูมิภาคอาเซียน (Outstanding ASEAN Women Entrepreneurs Award) ประจำปี 2018 จาก พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้ร่วมกับสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ณ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ

เริ่มที่ นางสาวกุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อาฟเตอร์ ยู ธุรกิจร้านขนมหวาน เบเกอรี่ เเละกาเเฟ ชื่อดังที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เล่าว่า ตนไม่ค่อยมีหลักในการทำงาน แต่เน้นว่าการทำงานต้องเริ่มจากความสนุก ทุกวันของการทำงานจึงเป็นความสนุก ทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตลอด เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรค

“ในการทำธุรกิจไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีความเหนื่อยเหมือนกัน แต่คิดว่าผู้หญิงอาจมีข้อดีกว่า ในแง่ว่ามีความอ่อนโยน อ่อนหวาน พูดคุยง่ายเวลาเข้าหาคน เพราะนักธุรกิจส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย” กุลพัชร์เล่าพลางหัวเราะก่อนเล่าอีกว่า แต่ก็มีตอนเริ่มทำธุรกิจ ที่ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงและเด็กด้วย ก็อาจไม่น่าเชื่อถือบ้าง

Advertisement

แต่เร็วๆ นี้จะได้เห็นอาฟเตอร์ยูโกอินเตอร์สู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่เธอได้เห็นโอกาส ซึ่งกุลพัชร์ก็ฝากถึงผู้หญิงไทยว่า อยากเชียร์ให้ทุกคนทำ อยากทำอะไรก็ทำเลย อย่าปล่อยโอกาสทิ้งไปมากมาย

กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ

ขณะที่ นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งปัจจุบันเธอดูแลสวนน้ำวานา นาวา และโรงแรม ซึ่งแม้จะเป็นลูกสาวของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่เธอก็ยอมรับว่า เส้นทางธุรกิจของตัวเองไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะก็ประสบความลำบากตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนกับทุกคน ขณะที่เธอยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งด้วยประสบการณ์ที่มีไม่มาก ที่ผ่านมาก็มีล้มลุกคลุกคลาน แต่ก็มีระบบซับพอร์ตที่ดี โดยเฉพาะครอบครัว และทีมงาน

“พราวเชื่อในเรื่องการทำตนเองให้เป็นตัวอย่างที่ดี ก็จะนำไปสู่การเป็นองค์กรที่ดี และส่วนตัวไม่ได้มองประโยชน์ของตัวเอง แต่มองประโยชน์ของสังคม ทำธุรกิจให้ทุกคนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้”

พราวพุธกล่าวอีกว่า ตอนนี้กำลังเน้นสวนน้ำวานานาวา และเตรียมมีโครงการต่อไป คือทำให้สวนน้ำนี้เป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของประเทศไทย ที่คล้ายๆ ว่าคนต้องเดินทางมาไทยเพื่อมาที่นี่

“เชื่อว่าโอกาสมีอยู่รอบตัว สำคัญที่สุดคือต้องกล้าที่จะคว้าโอกาสมาทำ อย่างของพราวได้รับโอกาสที่ไว้วางใจให้มาทำตรงนี้ เมื่อได้โอกาสมาแล้ว ก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่ แน่นอนว่าจะต้องเจออะไรที่เป็นอุปสรรค มีท้อถอยบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็อย่ายอมแพ้” พราวพุธทิ้งท้าย

พราวพุธ ลิปตพัลลภ

ด้าน นางพัชระภรณ์ ยิ้มแย้ม ประธานบริษัทร่มโพธิ์ทอง 888 โปรดักส์กรุ๊ป จำกัด ธุรกิจผลไม้อบแห้งและกาแฟส่งออก จากจังหวัดเชียงราย เล่าว่า กว่าจะมาเป็นธุรกิจส่งออกผลไม้อบแห้งขนาดใหญ่นี้ ตนเริ่มต้นจากแม่ค้าธรรมดาคนหนึ่งในตลาดชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระทั่งวันหนึ่งมีคนไต้หวันมาชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจลำไยอบแห้งส่งขายที่จีน จึงเริ่มทำมาก่อนแยกออกมาทำเอง และตั้งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ จนล่าสุดที่มี 4 โรงงาน มีลูกน้อง 400 คน ส่งออกลำไย มะม่วง สับปะรด แก้วมังกร และเมล็ดกาแฟส่งออก 100 เปอร์เซ็นต์ ไปขายยังจีนและแถบยุโรป และยังเป็นแบรนด์ที่ติด 1 ใน 5 แบรนด์ขายดีในจีนอีกด้วย

“กว่าจะประสบความสำเร็จในการค้าขายอย่างทุกวันนี้ ก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน อาศัยว่าเป็นคนชอบทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข และแม้จะเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้ทำให้ประกอบธุรกิจยากขึ้นอะไรเลย กลับเป็นสิ่งที่ดีเสียอีก เพราะผู้หญิงจะมีความอ่อนโยน เวลาไปเจรจาอะไรจะได้เปรียบกว่า อย่างที่เมืองแม่สายผู้หญิงทำธุรกิจเก่งมาก ส่วนมากนักธุรกิจจะเป็นผู้หญิง”

นอกเหนือจากบริหารธุรกิจ พัชระภรณ์ยังชอบทำงานช่วยเหลือสังคม โดยยังเป็นผู้พิพากษาสมทบ เป็นนายกสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย และรองประธานแม่บ้านตำรวจนครบาล ซึ่งเธออยากแบ่งปันความสำเร็จนี้ถึงผู้หญิงไทยว่า “จริงๆ ผู้หญิงไทยมีความเก่งอยู่แล้ว เพียงอยากให้เพิ่มความขยันและตั้งใจเวลาทำอะไร อย่างตนเป็นคนตั้งใจสูงมาก

“ทุกอย่างที่เห็นเกิดจาก 1 สมอง 2 มือของตนเองแท้ๆ เพราะตนไม่ได้เกิดจากต้นตระกูลใหญ่อะไรมาก่อน” พัชระภรณ์กล่าวทิ้งท้าย

พัชระภรณ์ ยิ้มแย้ม
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image