เจ้าหญิงแห่งเวลส์ กับบทบาทสำคัญในแถลงการณ์รับมือ บทสัมภาษณ์สะเทือนราชวงศ์ของดัชเชสเมแกน
อย่างที่รู้กันดีว่า บทสัมภาษณ์ของ เจ้าชายแฮร์รี และ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายา ที่ให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ในรายการ Oprah with Meghan and Harry: A CBS Special ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที และออกอากาศที่สหราชอาณาจักรวันที่ 8 มีนาคม ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่สั่นสะเทือนราชวงศ์อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องสีผิวของอาร์ชี ที่ดัชเชสเมแกนเล่าว่ามีสมาชิกราชวงศ์ตรัสกับเจ้าชายแฮร์รีว่าจะมีสีผิวคล้ำขนาดไหน ขณะที่ดัชเชสเมแกนกำลังตั้งพระครรภ์ แล้วยังประเด็นที่ดัชเชสเมแกนเล่าว่า เคยรู้สึกอึดอัดถึงขนาดเคยคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่นั้น สร้างปัญหาให้ราชวงศ์วินด์เซอร์มากแค่ไหน ?
ตอนนั้นสำนักพระราชวังอังกฤษมีแถลงการณ์ออกมารับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่ง วาเลนไทน์ โลว์ เขียนเล่าในหนังสือ Courtiers: The Hidden Power Behind the Crown ที่ออกวางขายเมื่อปี 2565 อ้างแหล่งข่าววงในหลายคนเล่าว่า เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ มีบทบาทสำคัญในร่างแถลงการณ์ดังกล่าว และเป็นผู้ยืนยัน ผลักดันให้มีข้อความว่า “recollections may vary” หรือ “ความทรงจำอาจแตกต่างกันไป” ที่ถือเป็นข้อความสำคัญ และจะส่งผลต่อประวัติศาสตร์ราชวงศ์วินด์เซอร์ในภายภาคหน้า อยู่ในแถลงการณ์นั้น
หลังจากบทสัมภาษณ์ของดัชเชสเมแกน และ เจ้าชายแฮร์รี กลายเป็นข่าวฮือฮา ได้รับความสนใจไปทั่วโลก พระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ในพระนามของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ว่า “ทุกคนในครอบครัวรู้สึกเสียใจที่ได้รับรู้ถึงความท้าทายมากมายที่แฮร์รีและเมแกนได้เจอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาต่างๆที่ถูกอ้างถึง โดยเฉพาะเรื่องสีผิวเป็นเรื่องที่น่ากังวล ขณะที่ความทรงจำอาจแตกต่างกันไป แต่ประเด็นปัญญาเหล่านั้นจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังภายในครอบครัวอย่างเป็นการส่วนตัว แฮร์รี เมแกน และอาร์ชี จะเป็นสมาชิกครอบครัวอันเป็นที่รักตลอดไป”
โลว์ เขียนเล่าว่าขณะที่มีบางคนยกเครดิตในการใช้ข้อความว่า “ความทรงจำอาจแตกต่างกันไป” ที่กลายเป็นประโยคฮิต ให้แก่ ไคลฟ์ อัลเดอร์ตัน เลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พระบิดาของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี และมีแหล่งข่าวมากกว่า 1 รายยกเครดิต ความดี ความชอบให้แก่ ฌอง-คริสตอฟ เกรย์ ที่เพิ่งเข้ารับหน้าที่เป็นเลขานุการส่วนพระองค์ของเจ้าชายวิลเลียมได้ไม่ถึง 3 สัปดาห์ หลังบทสัมภาษณ์สะเทือนราชวงศ์อังกฤษของเจ้าชายแฮร์รี พระชายา ออนแอร์
แต่มีเจ้าหน้าที่ราชวงศ์ระดับสูงอย่างน้อย 2 คนที่คัดค้านการใส่ข้อความดังกล่าวไว้ในแถลงการณ์ เพราะกลัวปฏิกิริยาที่น่ากลัวของเจ้าชายแฮร์รี พระชายา แต่มีบุคคลหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการให้รวมข้อความ recollections may vary ไว้ในแถลงการณ์ นั่นก็คือ ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระยศของเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ ในตอนนั้น
โลว์อ้างแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยนามเล่าว่า “เจ้าหญิงเคทพูดอย่างชัดเจนว่า ประวัติศาสตร์จะตัดสินแถลงการณ์นี้ และถ้าหากไม่มีวลี หรือข้อความแบบนี้รวมอยู่ด้วย ทุกสิ่งที่พวกเขา (ดัชเชสเมแกน และเจ้าชายแฮร์รี) พูด ก็จะถูกถือว่าเป็นความจริง”
แหล่งข่าวบอกอีกว่า “เจ้าหญิงเคทไม่ได้รับเครดิต ความดี ความชอบมากเท่าที่พระองค์ควรได้รับ พระองค์ละเอียดอ่อนต่อเหตุการณ์นี้ และกำลังอยู่ในเกมที่ใช้เวลาอีกยาวนาน พระองค์ทรงรู้สึกว่า นี่คือชีวิตของฉัน และเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางประวัติศาสตร์ของฉัน ในเมื่อสักวันพระองค์จะต้องเป็นพระราชินี”
อย่างไรก็ตาม ทั้งสำนักพระราชวังบักกิงแฮม สำนักพระราชวังเคนซิงตัน ต่างไม่ยืนยัน ไม่ออกมาให้ความเห็นว่าเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ มีบทบาทในแถลงการณ์ดังกล่าวจริงหรือไม่ แต่ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ นักวิจารณ์ราชวงศ์บอกกับนิตยสารอินไซเดอร์ว่า หนังสือ Courtiers: The Hidden Power Behind the Crown ของวาเลนไทน์ โลว์ ผ่านการค้นคว้าหาข้อมูลมาอย่างดี และ โลว์ยังเคยติดตามสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เสด็จเยือนต่างประเทศ เคยตามเสด็จสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อคราวเสด็จเยือนรัสเซีย เคยตามเสด็จ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เมื่อครั้งดำรงพระยศ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ เสด็จเยือนหมู่เกาะกาลาปากอส มาแล้ว
