ดัชเชสเมแกน เสนอไอจีควรมี “ปุ่มไม่ชอบ” เพื่อหยุดคอมเมนท์เชิงลบ
คอลัมน์ World Update
ขณะที่ทุกวันนี้ ผู้คนต่างต้องใช้ชีวิตอยู่ใน “โลกแห่งความจริง” และ “โลกเสมือนจริง”ควบคู่กันไป และหลายครั้งที่ความเป็นไปในโลกเสมือนจริง โลกออนไลน์ ทำให้หลายคนต้อง “เจ็บจริง” จากคอมเมนท์ หรือ ความเห็นต่างๆของคนในโลกออนไลน์
ในฐานะบุคคลสาธารณะคนหนึ่ง ที่เคยเจอกับข่าว และคอมเมนท์ต่างๆมามากมาย ถึงขนาดเคย “บอกลา”โลกโซเชียลไปแล้วกว่า 1 ปี ล่าสุด ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายาเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ ได้เสนอความเห็นว่าอินสตาแกรม หรือ ไอจี ควรจะเพิ่ม “dislike button” หรือ “ปุ่มไม่ชอบ” เพื่อเป็นเครื่องมือหยุดผู้คนจากการเขียนความคิดเห็นเชิงลบ
“ฉันคิดว่ามีวิธีที่แข็งแกร่งหลายวิธีในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลต่างๆ และในสื่อทั่วไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้คนจะมีความกล้าพอจะลงมือทำหรือไม่ ” ดัชเชสเมแกน ให้ความเห็นระหว่างร่วมประชุม DealBook ของหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน ก่อนจะยกตัวอย่างถึงอินสตาแกรมว่า ” คุณลองดูที่อินสตาแกรมเป็นตัวอย่าง ในอินสตาแกรม มีปุ่มชอบ และที่ให้เขียนความเห็น ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมี หากคุณไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นเสียดสีเหล่านั้น”
ทั้งนี้ดัชเชสเมแกน กล่าวถึงข้อดีในการมีปุ่มไม่ชอบให้เลือกกด ระหว่างสนทนากับ แอนดรูว์ รอส ซอร์คิน บรรณาธิการใหญ่ของ DealBook ว่า ” มันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพราะคุณสามารถจะกดชอบ หรือ ไม่ชอบก็ได้ แต่ตอนนี้คุณมีแค่ชอบหรือต้องพูดอะไรในเชิงลบ แต่หากมีการเพิ่มปุ่มไม่ชอบเข้าไปในวงจรนี้ ฉันคิดว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อผู้หญิงทั่วกระดาน ”
ที่ผ่านมา ดัชเชสเมแกน และ เจ้าชายแฮร์รี พระสวามี เคยทำลายสถิติในกินเนสส์ บุ๊ก เมื่อทั้งสองพระองค์เปิดไอจีทางการครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 แล้วมีผู้ติดตามไอจีถึง 1,000,000 รายภายในเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง แต่ต่อมาทั้งสองพระองค์ ทรงเลิกใช้ไอจีดังกล่าว หลังลดบทบาทจากการปฎิบัติพระราชภารกิจในฐานะสมาชิกราชวงศ์ระดับสูงเมื่อเดือนมีนาคม 2563 และเดินทางไปปักหลักใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา
ดัชเชสเมแกน เคยพูดในงานประชุม Fortune’s virtual summit เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2563 ถึงเหตุผลที่ยังไม่กลับคืนสู่โลกโซเชี่ยลว่า เพื่อเป็น “การถนอมรักษาตัวเอง” โดยเปรียบเทียบการเสพสื่อโซเชี่ยลเหมือนการติดยา
“ฉันรู้สึกเป็นห่วงมาก สำหรับคนที่หมกมุ่นกับสื่อโซเชี่ยล มันกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมชีวิตประจำวันของเราที่มีคนมากมายเสพติดสื่อ มีไม่กี่อย่างในโลกนี้ ที่เราใช้เรียกคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันว่า ยูสเซอร์ ( user คือ ผู้ใช้) คนที่ติดยาก็ถูกเรียกว่า ยูสเซอร์ และคนที่อยู่บนโซเชี่ยล มีเดีย ก็ถูกเรียกว่า ยูสเซอร์ เช่นกัน”