หวาดผวากันไปทั่วทุกหัวระแหง กับ “ไวรัสโควิด-19” ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็น “โรคติดต่ออันตราย”
โดยประชาชนทั่วไป กระทรวงสาธารณสุขแนะนำวิธีป้องกันให้ กินร้อนช้อนกลาง งดกินอาหารดิบ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่คนพลุกพล่านและประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของในสถานที่สาธารณะแล้วนำมาสัมผัสปากหรือตา ล้างมือบ่อยๆ หรือพกเจลล้างมือติดตัว และหากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันยังคงมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแล้ว 1 ราย
แล้วเหล่าเซเลบริตี้ที่มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ ทั้งยังสวมบทบาทนักธุรกิจต้องดูแลลูกน้องและเดินทางไปคุยงานในหลายภาคส่วน จะมีวิธีรับมือและดูแลป้องกันให้ห่างจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไร?
เริ่มที่ โบว์-ณชา จึงกานต์กุล เซเลบริตี้สาวเจ้าของธุรกิจขนมเพื่อสุขภาพ เผยว่า หลังจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยอมรับว่าส่งผลให้ธุรกิจชะงัก แต่ก็ได้ใช้เวลานี้ในการเอ็มเพาเวอร์พนักงาน ทั้งฝึกอบรมบุคลากรภายใน และปรับปรุงระบบต่างๆ ที่ในช่วงสถานการณ์ปกติไม่สามารถทำได้
“รู้สึกโชคดีว่า ก่อนโควิดระบาด โบว์ได้เดินทางคุยกับพาร์ตเนอร์ต่างประเทศมาหมดแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเกาหลีใต้และตะวันออกกลาง”
แม้ทุกอย่างจะลงตัว แต่เธอก็เข้มงวดกับการป้องกันการแพร่ระบาดในบริษัทของเธอสูงสุด
“ที่บริษัทเข้มงวดมาก ทุกอย่างที่ควรต้องมีก็ต้องมี เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สบู่ และการทำความสะอาดในออฟฟิศอย่างจริงจัง โบว์ออกกฎเลยว่า ใครมาออฟฟิศไม่ใส่หน้ากากอนามัยจะได้รับใบเตือน เพราะการมีวินัยกับตัวเองสำคัญที่สุดแล้วในการผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ หลายคนบ่นเวลาออกไปข้างนอกทำไมโรคไม่หายระบาดสักที ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่าแล้วเราทำดีหรือยังในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในสังคม” ณชากล่าว
ด้าน ทิปปี้-สุพรทิพย์ ช่วงรังษี เล่าว่า ตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ทริปต่างประเทศที่มีก็ยกเลิกหมด เพราะไม่รู้ว่าถ้าไปถึงแล้ว สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ฉะนั้น “อยู่บ้านสบายใจกว่า” ขณะเดียวกัน เธอมองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์ที่เลวร้าย จะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตเสมอ แต่ก่อนเราอาจจะละเลยไม่ค่อยสนใจ ตอนนี้ก็ออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง จะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้ ความเสี่ยงก็ลดลง นอกจากนี้ก็ทำให้เราอยากที่จะมีชีวิตที่แข็งแรง
“การดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเกิดเราติดเชื้อขึ้นมา เราจะเป็นเหตุให้นำไปเผยแพร่สู่คนอื่นๆ ทุกคนต้องเห็นแก่ส่วนรวม ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ได้ข้อคิดหลายอย่าง โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่อาจจะทราบว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร เราก็ทำอะไรที่พอเพียงมากขึ้น ทั้งยังอยากเป็นคนดีขึ้นด้วย” สุพรทิพย์กล่าว
ขณะที่เซเลบสาวร่างเล็ก มิ้งค์-ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ กล่าวว่า ตอนที่มีข่าวการแพร่ระบาดโควิด-19 ช่วงแรกๆ ยังไม่ค่อยรู้สึกกังวล แต่คุณแม่กับน้องสาวกังวลมาก เอาหน้ากากอนามัยมาให้ใส่ หลังจากนั้นก็ใส่มาโดยตลอด ประกอบกับที่เป็นคนรักความสะอาดมากๆ ทำให้ล้างมือบ่อยมาก จนบางทีก็ทำให้มือแห้ง ฉะนั้น หลังจากที่ล้างมือก็ต้องทาโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย
“ในกระเป๋าจะพกทิชชูเปียก เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยติดตัวเสมอ แล้วก็ทานวิตามินซีเสริม ทั้งยังให้ความสำคัญกับการกินมากขึ้น งดทานของดิบไปก่อน และเลือกทานอาหารร้อนๆ เช่น เมนูจำพวกต้ม แกง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เป็นอีกทางหนึ่งในการป้องกันตัวเอง”
ในด้านการทำงาน เธอก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย โดยต้องเลื่อนงานอีเวนต์ที่ดีลงานกับลูกค้าจากจีนไปก่อน ขณะที่ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ ก็เข้มงวดมาก เพราะลูกบ้านส่วนมากเป็นชาวต่างชาติก็ต้องเพิ่มมาตรการการทำความสะอาดที่เข้มขึ้นกว่าเดิม วางเจลล้างมือให้ทั้งลูกบ้านและพนักงานหลายๆ จุด อย่างพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน เช่น ห้องฟิตเนสก็กำชับแม่บ้านว่าต้องทำความสะอาดให้เข้มงวดมากขึ้น
ส่วน จุ๋ย-จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ก็เป็นอีกหนึ่งเซเลบสาวที่ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากพิษโควิด เผยว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธุรกิจในประเทศไทยพึ่งพาประเทศจีนค่อนข้างเยอะ ร้านอาหารที่เปิดในห้างยอดก็ค่อนข้างตกเหมือนกัน รู้สึกได้ว่าคนไม่ค่อยไปห้าง อยากอยู่บ้านมากกว่า เพราะเอาจริงๆ ถ้าออกไปข้างนอกหน้ากากอนามัยก็หาซื้อยาก แต่ในขณะเดียวกันยอดสั่งอาหารดิลิเวอรีก็พุ่งขึ้น
ส่วนการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น จุ๋ยเล่าว่า ด้วยเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วจึงใส่หน้ากากอนามัยตลอดตั้งแต่ช่วงที่มีสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 กระทั่่งมีข่าวโควิด-19 ทำให้มีหน้ากากอนามัยสำรองไว้พอใช้งาน อย่างไรก็ตาม ก็จะพกเจลล้างมือติดตัวไว้ด้วย และพยายามล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะเพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีกี่คนสัมผัสมาแล้วบ้าง
นอกจากนี้ ยังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำคืออาบน้ำ เพื่อเป็นการล้างตัวให้สะอาด จะได้ไม่นำเชื้อโรคมาเผยแพร่ให้กับคนในบ้าน ขณะเดียวกันก็ต้องเช็ดทุกอย่างก่อนจับ ทำความสะอาดและถูบ้านบ่อยๆ
“ที่สำคัญ จุ๋ยบอกให้ทุกคนอัพเดตสถานการณ์ตลอด เพื่อเซฟตัวเอง และอย่าประมาท” จรสพรรณกล่าว
ปิดท้ายด้วย แพร-แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ เซเลบสาวมากความสามารถที่งานนี้ “เจ็บหนัก” ต้องเลื่อนอีเวนต์ใหญ่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งที่มีการลงทุนไปหมดแล้ว ทั้งสั่งผลิตรองเท้าลิมิเต็ด คุยกับดีไซเนอร์และสถานที่จัดงาน ซึ่งจะเปลี่ยนมาจัดทางออนไลน์ไม่ได้ เพราะมีทั้งบูธ และสื่อต่างๆ
แต่งานนี้เจ้าตัวก็ “ตัดสินใจเลื่อน” เพราะ “ทิ้งเงินไปไม่เป็นไร หน้าที่ทางสังคมต้องมาก่อน” แพรพรรณกล่าว และเล่าถึงวิธีรับมือโควิด-19 ในชีวิตประจำวันว่า มักจะเปิดเครื่องฟอกอากาศในทุกห้องของบ้าน สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกไปข้างนอก พร้อมพกเจลล้างมือ และสเปรย์ฆ่าเชื้อติดตัวไว้
ไม่เพียงแต่ป้องกันตัวเองเท่านั้น แพรพรรณยังกำชับให้คนรอบข้างช่วยกันป้องกันด้วย อย่างในกรณีของสามีและน้องชายที่เพิ่งกลับจากการคุยงานที่ประเทศญี่ปุุ่นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก็ให้ทั้งสองคนกักตัวภายในบ้านโดยแบ่งโซนในบ้านชัดเจน โซนที่พวกเขาอยู่คนในบ้านก็จะไม่เข้าไป ถ้าจะออกมาจากโซนนั้นก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย จะจับอะไรต้องล้างมือ และคนในบ้านก็ต้องล้างมือด้วย อย่างน้องชายก็จะไม่แตะลูกน้อยเลย แยกกันชัดเจน ซึ่งจริงๆ ที่หน่วยงานแนะนำให้กักตัว 14 วันภายในบ้านแต่บ้านเราตั้งใจว่าเพื่อความมั่นใจกักตัวไปเลย 1 เดือน
รับมืออย่างไม่ประมาท
