ปิดม่านลงแล้วสำหรับเวทีประกวดสาววัยใส “มิสทีนไทยแลนด์ 2019 บาย เฮลโล” ที่ได้รับความนิยมมาตลอดระยะเวลา 18 ปี และผลิตนักแสดงเข้าสู่วงการบันเทิง กลายเป็นดาวรุ่งมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชียร์-ทิฆัมพร, เกรซ-กาญจน์เกล้า, ฮาน่า ลีวิส และ มุกดา นรินทร์รักษ์
ซึ่งในปีนี้ได้ “พลิกโฉม” การประกวดแตกต่างไปจากเดิม ตั้งแต่โชว์การแสดงที่เน้นให้มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น กิจกรรมระหว่างการเก็บตัวที่เน้นดึงศักยภาพ เอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของสาววัยทีน อาทิ คอร์สอบรมบุคลิกภาพ การแสดงออก แอ๊กติ้ง การพูด การเดินแบบ ตลอดจนเวทีการประกวดที่ปรับให้เป็นรูปแบบ “เธียเตอร์” มองเห็นในมุมกว้าง ชัดเจน และยิ่งใหญ่
กระทั่งในค่ำคืนสำคัญ เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วบีซีซี ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว หลังจากพิธีกรประกาศชื่อ “ปิ่น-ชรินพร เงินเจริญ” สาวชาวนนทบุรี อายุ 15 ปี เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี เป็นดาวดวงใหม่ที่เปล่งประกายเจิดจรัส
ด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ ความสดใสและความมั่นใจที่โดดเด่น เอาชนะใจคณะกรรมการคว้าตำแหน่ง “มิสทีนไทยแลนด์ 2019” ไปครองได้สำเร็จ
และมิสทีนไทยแลนด์คนล่าสุด ยังมีดีกรีไม่ธรรมดา เข้าร่วมเดินสายประกวดตั้งแต่เด็ก ทั้งยังมีทักษะความสามารถพิเศษคือ การรำไทย
“เวทีนี้นับเป็นเวทีใหญ่เวทีแรกของปิ่น แต่เวทีทั่วไปที่ประกวดแล้วได้รางวัลเวทีแรกคือ หนูน้อยร้านหมูกระทะ ตอนนั้นอายุประมาณ 4-5 ขวบ หลังจากนั้นก็คว้ารางวัลประกวดหนูน้อยนพมาศบางไทร ประกวดนางนพมาศประจำโรงเรียน และเป็นตัวแทนของกระทรวงวัฒนธรรมไปเผยเเพร่นาฏศิลป์ไทยที่ประเทศอินเดีย เดนมาร์ก และจีน” ชรินพรเล่าอย่างอารมณ์ดี
นอกจากสวยสดใสแล้ว เธอยังเรียนดีด้วยเกรดเฉลี่ยในภาคการศึกษาที่ผ่านมาสูงถึง 3.8 กระนั้นปิ่นยังยืนยันว่า “ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเธอก็ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
อย่างเรื่องการเรียนเธอจะตั้งใจเรียนที่ครูสอนอยู่ตลอด และที่เลือกเรียนศิลป์จีน เพราะว่าชื่นชอบการดูซีรีส์จีน ทั้งยังมองว่าการรู้ภาษาจะช่วยเปิดโอกาสในชีวิตให้กว้างขึ้น เช่นเดียวกับเวทีมิสทีนไทยแลนด์ที่เป็นสะพานให้เธอเดินไปสู่ความฝันในการเข้าสู่วงการบันเทิง ด้วยรู้ตัวเองว่าชอบการแสดง มีความกล้าแสดงออก และรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้ทำงานหน้ากล้อง
ทั้งนี้ เธอยังมีความฝันอยากจะเป็น “นักประชาสัมพันธ์” เพราะเป็นอาชีพที่ได้ใช้ภาษาที่เธอรักอีกด้วย
“ประสบการณ์จากการประกวดก่อนหน้านี้ก็มีส่วนช่วยให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้ดี ทั้งออกกำลังกาย กินน้ำเยอะๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ” ปิ่นกล่าว และว่า
“หลายคนอาจจะมองว่ามิสทีนไทยแลนด์เป็นเวทีเด็กๆ ใสๆ แต่จริงๆ คือทุกคนมีความตั้งใจมากๆ เหนื่อยมาก แต่ไม่เคยท้อเลย สู้กันทุกคน นอกจากจะได้ทำตามความฝันแล้วยังได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้พบกับมิตรภาพดีๆ ด้วย คุ้มกับรางวัลที่ได้”
ชรินพรทิ้งท้ายถึงประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากการประกวดครั้งนี้ว่า ได้พัฒนาเรื่องบุคลิกภาพมากที่สุด ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก ทั้งนี้ มองอนาคตตัวเองในวงการบันเทิงไว้ว่าอยากเป็นนักแสดงและนางแบบ ส่วนเส้นทางสู่การเป็นนางงามจะไปต่อไหม เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ต้องรอดูศักยภาพของตัวเอง เพราะยังต้องพัฒนาในอีกหลายด้านเพื่อให้พร้อมสู่เวทีใหญ่”
ออร่าจับ