รู้จัก ‘เทวี ฤาชนก’ มิสเฮอริเทจ ปธ.รุ่นลูกเสือนางงาม คนแรกของไทย
“ลูกเสือ นางงาม สมาธิ”
ดูเป็นสามสิ่งที่ไม่น่าจะมาเกี่ยวโยงกันได้ แต่นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวของ “เทวี – ฤาชนก มีแสง” สาวงามวัย 27 ปี จากจังหวัดปทุมธานี “มิสเฮอริเทจไทยแลนด์ 2022” คนแรกของไทย ซึ่งดำรงตำแหน่ง “มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2022” เข้าร่วมประกวดเวทีระดับนานาชาติในช่วงปลายปีนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
เทวี มีประสบการณ์แข่งขันมาหลายเวที เป็นนางงามที่มีคนจดจำและเชียร์เธอไม่น้อย กระทั่งมีแฮชแท็ก #อย่าให้เทวีจับไมค์ เพราะพูดเก่ง โดยปัจจุบันยังประกอบอาชีพเป็นผู้ประกาศข่าว และทำกิจการของครอบครัวเกี่ยวกับการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ ในด้านการศึกษาเรียกว่าเป็นสาวจีเนียส สำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง สาขาวิชาปรัชญา การเมืองและเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และล่าสุดสำเร็จการศึกษาอนุปริญญาโท มหาวิทยาลัยเทคโนโลนีควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย ในสาขาวิชาธุรกิจและการตลาด นอกจากนี้เธอยังมีผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแสดงละครซิทคอม งานโฆษณา และนางแบบ
โพรไฟล์แน่น
สำหรับเวทีการประกวด “มิสเฮอริเทจ ไทยแลนด์” อาจจะยังไม่คุ้นหูมากนักเพราะปีนี้จัดการประกวดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย และรูปแบบการจัดการประกวดก็น่าจับตามอง เพราะ “คัดเข้า ไม่คัดออก” สาวงามผู้เข้าร่วมประกวดคือตัวแทนของแต่ละจังหวัดส่งเข้าประกวด จะต้องผู้ที่มีโพรไฟล์เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวในทางใดทางหนึ่ง
มากไปกว่านั้นคือรูปแบบการเก็บตัวทำกิจกรรมของสาวงาม ซึ่งเริ่มต้นที่ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ เทวี ฤาชนก คือผู้ที่ชนะผลโหวตแบบเป็นเอกฉันท์จากเพื่อนนางงามและคณะกรรมการคว้ารางวัล “ประธานรุ่นลูกเสือนางงาม” คนแรกของไทย
“เป็นมิติใหม่ของการประกวดนางงามกับการเก็บตัวในค่ายลูกเสือ ที่ไม่ใช่ไปเก็บภาพสวยๆ แต่ฝึกกันจริงๆ ต้องมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา ความเป็นผู้นำ และรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น การฝึกลูกเสือมันยากแล้ว แต่ต้องแต่งหน้าทำผมด้วย ต้องสวยด้วย ต้องนอนรวมกัน 15 คน แล้วอาบน้ำเย็น ไม่มีน้ำอุ่น
เทวีคำนวณเวลาเลยว่าจะได้นอนกี่ชั่วโมง จะต้องตื่นกี่นาที เพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมออกกำลังกายตั้งแต่ตี 5 กลับมามีเวลา 15 นาทีสำหรับอาบน้ำ ต้องวางตารางสระผมหรือทุกอย่าง เพื่อให้เราไม่สายและเทวีไม่เคยไปสาย รู้สึกว่ายาก ยากยิ่งกว่าการประกวดนางงามอีก
แต่สุดท้ายก็พบว่า ‘มันเป็นความเหนื่อยที่มีรสชาติของความเจ๋ง’ จากคนแปลกหน้า เลยกลายมาเป็นเพื่อนกันหมด ฟีลของการแข่งขันมันหายไป เพราะกินนอนด้วยกันตลอดเวลา 15 วัน จนสนิทกัน วีคิดว่านี่เป็น “ไอซ์ เบรคกิ้ง” (การละลายพฤติกรรม) ที่ดีที่สุดในการประกวดนางงามที่มีมา” เทวีกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส
อย่างไรก็ตาม เทวี จะต้องสวมสายสะพายไทยแลนด์ร่วมคว้ามงกุฏมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2022 ซึ่งผู้ครองมงกุฏปัจจุบันคือ บิ๊นท์ – สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ เภสัชกรสาวไทยที่สร้างตำนานคว้ามงกุฎมิสอินเตอร์ฯ เป็นคนแรกของไทย กับเรื่องนี้เทวีบอกว่า “ไม่กดดัน” เพราะอยากจะใช้โอกาสนี้เป็นแรงผลักให้ตัวเองได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรม เพื่อเตรียมพร้อมที่จะไปเจอกับเพื่อนๆ ผู้เข้าประกวดจาก 80 กว่าประเทศทั่วโลกมากกว่า โดยแคมเปญที่เธอสนใจคือ “นั่งสมาธิต่อสู้กับโรคซึมเศร้า” ซึ่งมาจากประสบการณ์ตรงที่เธอเครียดหนักมากในช่วงสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ทว่าครอบครัวปลูกฝังให้นั่งสมาธิตั้งแต่เด็กจึงนำมาปรับใช้และพบว่าได้ผลดี
“คนชอบคิดว่านั่งสมาธิคือต้องหยุดความคิด หลายคนบอกว่า หายใจเข้า-หายใจออก แล้วดูลมหายใจ ดูไปดูมาบางทีก็หลับ บางทีความคิดก็ไปที่อื่นแล้ว แต่จริงๆ คือพระสายกรรมฐานบอกว่าต้องมีคำบริกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่าตรงใจเราที่สุด บางคนก็ใช้ พุท-โธ
แต่สำหรับวี ที่ตรงใจที่สุดคือคำว่า “ตาย” พอเราพูดถึงความตายปุ๊บ เหมือนจิตเราจะตื่น คิดขึ้นได้ว่าชีวิตคนเราที่สุดก็คือความตาย วันหนึ่งเราต้องตายคือเรื่องจริง บางทีจิตเราดื้อ ฟุ้งซ่าน มีอารมณ์เครียด ก็ท่องเร็วๆ แล้วจิตเราก็จะตื่นว่าสุดท้ายก็จบที่ความตาย ทำให้เราไปโฟกัสจุดที่ใหญ่กว่า ความทุกข์ที่อยู่ระหว่างทางก็เลยเห็นเป็นก้อนเล็กๆ ไป รู้สึกปล่อยได้ เหมือนปล่อยความทุกข์ได้” เทวีกล่าวและว่า
สำหรับวีฝึกบริกรรมคำว่า “ตาย” ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เป็นการให้จิตเราโฟกัสอยู่กับปัจจุบันให้ได้ เพราะการทำสมาธิก็คือการทำให้จิตของเราอยู่กับปัจจุบันให้ได้ พอจิตเรานิ่งก็จะมีพลังในการแก้ปัญหาได้
