ครั้งหนึ่งในชีวิต ว่ายน้ำในอะเมซอน โดย กาละแมร์ พัชรศรี

ครั้งหนึ่งในชีวิต ว่ายน้ำในอะเมซอน โดย กาละแมร์ พัชรศรี

ครั้งหนึ่งในชีวิต ว่ายน้ำในอะเมซอน

การจะเข้าป่าอะเมซอนที่เปรู ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ซื้อตั๋วแล้วจะไปเลยได้ เรื่องขอวีซ่าไม่ต้อง ประเทศไทยได้รับการยกเว้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคล้ายกับการขอวีซ่าเอาตัวเราเข้าประเทศเขาคือต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง มาลาเรียก่อน

ตัวฉันไม่ใช่ว่าไม่รู้ รู้แต่ไม่สำเหนียกดีกว่า!!

เขาบอกให้ไปฉีดก่อน 1-2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง อินี่ก็มัวแต่ทำงาน (ซึ่งอย่าเอามาเป็นข้ออ้างเลย) ก็ไม่ได้ไป จนไปฉีดเอาวันก่อนเดินทาง

Advertisement

หมอบอกว่า “ฉีดไปก็ไม่ครอบคลุมนะครั้งนี้ แต่ภูมิคุ้มกันจะอยู่ไปอีก 10 ปี แต่ไม่ฉีดก็จะกลับเข้าประเทศลำบาก เจ็บตัวไปก่อนคราวนี้แล้วระวังตัวให้ดีแล้วกัน”

ฉีดยาเดินแขนตกกลับบ้าน ที่สำคัญไม่ใช่แค่เจ็บตัวฟรี แต่ฤทธิ์ของวัคซีนจะทำให้มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยเนื้อตัว แขนด้านที่ฉีดจะหนักๆ สัก 1-2 วัน ต้องกินยาแก้ไข้ทุกๆ 4-6 ช.ม.

ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้สบายตัวจริงจริ๊ง!!!!

Advertisement

แต่จิตต้องชนะกาย พอปวดตัว ไข้ขึ้นต้องบอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป อย่าไปคิดตามอาการ ใช้ชีวิตตามปรกติ นี่ต้องสะกดจิตตัวเองขนาดนี้ ไม่งั้นง่อยค่าาาา

ที่ต้องฉีดป้องกันเพราะแถบนั้นยุงเยอะและเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มาสู่ตัวเรา นอกจากฉีดวัคซีนแล้วยังต้องเตรียมยากันยุงไปด้วย ฉันเอาไปทุกขนานทั้งทา ฉีดแบบสเปรย์และแบบน้ำ ถ้ามียาอมกันยุงก็คงซื้อไปแล้ว!

เมื่อต้องไปลงเรือล่องแม่น้ำอะเมซอน ทุกครั้งที่เราจะลงเรือ เจ้าหน้าที่จะบอกทุกครั้งว่า อย่าลืมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงเท้ารองเท้า หมวก แว่น ทากันแดด

และอย่าลืมฉีดกันยุงไปด้วย

นี่คือช่วงเวลาที่ฉันเบื่อที่สุดคือตอนเตรียมตัวเนี่ยแหละค่ะ คิดดูนะบางวันมันก็ร้อน ทากันแดดก็ต้องทา เหนียวตัวไปหนึ่งละ ตามด้วยกันยุงอีก ฉันทาแบบเจล 1 ชั้น ตามด้วยสเปรย์น้ำ 1 ชั้น และฉีดด้วยสเปรย์แบบพ่นอีกชั้น กว่าจะไปได้ โอ้ยยยยย ลำบาก

ไม่ใช่แค่ฉีดตามตัวนะ อย่าลืมตรงคอ หู มือ ผม และหน้า!

จริงๆ ต้องทากันยุงที่หน้าด้วย มันมาจริงๆ นะ ทาครีมแล้ว ทากันแดด ทากันยุง ทารองพื้น โหยยยยย เยอะ มากกกกก และสุดท้ายอย่าลืมสเปรย์บนเสื้อผ้าด้วย ครอบคลุมหัวจรดเท้า ไม่งั้นมันมาจริงๆ นะ เวลามันมาตอมเสื้อผ้า ขนลุกมาก! เวลาเรือเล่นลมจะพัด อันนี้ยุงมาตอมไม่ทัน

แต่ถ้าเรือนิ่งเวลาบุกเข้าไปดูสัตว์ตามกอหญ้า กอต้นไม้ แหล่งนางเลยค่ะ เราต้องอย่าทำตัวนิ่งเฉย สะบัดหัว มือ ขาไปมาบ่อยๆ อย่าเป็นเป้านิ่งให้นาง

มีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์จะถ่ายรูป มือนิ่งนางมาเกาะเลยค่ะ ดีที่เห็นเลยเอาอีกมือปัดไปอย่างเร็ว ไม่ทันได้กัดค่า และถ้าวันไหนเดินป่าทางเรือจะเตรียมรองเท้าบู๊ตยางให้เราเพื่อป้องกันงูกัดและลื่นเวลาเดิน

นี่คือสิ่งที่ต้องทำวันละ 2 รอบ 2 เวลาที่ล่องเรือดูสัตว์ในอะเมซอนค่ะ

หลายคนรวมทั้งฉันเคยคิดก่อนมาว่าอะเมซอนช่างน่ากลัวต้องมีสัตว์ร้ายมากมาย

โธ่ๆๆ คุณคะ มาจริงๆ กว่าจะหาอะไรที่น่ากลัวได้ ต้องบุกไปหามัน

แล้วกว่าจะเจอแต่ละตัวยากมาก อยู่ดีๆ มันไม่มาให้เห็นหรอกค่ะ

ที่น่ากลัวที่สุดก็ยุงนี่และค่าาาา

สัตว์อีกอย่างที่เรารับรู้ว่ามันน่ากลัวมากในอะเมซอนคือ ปิรันย่า!

เราดูในหนัง ดูสารคดี ปิรันย่าโหดร้ายกัดกินเนื้อคนเหวอะหวะไปหมด แต่โปรแกรมของเรามีว่ายน้ำในอะเมซอนด้วย!

โปรแกรมนี้มีในวันหลังๆ เขาคงอยากให้เราคุ้นเคยกับอะเมซอนสักพัก เห็นทุกวัน ดูทุกวันจะได้ไม่กลัว

แม่น้ำอะเมซอนมี 2 สี สีน้ำตาลคล้ายกาแฟลาเต้และสีดำคล้ายกาแฟเอสเปรสโซ เกิดจากข้างล่างมีแร่ธาตุและความเป็นกรดด่างที่ต่างกัน เอามาดมก็จะมีกลิ่น

สีอย่างนั้นแล้วมองไม่เห็นว่าข้างล่างเป็นอย่างไร รับรู้อย่างเดียวว่ามีปิรันย่า แล้วไง!!?

ก็ว่ายสิคะ!!!

บ่ายวันหนึ่งมีโปรแกรมให้เลือกว่าจะพายแคนูหรือว่ายน้ำ เรามาขนาดนี้แล้วถอยไม่ได้แล้ว คือถ้ามันอันตรายเขาคงไม่ให้เราลงไปว่าย ไกด์ที่เรือบอกว่าตัวเขาและเด็กๆ ทุกคนที่อะเมซอนก็ว่ายทุกคน เรือหาปลาก็หากันไป เด็กก็ว่ายอยู่ริมตลิ่งบ้านกันไป ตราบใดที่เลือดไม่ไหล ปิรันย่าจะไม่มากัดเรา

เราเอาเรือเล็กออกไปกลางแม่น้ำ แล้วมีบันไดให้ลง ก่อนจะลงยังคิดอีกรอบ “นี่กรูจะว่ายจริงเหรอวะเนี่ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน”

น้ำในอะเมซอนเย็นชื่นใจ เราว่ายแบบไม่ต้องใส่ชูชีพใดๆ ตัวเปล่าๆ นี่แหละค่ะ มีเจ้าหน้าที่เรือดูเราอยู่บนเรือใกล้ๆ บางครั้งน้ำก็อุ่น บางครั้งก็เย็น ไกด์บอกว่าเพราะตอนนี้กลางวันได้ความอุ่นจากพระอาทิตย์ แต่จริงๆ แล้วน้ำในอะเมซอนเย็นมาก

ระหว่างว่ายก็จะมีฝูงนกบินขวักไขว่อยู่ไม่ไกล

เสียงนกร้องและความเย็นของน้ำทำให้เราผ่อนคลาย และลืมเรื่องปิรันย่าไปได้

ว่ายไปสักพักฉันเห็นโลมาสีเทาและสีชมพูว่ายอยู่ห่างไปประมาณ 10 เมตร เรากรี๊ดกร๊าดกัน พยายามว่ายไปใกล้ๆ มัน มันก็ไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นแล้ว

โลมาเป็นสัตว์ที่พอโผล่ขึ้นมาทีไรก็ทำให้เรามีความสุขทุกครั้ง บางทีเราก็จะเห็นมันกระโดดลอยตัวสูงขึ้นมาเหนือน้ำทั้งตัว

น่ารักน่าชังจริงๆ

วันสุดท้ายเราได้ไปลองตกปิรันย่า ใช้เบ็ดไม้ธรรมดาเอาเอ็นเกี่ยวเบ็ดไว้ ใช้เนื้อหมูสดเป็นเหยื่อ มีมากินนะคะ แต่เป็นลูกปิรันย่า แถมมากินเหยื่อแล้วหายไป ตกขึ้นมาเห็นตัวเล็กนิดเดียวแล้วหลุดไป ดีแล้วล่ะ เขาไม่เบียดเบียนเรา เราก็ไม่เบียดเบียนเขา

การเดินทางมาอะเมซอนครั้งนี้ ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า อย่าคาดหวัง อย่ากังวลจนเกินไป บางครั้งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิด

สิ่งที่เราอยากให้มันเป็นมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ต้องการ ในวันที่เราตามหาสัตว์มาทั้งวัน เราไม่เจอตัวอย่างที่เราอยากเจอ แต่เราอาจได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดเป็นรางวัล และจะเป็นอีกครั้งที่ฉันจะตราตรึงไว้ในหัวใจ

วันที่พระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำอะเมซอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image