หนุ่มสาวญี่ปุ่นแห่เรียน ‘คอร์สสอนยิ้ม’ หลังไม่ต้องสวมแมสก์
แน่นอนว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 อาจทำให้ ‘รอยยิ้ม’ของผู้คนทั่วโลกลดน้อย ถอยลง ทั้งจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาด และผลกระทบทางเศรษฐกิจ ภายใต้แมสก์ หรือ ‘หน้ากาก’ ทำให้ใครต่อใคร แทบไม่เคยเห็น ‘รอยยิ้ม’ของกันและกัน
แต่หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถ ‘ถอดแมสก์’ ได้ อย่างที่ญี่ปุ่น ที่มีการผ่อนคลาย ไม่บังคับให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในอาคาร และนอกอาคารตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังคงแนะนําให้สวมหน้ากากในบางสถานที่ เช่น โรงพยาบาล และบนรถไฟที่แออัด น่าจะทำให้ผู้คนกลับมาเห็น ‘รอยยิ้ม’กันมากขึ้น
นี่กลายเป็นโอกาสทองให้ เคโกะ กาวาโนะ อดีตนักจัดรายการวิทยุที่ผันตัวมาเป็น ‘โค้นสอนยิ้ม’ เปิดคอร์สสอนเป็นเรื่องเป็นราว มีเด็กหนุ่มสาว ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนศิลปะเข้ามาเรียนกัน
ฮิมาวาริ โยชิดะ นักศึกษาวัย 20 ที่เข้ามาเรียนคอร์สนี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรของสถาบันศึกษาที่เธอเรียนอยู่ ในการเตรียมตัวนักศึกษาเพื่อก้าวสู่ตลาดแรงงาน ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ว่า เธอจำเป็นต้องฝึกฝนการยิ้มของเธอ “เพราะในช่วงโควิด ฉันแทบไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเลย คอร์สนี้จึงเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อที่ดี”
เคโกะ กาวาโนะ เคยเป็นนักจัดรายการวิทยุ แต่มาเปิดบริษัทเอกาโออิกุ มีความหมายว่า “ความรู้เรื่องการยิ้ม ” เริ่มเปิดคอร์สสอนยิ้มมาตั้งแต่ปี 2560 โดยฝึกโค้ชขึ้นมา 23 คนเพื่อให้บริการสอน และฝึกวิธีสร้างรอยยิ้มพิมพ์ใจไปทั่วญี่ปุ่น ภายใต้เทคนิกที่เธอเรียกว่า ” เทคนิคยิ้มสไตล์ฮอลลีวูด” อันประกอบด้วย ตาเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ แก้มกลม ริมปากบนยกขึ้นเผยให้เห็นฟันบนขาวเรียง 8 ซี่งนักเรียนสามารถลองฝึกเทคนิคได้บนแท็บเล็ตเพื่อดูว่าจะได้คะแนนเท่าไร
นับจากปลายปีที่แล้ว ธุรกิจสอนยิ้มของกาวาโนะ เห็นความเติบโตถึง 4 เท่า มีลูกค้าสนใจมาเรียนหลากหลาย ทั้งจากบริษัทต่างๆที่ต้องการพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพพนักงานขายให้มีเสน่ห์ ดูน่าเข้าถึงมากขึ้น และหน่วยงานรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรในองค์กร หรือใครที่สนใจเรียนแบบตัวต่อตัว ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง ในราคา 7,700 เยน หรือราว 1,900 บาท
ที่จริง การสวมหน้ากากอนามัยถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในญี่ปุ่นตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ผู้คนส่วนมากมักสวมหน้ากากในช่วงไข้หวัดระบาด หรือช่วงมีการสอบไล่ สอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเพราะกลัวจะป่วยในช่วงเวลาสำคัญในชีวิต
แม้แต่หลังจากรัฐบาลมีการผ่อนคลายเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย หากดูจากโพลสำรวจของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเมื่อเดือนพฤษภาคม ก็พบว่าผู้คนส่วนใหญ่ยังสวมหน้ากากกันอยู่ มีคนญี่ปุ่น 55 %ที่บอกว่า ยังจะสวมแมสก์ต่อไป มีเพียง 8 % ที่บอกว่าจะถอดแมสก์
กาวาโนะ เล่าว่าในชั้นเรียนของเธอในกรุงโตเกียว เด็กนักศึกษาหนุ่มสาวที่เข้ามาเรียนคอร์สสอนยิ้ม ก็ยังคงใส่หน้ากากในชั้นเรียน และว่าเด็กหนุ่มสาวส่วนใหญ่เคยชินกับการใช้ชีวิตโดยมีหน้ากาก อย่างเช่นเด็กสาวหลายคนที่อาจรู้สึกว่าชีวิตมันง่ายขึ้นเมื่อออกไปนอกบ้านโดยไม่ต้องแต่งหน้า ส่วนผู้ชายก็สามารถซ่อนใบหน้าที่ยังไม่ได้โกนหนวดเคราอยู่ภายใต้หน้ากาก
โค้ชผู้นี้ยังเชื่อว่าโดยวัฒนธรรม คนญี่ปุ่นอาจยิ้มน้อยกว่าชาวตะวันตก เนื่องจากความรู้สึกปลอดภัยเนื่องจากสภาพประเทศที่เป็นเกาะ และเป็นเอกภาพ แต่ภัยคุกคามจากอาวุธปืน อาจทำให้คนยิ้มมากขึ้น ” เพราะรอยยิ้มเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า ฉันไม่มีปืน และฉันไม่ทำร้ายคุณ”
เธอยังบอกด้วยว่า จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางหลั่งไหลเข้าไปในญี่ปุ่นจำนวนมาก คนญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีการสื่อสารกับชาวต่างชาติมากกว่าแค่ดวงตา “ฉันคิดว่ามีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆที่ผู้คนจะต้องยิ้ม”
