เอส แอนด์ พี ก้าวสู่ปีที่ 50 ยึดมั่นหลัก 3 คุณ เผยเคล็ดลับทำเบเกอรี่ให้ปัง ยอดขายตามมาแน่นอน
เสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยมาครบ 49 ปี ก้าวสู่ปีที่ 50 “เอส แอนด์ พี” จัดงาน “S&P ฉลองครบรอบ 49 ปี CAKE & COOKIE WONDERLAND” ที่เซ็นทรัล พระราม 9 โดยมี ภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดงาน
วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้ เอส แอนด์ พี ดำเนินธุรกิจมาครบรอบ 49 ปี นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ แบรนด์ เอส แอนด์ พี เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของผู้บริโภคเสมอมา ซึ่งสิ่งที่เอส แอนด์ พี ยึดมั่นมาตลอดระยะเวลา 49 ปี ของการดำเนินธุรกิจ คือ ยึดมั่นในหลัก “3 คุณ” 1.คุณภาพของสินค้าและบริการ 2.สร้างคุณค่าให้ลูกค้าประทับใจ และ 3.คุณธรรมนำใจ เพื่อทำในสิ่งที่ดีงามเสมอ ตอบสนองวิสัยทัศน์ เอส แอนด์ พี ที่ว่าเป็นร้านอาหารไทย เค้กและเบเกอรี่แบรนด์ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “เอส แอนด์ พี ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย”
ปัจจุบันมีร้านเอส แอนด์ พี และแบรนด์ในเครือรวม 475 สาขาทั่วประเทศ อาทิ บลูคัพ ภัทรา พาทิโอ แกรนด์ซีไซด์ ไมเซน อุเมะโนะฮานะ SNP Cake Studio และมีสาขาในต่างประเทศรวม 12 สาขา
ด้าน มณีสุดา ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เผยว่า เอส แอนด์ พี เป็นแบรนด์คนไทยที่เติบโตด้วยกันมา และเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยมากมาย และเรามีความตั้งใจจะเป็นครัวของคนไทยที่ดูแลสุขภาพให้กับคนไทย โดยช่วงที่ผ่านมา เราทำหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมา เราได้รางวัล SET AWARDS 2022 เป็นเครื่องสะท้อนความมุ่งมั่นที่เราตั้งใจจะทำจริงๆ ให้กับผู้บริโภค
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่มีการแพร่โรคบาดโควิด-19 มณีสุดา เล่าว่า โควิดทำให้เราได้รับผลกระทบเพราะร้านเราส่วนใหญ่อยู่ในห้าง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรากลับมามองตัวเอง และปรับปรุงตัวเองให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคและความลำบากมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาได้
“ช่วง 2 ปีที่ผ่าน เป็นครั้งแรกที่เราขาดทุน ทำให้เราปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินธุรกิจหลายๆ อย่าง เช่น เปลี่ยนรูปแบบทำเดลิเวอรี่มากขึ้น หรือใช้พื้นที่ในร้านที่ว่างมาทำเป็นมาร์เก็ตเพลส เราทำทุกอย่างทุกทางจริงๆ เพื่อที่จะดูแลพนักงานของเราหลายพันคนให้ยังอยู่กับเราต่อไปได้ และทุกคนมีความตั้งใจมากๆ ทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไป จะเห็นว่าวันนี้ ผลประกอบการเอส แอนด์ พี ดีมากๆ ผลกำไรเรามากขึ้น มันสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจว่าเราพยายามจริงๆ ที่จะบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจต่อไป มณีสุดาเผยว่า จะยังดูแลทุกคนให้มีความสุข และไม่ใช่ดูแลพนักงานเรา แต่เราดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ซัพพลายเออร์ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ลูกค้า เราให้ความใส่ใจในทุกๆ ด้าน
“เรามองรอบตัวจริงๆ พยายามจะให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองให้กลับมามองเรื่องสิ่งแวดล้อม จะเห็นว่า เรามีเมนูสุขภาพออกมาเยอะขึ้น อีกทั้งเรื่องการผลิตจากพลังงานสะอาด เราทำอย่างตั้งใจและเต็มที่จริงๆ เราเชื่อว่า การก้าวสู่ปีที่ 50 ของเราจะต้องแข็งแรงมั่นคง เพราะว่าเราดูแลทุกคนในห่วงโซ่อุปทานให้เดินไปกับเราด้วย”
ปัจจุบันมีร้านเบเกอรี่เกิดขึ้นมากมาย ผู้บริหารเอส แอนด์ พี เผยว่า เราไม่คิดว่าร้านเหล่านี้เป็นคู่แข่ง เพราะทุกคนคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเหมือนกัน ทุกอย่างอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้บริโภค
“เราไม่ได้พูดเรื่องคู่แข่งมานานแล้ว เพราะเราเชื่อว่า เราโตคนเดียวไม่ได้ เบเกอรี่ไม่ว่าจะมีเยอะน้อยแค่ไหน เรื่องความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และเรื่องรสชาติ ถ้าอร่อย ยอดขายก็ตามมาแน่นอน ก็ยินดีมากๆ ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน” มณีสุดาทิ้งท้าย
ก้าวสู่ปีที่ 50 อย่างยั่งยืน
