45 ปี มูลนิธิเด็กโสสะฯ กับคำถาม ‘เงินบริจาคหายไปไหน’

เป็นอีกหนึ่งมูลนิธิที่ต้อง “ดิ้นรน” ระดมเงินบริจาคเพื่อไม่ให้มูลนิธิต้องปิดตัวลงท่ามกลางเศรษฐกิจและภัยแล้ง และมูลนิธิที่เกิดขึ้นใหม่อย่างมากมายในประเทศไทย

มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงจัดงาน “ครอบครัว คือ ชีวิต” และในโอกาสครบรอบ 45 ปี มูลนิธิได้ร่วมกับบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ร่วมสร้างบทโฆษณาประชาสัมพันธ์ ภายใต้ชื่อคอนเซ็ปต์ “เงินบริจาคหายไปไหน”

ธนา เตรัตนชัย
ธนา เตรัตนชัย

ธนา เตรัตนชัย เลขาธิการและกรรมการอำนวยการ กล่าวว่า 45 ปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นความสำเร็จของโสสะ อย่างมาก ความเปลี่ยนแปลงคือ เด็กๆ โตขึ้น เราได้ส่งมอบเด็กดีสู่สังคม 500 ชีวิตแล้ว ตอนนี้โสสะขยายไปถึง 5 หมู่บ้าน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ น้องใหม่คือ จ.ภูเก็ต ก่อตั้งขึ้นภายหลังการเกิดภัยสึนามิ บ้านแต่ละหลังจะมีคุณแม่เลี้ยงดูลูกๆ 10 กว่าคน เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้สึกอบอุ่นทั้งร่างกายจิตใจ จากครอบครัวทดแทนถาวร

สำหรับมูลนิธิเด็กโสสะฯเป็นองค์กรช่วยเหลือเด็กที่ขาดบิดา มารดา ไร้ญาติ ในรูปแบบครอบครัวถาวร ซึ่งนำรูปแบบการเลี้ยงดูเด็กมาจากองค์กรหมู่บ้านเด็ก เอสโอเอส สากล ประเทศออสเตรีย ปัจจุบันมีประเทศที่มีสมาชิก 134 ประเทศทั่วโลก

Advertisement

“ถ้าเรามีเงินทุนมากขึ้น เราก็สามารถขยายการดูแลเด็กได้มากขึ้น และทุกวันนี้ เด็กถูกทอดทิ้งและอยู่ในภาวะเสี่ยงเยอะมาก โสสะจะเลือกรับเด็กที่หมดหนทางแล้ว หมดที่พึ่งแล้วจริงๆ”

“โสสะฯ จะเลือกรับเด็กที่หมดหนทางแล้ว หมดที่พึ่งแล้วจริงๆ เราก็อยากช่วยเหลือให้เขาได้มีโอกาสที่สอง แล้วพลิกชีวิตเขากลับขึ้นมาใหม่ ใส่ใจตั้งแต่ภายในจิตใจ ร่างกาย สุขภาพอนามัย การศึกษา เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย มีคุณแม่ เราส่งเขาถึงฝั่งจริงๆ”

ทั้งนี้ ธนายอมรับว่า ทุกวันนี้ต้องพูดความจริงว่า “เรายังไม่สามารถหาเงินได้เพียงพอกับความต้องการของเด็กๆ

Advertisement

“เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เราหาเงินได้แค่ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเราต้องพึ่งทุนจากต่างชาติ แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่ดี ต่างประเทศก็จะไม่ส่งเงินให้แล้ว เราก็ทอดทิ้งเด็กไม่ได้ เพราะเด็กก็มีแม่มีครอบครัวแล้ว ตอนนี้เราพยายามขอแค่ให้มูลนิธิอยู่ได้ก่อน การขยายความช่วยเหลือค่อยเป็นขั้นตอนต่อไป”

“ปัจจุบันโลสะเลี้ยงเด็กมาแล้วกว่า 700 ชีวิต เราเลือกทำตอนนี้ไม่ได้ ตอนไหนก็ไม่ได้ เราต้องส่งต่อเดินต่อ เพราะยังมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลืออีกมากมาย” ธนากล่าว

2615

ด้าน คุณแม่เล็ก-วรรณา สุนทรนุลักษณ์ อายุ 48 ปี เป็นคุณแม่ที่เลี้ยงดูเด็กๆ มา 8 ปีแล้ว เล่าว่า ค่าใช้จ่ายที่ได้รับการสนับสนุนมา เรานำมาใช้จ่ายรวมทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารเช้า สุขภาพเด็ก ทุนการศึกษา เราประหยัด แต่เราก็ต้องคิดถึงคุณภาพด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเลือกให้เขาอาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่สิ่งที่คุณแม่ทุกคนที่นี่เลือกให้ลูกๆ นั้นดีที่สุดจากความรู้สึกของแม่ สิ่งที่ภูมิใจคือที่บ้านมีลูกจบปริญญาตรี 2 คนแล้ว แล้วก็มีงานทำ มันมีความสุขที่เราเลี้ยงเขาเติบโตดูแลตัวเองได้

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิเด็กโสสะฯ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ สนใจเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่ www.sosthailand.org หรือเฟซบุ๊ก SOSThailand หรือ 02-380-1177

2612
 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image