| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 14 |
|---|---|
| คอลัมน์ World Update | |
| เผยแพร่ |
เมื่อดัชเชสเคท ถูกมองเป็น ‘กาว’ เชื่อมรอยร้าวในราชวงศ์อังกฤษ
ที่ผ่านมา ราชวงศ์วินด์เซอร์แห่งอังกฤษ ผ่านเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่หลายครั้ง ทั้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ข่าวการให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ของเจ้าชายแฮร์รี และ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายา ด้วยเนื้อหาที่สั่นสะเทือนราชวงศ์อังกฤษ แล้วยังข่าวบาดหมางระหว่างเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี ซึ่งเคยเป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน
ท่ามกลางเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ “เคที นิโคลล์ “ ผู้สื่อข่าวสายวังของนิตยสารวานิตี แฟร์ มองว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ หรือ เคท มิดเดิลตัน พระชายาเจ้าชายวิลเลียม คือผู้กำลังทำหน้าที่เหมือน “กาว”ที่เชื่อมรอยร้าวต่างๆในราชวงศ์อังกฤษ
เคที พูดถึงเรื่องนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการซิกซ์ตี้ มินิทส์ ออสเตรเลีย ( 60 Minutes Australia) ว่า ดัชเชสเคทกำลังพยายาม เติมเต็มจุดที่เจ้าชายฟิลิป เคยทำเมื่อครั้งมีพระชนม์อยู่
“ฉันคิดว่าเธอเป็นเหมือนกาว แบบเดียวกับที่ดยุคแห่งเอดินบะระทรงเคยเป็นมาตลอด ในฐานะผู้ที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆในครอบครัว ท่านทรงเป็นหัวหน้าครอบครัว และฉันมองเห็นเคทกำลังก้าวเข้ามาในบทบาทนี้ พยายามช่วยประสานสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน”
“จากที่ไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญ ในช่วงแรกที่ก้าวเข้ามาร่วมราชวงศ์ ในฐานะพระชายาเจ้าชายวิลเลียม แต่ตอนนี้ หลังจากทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์มา 10 ปี พวกเรากำลังได้ยินเสียงจากเธอมากขึ้น ได้เห็นบทบาทเธอมากขึ้น ราชวงศ์ก็ตระหนักว่า พวกเขามีผู้ที่กำลังรับบทบาทสำคัญอยู่ที่นี่แล้ว และพวกเขากำลังนำเธอมามาเบื้องหน้า เราจึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลง”
เคที มองว่าส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง มาจากผลกระทบจากการะบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
“การล็อคดาวน์ เป็นประสบการณ์ที่พวกเราได้เจอ แต่ในหลายๆทางมันคือ การปลดล็อคให้แก่เคท ฉันคิดว่า มันทำให้ผู้คนได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของดัชเชสเคทมากขึ้นกว่าที่เราเคยเห็นมาก่อน เราสามารถเข้าถึงสมาชิกราชวงศ์ในแบบที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน และฉันคิดว่า มีหลายอย่างที่ทำให้ วิลเลียม และเคทต่างตระหนักว่า พวกเขาไม่สามารถถูกมองอยู่บนหอคอยงาช้างได้อีกต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องเป็นผู้ที่เข้าถึงได้”
เคที ยังเชื่อด้วยว่า อนาคตของราชวงศ์ ขึ้นอยู่กับการเข้าถึงได้ และการที่ผู้คนสามารถเชื่อมโยงถึง “อนาคตของราชวงศ์ ความยั่งยืนของราชวงศ์ อยู่ที่วิลเลียม และ เคท”
