เจ้าชายแฮร์รี ซัดสื่ออังกฤษจ้องทำลายชีวิตรัก แม้แต่ ‘ชีวิตคู่’ ของพระองค์ตอนนี้
การขึ้นให้การต่อศาลสูงในกรุงลอนดอน อังกฤษ ของเจ้าชายแฮร์รี ในคดีความที่ทรงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องมิร์เรอร์ กรุ๊ป นิวส์เปเปอร์ (Mirror Group Newspapers) สื่อหัวสียักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ผู้ตีพิมพ์หนังสือเดลี มิร์เรอร์ ว่าแอบดักฟังโทรศัพท์ และใช้วิธีอันไม่ชอบด้วยกฎหมายต่างๆ นานา เพื่อนำข้อมูลส่วนพระองค์ไปเขียนข่าว
และบทความที่กลายเป็นข่าวใหญ่ และเรียกความสนใจจากคนอ่าน เป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งที่พระโอรสพระองค์เล็กของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ได้เล่าถึงเรื่องราวคับแค้นใจที่มีต่อสื่อหัวสีในบ้านเกิดมานาน โดยเฉพาะเรื่องราวความรักที่ผ่านมาแต่ละครั้ง ที่เจ้าชายแฮร์รีกล่าวต่อศาลว่า สื่อเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความรักที่ผ่านมาของพระองค์กับหญิงคนรักไปไม่รอด
ในคำให้การ เจ้าชายแฮร์รี พระชันษา 38 ซึ่งเสกสมรสกับ เมแกน มาร์เคิล หรือดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชายา มีพระโอรส พระธิดา 2 พระองค์ ทั้งหมดใช้ชีวิตด้วยกันอยู่ที่เมืองมอนเตซิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระบุว่า “ผมไม่เข้าใจ และไม่มีวันจะเข้าใจด้วยว่ารายละเอียดลึกๆ รายละเอียดส่วนตัวเรื่องความรักของผม จะมีอะไรที่สามารถช่วยให้สังคม หรือประเทศดีขึ้น และถึงขนาดเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน”
เจ้าชายแฮร์รีเล่าถึงตอนคบกับ เชลซี เดวี สาวสวยชาวซิมบับเว ลูกสาวมหาเศรษฐีแห่งแดนซาฟารี ที่ได้ชื่อเป็น “รักแรก” ของพระองค์ว่าสื่อและปาปาราซซีต่างตามติดความเคลื่อนไหวของพระองค์ และแฟนสาวแทบทุกฝีก้าว อย่างตอนที่เดวีนั่งเครื่องบินมาที่อังกฤษ แล้วเจ้าชายแฮร์รีไปรับที่สนามบิน ก็มีปาปาราซซีไปแอบซุ่มรอถ่ายรูป
“ผมเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารขาเข้า สวมหมวกเบสบอลเพื่อปิดบังใบหน้า ทันทีที่เข้าไปผมก็เห็นปาปาราซซี 5 คนนั่งห่างกันอยู่บนม้านั่ง มีกล้องอยู่ในกระเป๋า ทุกคนต่างเอามือซุกไว้ในกระเป๋าเป้ ผมยังจำได้ว่ามีปาปาราซซีคนหนึ่งกำลังถ่ายคลิปวิดีโอผมด้วยกล้องตัวเล็กที่อยู่ระหว่างขาของเขา ผมยังเคยสงสัยว่า พวกเขารู้ได้ยังไงว่าผมจะไปที่สนามบิน แต่ตอนนี้ผมรู้ชัดแจ้งแล้ว”
ที่ผ่านมา สื่อแทบลอยด์ในอังกฤษเคยตกเป็นจำเลยว่าใช้วิธีแอบดักฟังโทรศัพท์ และวิธีที่ผิดกฎหมายล้วงข้อมูลส่วนตัวของบุคคลมีชื่อเสียงจำนวนมาก
เจ้าชายแฮร์รีและเดวีรักๆ เลิกๆ ระหว่างคบหากันอยู่ระหว่างปี 2547-2553 “ผมรู้สึกมาตลอดว่าสื่อแทบลอยด์ต้องการให้ผมเป็นโสด ยิ่งผมเป็นที่สนใจมากเท่าไร พวกเขาก็ขายหนังสือพิมพ์ได้มากขึ้น เมื่อไรก็ตามที่ผมมีความรัก สื่อก็จ้องรายงานรายละเอียดอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้นก็หาทางทำลายมันอย่างรวดเร็วเช่นกัน ด้วยการสร้างข่าว ใส่สีเท่าที่จะทำได้ และสร้างความไม่ไว้ใจเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายอันบิดเบี้ยวนี้ยังคงมีอยู่จนถึงวันนี้ แม้ว่าผมจะแต่งงานแล้ว”
แม้ก่อนหน้านี้ เจ้าชายแฮร์รีเคยแสดงความกังวล เป็นห่วงความปลอดภัยของพระชายาเนื่องจากพฤติกรรมของสื่อแทบลอยด์ แต่ยังไม่เคยพูดชัดเจนขนาดนี้ว่า ทรงเชื่อว่าสื่อพยายามทำลายชีวิตแต่งงานของพระองค์
