‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ ทรงพลัง คว้ารอง 1 มิสยูนิเวิร์ส ในรอบ 57 ปี

‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ ทรงพลัง คว้ารอง 1 มิสยูนิเวิร์ส ในรอบ 57 ปี 

เก่งที่สุดแล้ว สำหรับ ‘แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ที่สามารถคว้า “รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023” มาฝากคนไทย ขณะที่ “เชนนิส ปาลาซิออส” สาวงามจากนิการากัว คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 มาครอง เป็นนางงามจักรวาล คนที่ 72 ของโลก ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ เป็นเจ้าภาพจัดประกวด

สำหรับ มิสยูนิเวิร์ส 2023 เป็นสาวสื่อสารมวลชนวัย 23 ปี เธอให้คำนิยามว่า เธอมักจะเป็นบุคคลหลังกล้องมากกว่าจะอยู่หน้ากล้อง แม้ว่าปัจจุบันเธอจะทำอาชีพนางแบบและพิธีกร เธอมักเป็นคนวิตกกังวล เธอจึงทำโครงการชื่อ “เข้าใจจิตใจตัวเอง” เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิต เธอเคยเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล และเคยดำรงตำแหน่ง Miss World Nicaragua อีกด้วย

Advertisement

แม้แอนโทเนียจะไม่ได้เป็นที่ 1 บนเวที แต่แอนโทเนีย เป็นที่ 1 ในใจคนไทย เธอ “ชนะใจ” คนไทยทั้งประเทศด้วยความมุ่งมั่นพยายามที่ออร่าเจิดจรัสล้นเวที

เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้ากองประกวดมิสยูนิเวิร์สวันแรกในชุดผ้าไหมไทยโคราชออกแบบคล้ายเสื้อตะเบงมาน ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ท้าวสุรนารี” หรือ “ย่าโม” ที่แอนโทเนีย และชาวโคราชให้ความเคารพนับถือ

Advertisement

แอนโทเนีย เผยว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันแรกที่เราจะไปโชว์ความเป็นคนไทย และความเป็นตัวแทนของประเทศไทย แอนมีสตอรี่ที่เป็นหลานย่าโม โกจักรวาล อยากให้จุดแรกของการเดินทางใหม่มีความหมาย ชุดที่แอนใส่คือผ้าไหมโคราชเป็นตะเบงมานเหมือนย่าโมใส่ออกศึก และทุกครั้งที่แอนทำอะไรที่สำคัญ แอนจะไหว้ย่าโม แอนอยากเป็นตัวแทนของผู้หญิงเหมือนที่ย่าโมเป็นให้คนไทย วันนี้ แอนจะจับมือกับย่าโมเข้ากองมิสยูนิเวิร์ส หวังว่า ทุกคนจะเข้ามาและเป็นพลังบวกให้แอน

ทั้งนี้ ในรอบพรีลิมฯ และรอบชุดประจำชาติ แอนโทเนียก็ทำอย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชุดประจำชาติที่สวยสะกดตรึงผู้ชมทั้งในฮอลล์และทางบ้านอยู่หมัด จนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แอนโทเนียในชุดพระแม่ธรณีบีบมวยผมนั้น ‘ทำถึง’ สุดๆ

อีกทั้งเธอยังได้สร้างเสียงฮือฮาในวงกว้างในรอบชุดประจำชาติ เธอพาชุด “เทพธิดาอาณาจักรอยุธยา” ที่ได้รับแรงบันดาลจากรูปปั้น “พระแม่ธรณี” ในช่วงยุคสมัยอยุธยา ของอาณาจักรสยามที่มีอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 14 ถึง 18 ร่ายรำบนเวทีสวยสะกด ตรึงหัวใจผู้ชม จนถูกเลือกให้ขึ้นปกหนังสือพิมพ์ของประเทศเอลซัลวาดอร์ พร้อมคำบรรยายลงในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ “Diario El Salvador” ว่า “Miss Universe Thailand นำเสนอเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยในชุดสีทองและผมยาวดั่ง ‘พระแม่ธรณี’ ผู้ที่เป็นที่นับถือของคนในชาติมาตั้งแต่ประวัติการ

ทั้งนี้ “พระแม่ธรณี” เทวีแห่งโลกหรือพระแม่ธรณี ในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในไทย ได้รับความนับถือเป็นอย่างสูงและได้รับการบูชาตลอดประวัติศาสตร์ชาติไทย “พระแม่ธรณี” มักถูกสร้างรูปแบบให้เป็นเทวรูปที่สวยงามมีผมยาวและมีน้ำศักดิ์สิทธ์เก็บไว้ในผม ซึ่งน้ำที่ไหลออกมานั้นในที่สุดจะบำรุงโลกมนุษย์ด้วยน้ำที่มั่นคง ตามที่ “ธรณี” หมายถึง โลกหรือดิน นั้นกล่าวถึงความเชื่อว่าเธอสถิตย์อยู่ในดินที่เธอทรงประทานความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซึ่งเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติต่อมนุษย์ และแสดงถึงการปกป้องผืนแผ่นดินและความรุ่งเรือง ที่คนไทยจะให้ความเคารพบูชาเสมอมา

ส่วนในรอบตอบคำถามบนเวทีมิสยูนิเวิร์สรอบไฟนอล แอนโทเนียก็ตอบคำถามได้ดีทั้ง 2 คำถาม
คำถามแรกในรอบ 5 คนสุดท้ายกับคำถามว่า “คุณจะพูดยังไงกับเด็กๆ ที่ถูกบูลลี่บนโลกออนไลน์” เธอตอบว่า “คงจะบอกว่าไม่ต้องไปฟังสิ่งที่ผู้คนอยากจะพูด ท้ายที่สุดทุกคนมีความเห็นของตัวเองได้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะตอบสนองแบบไหน ใช้เสียงของเราพูดในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดี”

ส่วนคำถามรอบ 3 คนสุดท้าย เธอก็สปีคอิงลิชไฟแล่บตอบคำถามที่ว่า “ถ้าเลือกเป็นผู้หญิงได้ 1 คน ในเวลา 1 ปี จะเลือกเป็นใคร เพราะอะไร?” แอนโทเนีย ตอบว่า “ถ้าเลือกเป็นผู้หญิงหนึ่งคนได้ จะเลือกเป็นมาลาลา ยูซัฟไซ ชาวปากีสถาน เพราะเธอต่อสู้เพื่อการศึกษาให้กับผู้หญิง และเป็นอีกเสียงสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”

แม้ภารกิจพิชิตมงกุฏที่ 3 จะยังไม่สำเร็จ แต่แอนโทเนียนับเป็นสาวงามที่สามารถเข้ารอบลึกที่สุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมาตัวแทนสายสะพายไทยแลนด์เข้ารอบลึกสุดในรอบท็อป 5 ประกอบด้วย น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ปี 2016, มารีญา พูลเลิศลาภ ปี 2017 และ ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น ปี 2019 ส่วนตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่แอนโทเนียสามารถคว้ามาได้นั้น เป็นตำแหน่งรองชนะเลิศในรอบ 57 ปี นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยมีการส่งออกสาวงามเพื่อชิงมงกุฏบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส

ซึ่งสาวงามชาวไทยที่ครองตำแหน่งรองชนะเลิศ เมื่อ 57 ปีก่อน คือ เล็ก – จีรนันทน์ เศวตนันทน์ ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 นางงามจักรวาลในปี ค.ศ. 1966 ที่ไมอามี่บีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
สำหรับ แอนโทเนีย สาวงามที่มีความปังเป็นที่ประจักษ์ โดยเธอเป็นสาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ปัจจุบันอายุ 26 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

ซึ่งเส้นทางการประกวดของเธอมาจากเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Face Thailand Season 1 ทีมเมนเทอร์ พลอย เฌอมาลย์ และผ่านเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย ก่อนที่จะถูกคัดออกในสัปดาห์ที่ 7 ทำให้เธออยู่อันดับที่ 10 ของซีซั่น

จากนั้น แอนโทเนีย เริ่มเข้าสู่เส้นทางการประกวดสาวงาม ในปี 2019 โดยการแนะนำจากเพื่อน บนเวที มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2019 และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ และเธอก็ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทยที่สามารถคว้าตำแหน่ง มิสซูปราเนชันแนล 2019 ซึ่งเธอเป็นตัวแทนจากประเทศไทยคนแรกที่สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศนี้มาครองได้ท่ามกลางความยินดีจากคนไทย ส่งผลให้เธอกลายเป็นมิสซูปราเนชันแนลคนที่ 11 ของโลก เรียกได้ว่า สวย เก่ง ครบ จบในคนเดียว

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากลองทำตามความฝันในเส้นทางนางงามอีกครั้ง โดยการเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ในนามมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งเธอก็เป็นผู้เข้าประกวดที่โพลทุกสำนักต่างเคาะว่าเป็นตัวเต็งในการประกวดครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น เพราะตั้งแต่เธอเริ่มปรากฏตัวก็เรียกความสนใจให้กับเหล่าแฟนคลับนางงาม และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ความปังในบ้านเท่านั้นที่เป็นที่เลื่องลือ ตั้งแต่ที่เธอเดินทางไปเก็บตัวยังประเทศเอลซัลวาดอร์นั้น ความออร่าที่จับจิต จับวิญญาณของเธอก็สามารถครองใจชาวเอลซัลวาดอร์ และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก อีกทั้งเธอยังได้สร้างเสียงฮือฮาในวงกว้างในรอบชุดประจำชาติ ‘พระแม่ธรณีบีบมวยผม’ ที่สวยสะกด ตรึงหัวใจผู้ชม จนถูกเลือกให้ขึ้นปกหนังสือพิมพ์ของประเทศเอลซัลวาดอร์

นับได้ว่า “แอนโทเนีย” จะเป็นนางงามอีกหนึ่งคนที่เป็น “ขวัญใจคนไทย” ที่ประทับใจแฟนนางงามตลอดไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image