‘มาร์ค ธาวิน’ กับคอนเทนต์ชีวิต ในยุคที่ต้องทำให้คนรัก
คอลัมน์ เจนz
สะบัดปลายกรรไกร ลับประสบการณ์การเป็น แฮร์ สไตลิสต์ มานานกว่า 3 ศตวรรษ ชื่อของ “มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง” ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในมุมของช่างตัดผมมือทองเจ้าของอัครสถาน “เมซง มาร์ค ธาวิน แฮร์ แอนด์ อีลีท ไลฟ์สไตล์” (Maison Mark Thawin Hair & Elite Lifestyle) แต่ยังโดดเด่นด้วยการเป็น “ท็อป สเปนเดอร์” (Top Spender) ของแบรนด์ไฮแฟชั่นระดับโลกมากมาย ทั้งยังน่าจับตามองในบทบาทของ “นักลงทุน”
บทสนทนาของ “มาร์ค ธาวิน” จึงเปี่ยมไปด้วยความสนุก เริ่มด้วยเรื่องการตัดสินใจทุบร้านทำผมเดิม ยกระดับเป็น “อัครสถาน” ที่มีครบบริการด้านเส้นผม พร้อมด้วยคอร์สเซเลบริตี้ โค้ชชิ่ง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลภาพลักษณ์ การแต่งตัว ฯลฯ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าใช้ทุนทุบแล้วสร้างใหม่ไปถึง 30 ล้านบาท ส่วนหนึ่งก็เพื่อปรับตัวรับกับผลกระทบจากโควิด-19
“ปัญหาคือลูกค้าน้อยลง เราก็ต้องทำมูลค่าของเราให้มากขึ้น ปรับร้านเป็นรูปแบบส่วนตัวรับนิวนอร์มอล จากแต่ก่อนธรรมชาติของร้านตัดผมคือรอให้คนมาหา แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเราต้องเชิญคนให้มาหาเรา โควิดเป็นบททดสอบคนทั่วโลก ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อปรับตัวให้แข็งแกร่งและผ่านไปได้ แล้วจะเห็นทางพัฒนาตัวเองกลับคืนมาได้ไวที่สุด” แฮร์สไตล์ลิสต์กล่าว
ชัดเจนว่าลงทุนกับการสร้างชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ มาร์ค ธาวิน ให้ข้อคิดว่า หากอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเป็นตัวเอง หลายๆ คนรู้ว่ามาร์คเป็นคนชอบเข้าสังคม การมาออกงานสังคม มาร์คได้เรียนรู้ว่าความสุขที่คนต้องการคืออะไร เพราะการจะประสบความสำเร็จในชีวิต ตัวเราต้องมีความสุขด้วย ซึ่งต้นทุนก็คือทำให้คนรู้จักมาร์คในมุมของคนที่ชื่นชอบการดูแลตัวเอง รักแฟชั่น ชอบออกงาน ชอบสันทนาการ
“วันนี้อายุ 51 ปี คลุกคลีกับการเรียนรู้คน ทำให้ตอบตัวเองได้ว่า ชีวิตในยุคต่อไปเป็น ‘โลกที่ต้องทำคอนเทนต์ให้ดี’ ไม่ใช่แค่ผมสวยหน้าสวย แต่มากกว่านั้น ทั้งแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ สุขภาพร่างกาย เดินทาง ช้อปปิ้ง เพื่อให้คนรู้ว่า ‘ฉันคือคนที่ปรับตัวเอง (Improve) ให้ดีขึ้น’ จึงบอกได้เลยว่า ในโลกยุคต่อไป ต้องทำให้คนรัก และคนจะรักที่ได้พูดคุยกับคนที่รัก และมีความชื่นชอบเหมือนๆกัน เช่น มาร์ครักแฟชั่น คนที่รักแฟชั่นก็จะเดินมาหามาร์ค จะไม่มีคนที่ชอบสะสมพระเดินมาหามาร์คเด็ดขาด เพราะฉะนั้นมันเป็นยุคที่ต้องหาคอมมูนิตี้ที่เหมือนกันและมีความสุขไปด้วยกัน” แฮร์สไตลิสต์ระดับเอลิสต์กล่าวและทิ้งท้ายว่า
ที่สำคัญ โลกยุคใหม่ไม่มีบทเรียนเหมือนสมัยก่อนที่คอยบอกต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องเรียนรู้เอง ฉะนั้นทัศนคติคนในวันนี้ต้องเปิดใจเรียนรู้อยู่เสมอ เพราะมาร์คเชื่อว่าก่อนที่เราจะแก่ตาย โลกจะมีอะไรแปลกๆ ให้เราเห็น ต้องวิ่งให้ทันโลก
