ช็อก…ผลสำรวจในสหรัฐพบ แม้แต่เด็ก3ขวบยังคิด ‘ฆ่าตัวตาย’

Cemetery

แม้เด็กจะเป็นวัยที่สดใส ร่าเริง แต่เด็กเล็กก็มีอารมณ์เสียใจเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาและ “น่าตกใจ” ก็คือ ผลสำรวจของทีมนักวิชาการจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา นำโดยจิตแพทย์ โจน ลูบี้ ที่พบว่า แม้แต่เด็กอายุ 3 หรือ 4 ขวบ ก็มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย

“นี่คือเรื่องจริง” หมอลูบี้ยืนยันว่า เธอได้ยินเด็กวัยนี้พูดถึงเรื่องฆ่าตัวตายมากับหู แต่ก็ว่า “ยังไม่ชัดเจนว่ามันหมายถึงอะไร แต่เราก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เราไม่ควรเมินเฉย”

หมอลูบี้เล่าว่า เธอและทีมงานพบข้อมูลน่าตกใจนี้ จากการทำโครงการพัฒนาอารมณ์ในวัยเบื้องต้นเมื่อปี 2556 ในเด็กเล็กวัย 3-7 ขวบ ที่มีภาวะซึมเศร้าเพื่อให้การบำบัดรักษาฟรี โดยมีเด็กมาลงทะเบียนเข้ารับการบำบัด 133 คน ผ่านการบำบัดโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และเด็กเป็นหลัก ไม่มีการใช้ยา แล้วทีมงานก็พบข้อมูลไม่คาดฝันหลังจากทำโครงการผ่านไป 18 เดือน เมื่อมีเด็กเกือบ 1 ใน 4 ซึ่งมาจากหลายพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาพูดถึงการฆ่าตัวตาย

ทั้งนี้ หมอลูบี้ยกตัวอย่างเด็กชายวัย 6 ขวบ จากเมืองเซนต์ หลุยส์ ที่มีปัญหาถูกเพื่อนในชั้นเรียนรังแก กระทั่งเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วระหว่างไปเข้าค่าย เด็กชายรายนี้ก็มีอาการเกรี้ยวกราดรุนแรง แต่พ่อแม่ไม่เชื่อว่าอารมณ์เกรี้ยวกราดของลูกชายเป็นการแสดงออกของความซึมเศร้าและความไม่ภาคภูมิใจในตัวเองที่ฝังอยู่ในใจ กระทั่งลูกชายเริ่มพูดถึงเรื่องน่าเป็นห่วงหลายอย่าง พ่อแม่จึงพามารับการบำบัดในโครงการ

Advertisement

“เมื่อเขากลับจากค่ายเรียนมาบ้าน เราก็เริ่มได้ยินเขาพูดว่า เขาน่าเกลียด แถมยังโง่ และมีหลายครั้งที่เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง เขาก็จะหลุดคำพูดอย่างเช่น ผมไม่อยากเกิดมาเลย ผมเกลียดชีวิตผม ผมอยากตาย จนเราไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไง” แม่ของเด็กชายเล่าถึงเหตุการณ์ในวันวาน แต่ปัจจุบัน เด็กชายคนนี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องอยากฆ่าตัวตายอีกแล้ว หลังได้รับการบำบัด

แม่เด็กชายเล่าว่า ในขั้นตอนการบำบัด ทำให้เธอเรียนรู้ที่จะไม่ไปวิพากษ์ วิจารณ์ หรือปฏิเสธปัญหา แต่หันมาให้ความสำคัญกับความรู้สึกเจ็บปวดของลูกชายมากกว่า “ในช่วงเวลาที่กำลังเศร้าเสียใจ ฉันคิดว่าเขาคงรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเขา ฉันกับสามีก็บอกเขาว่า เรารู้ว่าเขากำลังรู้สึกหงุดหงิด คับข้องใจ และรู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมกันนั้นเราก็บอกให้เขารู้ว่า ไม่ผิดที่เขาจะแสดงความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นออกมา และพวกเราก็พร้อมจะเข้าใจและอยู่ข้างๆ เขา”

อย่างไรก็ตาม หมอลูบี้กล่าวว่า ปัญหานี้ยังไม่ใช่เรื่องวิกฤต แต่เธอและทีมงานอยากให้สังคมตระหนักว่า ในเด็กเล็กก็มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย และควรต้องมีหน่วยงานที่เล็งเห็นความสำคัญและป้องกันปัญหานี้ ซึ่งยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีก

Advertisement

อนึ่ง หมอลูบี้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า การที่เด็กเล็กมีโอกาสเข้าถึงสื่อที่นำเสนอความรุนแรงและความตาย ถึงแม้เด็กๆ จะไม่เข้าใจความหมายทั้งหมด แต่การที่พวกเด็กๆ ซึมซับทั้งรูปภาพ บทสนทนาเกี่ยวกับความตาย อาจทำให้เกิดความคิดว่าพวกเขามีอำนาจที่จะจบชีวิตตัวเองได้

เด็กหญิง
ขอบคุณภาพจาก nobullying.com , efdreams.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image