จากกรณีดราม่าสนั่นวงการนางงาม เมื่อกองประกวดมิสแกรนด์สระแก้ว ประกาศปลด “เบล – น.ส.เมทิกา ลือพักตรา” มิสแกรนด์สระแก้ว ออกจากตำแหน่ง จนเป็นกระแสฮือฮา เมื่อมิสแกรนด์สระแก้วออกมาโพสต์แฉถึงเรื่องเงินรางวัลที่ยังไม่ถึงมือ รวมทั้งความชอบธรรมของพีดีในการปลดนางงาม ผู้สื่อข่าวมติชนจึงได้ติดต่อไปยังกองประกวดมิสแกรนด์สระแก้ว ถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น
นายสราวุธ หวังดุลยกิตติ ผู้อำนวยการกองประกวด (พีดี) มิสแกรนด์สระแก้ว 2559 ให้สัมภาษณ์กรณีปลดมิสแกรนด์สระแก้ว 2559 “เบล – น.ส.เมทิกา ลือพักตรา” ว่า เหตุผลจริงๆ แล้วเป็นไปตามที่ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ว่า ตัวนางงามไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย และไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบกิจกรรมและเงื่อนไขที่กองประกวดมิสแกรนด์สระแก้ว 2559 กำหนด บวกกับพฤติกรรมของน.ส.เมทิกาไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องปลดออก แต่ตัวนางงามยังมีสัญญาติดอยู่กับบริษัทอีก 1 ปี ในการปฏิบัติหน้าที่และภารกิจในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดสระแก้ว
ส่วนประเด็นที่น.ส.เมทิกา กล่าวว่า สัญญาของการเป็นพีดีกองประกวดจบสิ้นลงนับตั้งแต่ประกาศผลประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2016 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนแล้วนั้น
นายสราวุธกล่าวว่า สัญญาที่ทางพีดีเซ็นกับกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์จบสิ้นลงนับตั้งแต่ประกวดจริง แต่สัญญาที่มีกับน.ส.เมทิกายังคงอยู่ ซึ่งความจริงแล้วตั้งใจจะปลดตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่เกิดเรื่องแล้ว แต่ติดสัญญากับทางกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ที่จะต้องให้นางงามเดินทางมาเข้ากองประกวดในวันที่ 10 มิถุนายน การปลดนางงามในตอนนั้นถือเป็นเรื่องกระชั้นชิดจึงไม่สามารถทำได้ จึงต้องปล่อยให้นางสาวเมทิกาเข้าไปประกวดเป็นตัวแทนจังหวัดต่อไป
“ขอย้ำว่าสิ่งที่น้องพูดไม่เป็นความจริง แต่เราไม่ขอตอบโต้ไปกับกระแสสังคมใดๆ ขอให้ทุกเรื่องอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย เพราะทางเรามีหลักฐานการเงินชัดเจนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุและหลังการประกวดน้องก็ไม่เข้ามาคุย หรือเข้ามาแก้ปัญหาใด ทางบริษัทคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนมาหลายครั้งจนออกแถลงการณ์ออกมา ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของบริษัท กับเด็กเท่านั้นจริงๆ น้องเองก่อนจะได้รับตำแหน่งก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทของเรา ซึ่งเป็นสัญญาเดียวกันกับมิสแกรนด์ จ.สมุทรสาคร จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งนางงามทั้งสามจังหวัดก็ไม่ได้มีปัญหาใด” นายสราวุธกล่าว
ในส่วนของเรื่องสัญญาต่างๆ หลังจากปลดนางสาวเมทิกาออกจากตำแหน่งนั้น นายสราวุธกล่าวว่า เนื่องจากสัญญาของนางงามทุกคนที่ได้รับตำแหน่งทั้ง 4 จังหวัดนั้นมีอายุ 1 ปี อย่างน.ส.เมทิกาเองได้รับตำแหน่งวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 สัญญาจะอยู่กับบริษัทจนอยู่จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 แม้ว่า ต่อจากนี้จะไม่มีการเรียกมารับงานใดๆ แล้วก็ตาม
“ขณะที่มงกุฎและสายสะพายนั้นบริษัทเป็นผู้ดูแลให้อยู่แล้วทั้ง 4 จังหวัด เมื่อนางงามออกงานจึงนำออกมาให้ กระทั่งดำรงตำแหน่งครบ 1 ปีก็จะมอบให้นางงามเลย จึงไม่ถือเป็นการยึดมงกุฎและสายสะพายใดๆ ส่วนจากนี้คงไม่มีพูดคุยอะไรกับตัวนางงามอีก เนื่องจากที่ผ่านมาให้โอกาสไปมากแล้ว ทั้งโทรศัพท์ไปหา ไลน์ไปหา แต่ตัวของนางสาวเมทิกาและคุณแม่ไม่ตอบรับอะไรกลับมาเลย ทางเราก็ให้โอกาสถึงวันที่ 27 มิถุนายนด้วยซ้ำ เรียกว่าเลยจุดที่จะมาปรับความเข้าใจแล้ว คงไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีก”
พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็มีทำให้ “เครียดบ้าง” แต่ยังไม่มีผลกระทบอะไรต่อบริษัทมากมาย ทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนเมื่อเปิดขายลิขสิทธิ์มิสแกรนด์ไทยแลนด์ปีต่อไปนั้นจะซื้อลิขสิทธิ์ต่อไปหรือไม่ ก็คงต้องคุยกันอีกระยะ ให้เป็นไปตามขั้นตอนต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยกองประกวดเปิดเผยสั้นๆ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่เกี่ยวข้องหรือมีผลใดๆต่อกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ แม้ว่าตามสัญญาแล้วพีดีจังหวัดต่างๆ จะหมดสัญญาลง แต่นางงามแต่ละจังหวัดก็ยังมีสัญญากับพีดีจังหวัดนั้นๆ อยู่อีก 1 ปี ทั้งนี้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ กองประกวดจะเปิดรับพีดีใหม่สำหรับคัดเลือกนางงามในปี 2560
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ติดต่อไปทาง น.ส.เมทิกา แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก มิสแกรนด์สระแก้ว
