ไขข้อข้องใจชาย-หญิง ใครเฮิร์ตกว่ากันเวลา ‘อกหัก’
ใครๆ ก็อยากให้ “ความรัก” ของตัวเองสุขสมหวัง ต่างทุ่มเท คาดหวัง แต่ไม่เคยเตรียมใจหากวันนั้นมาถึง ในวันที่ต้อง “อกหัก” จึงเป็นความเสียใจหนักมาก และอดสงสัยไม่ได้ว่า เวลาอกหักระหว่างผู้ชายและผู้หญิงใครเฮิร์ตกว่ากัน? ยิ่งกับความรักความผูกพันที่มีมายาวนานต้องสิ้นสุดลง เราจะมีวิธีผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปได้อย่างไร
เรื่องนี้มีคำตอบ
เริ่มที่ ข้อสงสัยเวลาอกหักระหว่างผู้ชายและผู้หญิงใครเฮิร์ตกว่ากัน?
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เล่าว่า โดยธรรมชาติของเพศ เพศหญิงมีความเปราะบางและอ่อนไหวมากกว่า จึงอาจเจ็บปวดกับความรักได้ง่ายกว่าผู้ชาย แต่ทั้งนี้ ก็อาจไม่ยุติธรรมหากจะมาวัดว่าใครเฮิร์ตมากกว่ากัน เพราะเป็นเรื่องความรู้สึกทั้ง 2 คน ที่ต่างมีความรัก ความคาดหวัง และโอกาสที่จะผิดหวังจากความรักเท่าๆ กัน
อกหักมีหลายระดับ หลายคนอกหักตอนบอกรัก แต่อีกหลายคนอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้บอกรักด้วยซ้ำ ซึ่งกรณีแบบนี้ พญ.อัมพรแนะนำให้ลองปรับความคิด ชีวิตจะไม่จมกับความทุกข์นาน
“หลายคนอาจมองว่าเมื่อเรารักใครสักคน และไม่ได้รักความรักตอบกลับ แปลว่าล้มเหลว ผิดหวัง แต่อยากให้ลองปรับความคิดว่า นี่คือการส่งมอบความรู้สึกที่ดีให้ แยกแยะให้ได้ว่าการที่เรารักใคร แล้วมีความรู้สึกที่ดีให้ เขามีความหมาย เรารู้สึกดีที่ได้รัก ต้องแปลความให้ถูกต้องว่าหากเขาไม่ได้รู้สึกย้อนกลับมา นั่นหมายความว่าเราไม่ใช่คนที่ตรงความคาดหวังของเขา
“คือคนเราจะรักใคร จะต้องการคนที่ตรงตามสเปก หรือสิ่งที่เขาอยากให้มี แต่ขณะเดียวกันการที่เราไม่ตรงสเปกเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีคุณค่า เพราะเรามีคุณค่า มีความหมาย มีความสำคัญกับคนรอบข้าง และโดยเฉพาะกับตัวเอง ฉะนั้นคนที่รักตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเองมากพอ เมื่อไม่ได้รับความรักตอบกลับ แน่นอนช่วงหนึ่งอาจมีความทุกข์ แต่ความผิดหวังนั้นจะไม่รุนแรงและไม่นาน เพราะเรายอมรับสถานการณ์ ปรับตัวปรับใจได้ และเรียนรู้เหตุผลว่าเพราะอะไรไปรักเขาแล้วไม่ตอบกลับ เพื่อจะปรับจูนเรื่องของคนสองคนได้ในครั้งต่อไป”
ต่อมา กรณีความรักความผูกพันธ์ที่มีมายาวนานต้องสิ้นสุดลง
พญ.อัมพร แนะนำว่า ความรักก็คล้ายกับอารมณ์อีกหลายชนิด อาจไม่มีความคงที่ คงเส้น คงวาตลอดไป แม้ความรักจะเอื้อและง่ายต่อการคงต่อ แต่ก็แกว่งตัวได้ และแม้ความรักจะมีมายาวนาน แต่หากทั้งคู่ไม่พยายามปรับตัวให้เข้าใจลึกซึ้งกันมากขึ้นเรื่อยๆ ความรักก็อาจผุพัง เพราะความรักยาวๆ ต้องหมั่นเติมความเข้าใจ เพิ่มความผูกพัน มีช่วงเวลาร่วมทุกข์ ร่วมสุข เห็นใจ เข้าใจ และขอบคุณต่อกันเรื่อยๆ
“หลายคนไปติดใจว่าความรัก ต้องมีความหวือหวา หากติดใจอยู่แค่นั้น ก็ง่ายที่จะสูญเสียความรักนั้นไป เพราะธรรมชาติของอารมณ์ ความหวือหวาอยู่แค่ช่วงหนึ่ง ไม่มีคู่ไหนอยู่กับความหวือหวาไปได้ตลอด”
อกหักว่าเศร้าแล้ว ยิ่งกับคนเป็นโรคซึมเศร้าเมื่ออกหัก ยิ่งคูณความเศร้าไปอีก กรณีนี้ถึงคิวคนรอบข้างต้องเข้าช่วย
พญ.อัมพรแนะนำว่า เราจะต้องรับฟังความทุกข์ของเขา เป็นการรับฟังที่ไม่ใช่ไปสอน ไปบอกเขาให้ทำอย่างโน่นอย่างนี้ แต่เป็นการรับฟังอย่างเข้าใจความเจ็บปวด และช่วยเหลือตามที่เขาต้องการ หากเกินความสามารถ เช่น เขาจะทำร้ายตัวเอง จะฆ่าตัวตาย จะต้องหาผู้ที่มีหน้าที่เฉพาะ เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา ไปช่วยเหลือตามความเหมาะสม
“สุดท้ายนี้ อยากให้คิดว่าหลายคนบนโลกก็เคยผ่านการอกหัก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ผ่านมันมาได้ ฉะนั้นเราก็จะผ่านมันไปได้” พญ.อัมพรกล่าว
