ที่สุดวงการนางงาม รวมความดราม่าหัวจะปวด และเรื่องน่ายินดีปี 2024
เป็นอีกหนึ่งปีที่วงการนางงามเต็มไปด้วยความเข้มข้น ความดุเดือด กับประเด็นดราม่าร้อนฉ่า และเรื่องราวชวนช็อกที่เกิดขึ้นในวงการนางงาม ที่ทำเอาเหล่าแฟนๆ นางงามไม่ได้พักหายใจหายคอกันเลยทีเดียว
ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีนี้ จะขอรีแคปเหตุการณ์ที่สะเทือนวงการนางงาม ทำไทม์ไลน์แตกกันไปพักใหญ่ ทั้งประเด็นดราม่า และเรื่องราวดีๆ ที่สร้างอิมแพกต์ไปทั่วประเทศก่อนที่จะเปลี่ยนศักราชใหม่กัน
ย้อนไทม์ไลน์ไปเมื่อเดือนตุลาคม เกิดเป็นประเด็นร้อนที่เรียกความสนใจให้กับคนทั้งประเทศ หลังกองประกวด ‘มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ ที่ยกทัพทีมงานพร้อมสาวงามผู้เข้าประกวดกว่า 100 ชีวิต เดินทางไปทำกิจกรรมเก็บตัวที่ประเทศกัมพูชา แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ ‘บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ หัวเรือใหญ่แห่งบ้าน MGI ประกาศคำสั่งฟ้าผ่าถอนทีมกลับไทยทันที หลังเท้าแตะแผ่นดินกัมพูชาแค่ 4 วัน โดยแจ้งเหตุผลว่าทางทีมงานกัมพูชาไม่สามารถจัดงานได้อย่างราบรื่น
โดยจุดแตกหักคือ กิจกรรมล่องเรือพร้อมดินเนอร์ที่ตกเป็นประเด็นถกเถียงในโลกโซเชียลถึงสภาพเรือที่ดูไม่ปลอดภัย โดย ‘หลิน มาลิน ชระอนันต์’ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาหลังเดินทางกลับประเทศไทยว่า เมนูบนเรือเธอได้กินเพียงถั่วลิสง และไข่ข้าวที่มีตัวอ่อนอยู่ข้างใน ยิ่งเป็นการเติมราดน้ำมันให้แฟนๆ นางงามไทยไม่พอใจมากขึ้นไปอีกถึงการดูแลผู้เข้าประกวดในฐานะประเทศเจ้าภาพ
ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชาก็ได้มีการออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวทั้งน้ำตา โดยพยายามแบไพ่ในมือว่า ทีมงานไทยเรื่องมาก อีกทั้งยังปฏิบัติกับทีมงานกัมพูชาไม่ดี ซึ่งทางทีมงานไทยเองก็ได้มีการโต้กลับผ่านโซเชียลมีเดียอย่างดุเดือด
ต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐานสาดกันไปมาโดยไม่มีทีท่าว่าประเด็นนี้จะจบลงง่ายๆ จนสมาคมสื่อนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทย และสมาคมนักข่าวกัมพูชาต้องรีบออกมาร่อนจดหมายขอให้ยุติการปะทะกันเพราะเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ จนกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม แม้ประเด็นแรกจะจบลงไป แต่ก็ยังไม่ทันจะได้นอนเต็มอิ่ม เพราะดราม่าจ่อเล่นงานเวทีมิสแกรนด์ไม่มีพัก เมื่อค่ำคืนวันไฟนัล พร้อมกับผู้ครองมงคนใหม่ ‘ราเชล คุปตา’ มิสแกรนด์สาวสวยจากอินเดีย ที่ได้รับตำแหน่งไปแบบไม่ค้านสายตากรรมการ ซึ่งก็ดูเหมือนจะจบลงอย่างสวยงาม แต่ก็ต้องมานั่งกุมขมับอีกครั้ง
หลัง ‘แธ ซู เญียน’ มิสแกรนด์เมียนมา เกิดความไม่พอใจในตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ที่เธอได้รับ จนร้องไห้เสียใจเป็นลมล้มพับไปกับพื้น พร้อมกับซีนช็อกโลกที่ ND หรือ National Director กระชากมงจากศีรษะและอุ้มเธอออกจากฮอลล์จนกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโซเชียล ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแฟนๆ
ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ND เมียนมาก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศเมียนมาว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ยุติธรรม และจะไม่ไปต่อในฐานะ ND ของมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลในปีหน้า ขณะที่ แธ ซู เญียน ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนเดียวกันกับ ND ของเธอคือการไม่ขอรับตำแหน่ง เพราะเชื่อว่าควรไปได้ไกลกว่าที่ 3 พร้อมกับคืนมงกุฎให้กับกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล
ซึ่งกับเรื่องนี้ทาง บอสณวัฒน์ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเห็นว่าเป็นความต้องการของอีกฝ่ายที่ไม่ต้องการร่วมงานกับทางกองประกวด จึงออกแถลงการณ์ปลดมิสแกรนด์เมียนมาอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา โดยไม่ได้มีการแต่งตั้งตำแหน่งใหม่แต่อย่างใด
แต่ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังว่างเว้นจากกระแสดราม่าได้ไม่นาน ก็เกิดปัญหาที่เป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศอีกครั้ง เมื่อ ‘ชาล็อต ออสติน’ รองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินเป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท พร้อมบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมง โดยกล่าวหาว่าเธอมีส่วนร่วมในคดีใหญ่ระดับประเทศ ท่ามกลางสังคมที่ตั้งคำถามถึงเหตุผลที่หลงเชื่อ เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเสนอข่าวถึงกลอุบายที่มิจฉาชีพใช้หลอกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งภายหลังชาล็อตก็แถลงข่าวชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวอย่างละเอียดว่า สาเหตุที่หลงเชื่อเพราะฝั่งนั้นมีเอกสารทางราชการที่มีตราปั๊ม และระบุชื่อของเธอชัดเจน ประกอบกับอาการป่วยโรคแพนิกของเธอที่กำลังรักษาอยู่ จึงเป็นเหตุที่ทำให้หลงเชื่อได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เมื่อตำรวจสามารถแกะรอยและบุกจับหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการตุ๋นเงินมิจฉาชีพได้สำเร็จเพื่อนำสู่ขั้นการสืบสวนต่อไป แม้จะไม่ใช่บิ๊กบอส แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเบาใจขึ้นมากแล้ว ก็เรียกได้ว่าเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นบทเรียนให้กับเธอและประชาชนในสังคมให้ระแวดระวังมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสียงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงจังในการทลายแก๊งมิจฉาชีพให้หมดสิ้นไป
ท่ามกลางเรื่องราวร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นกับบ้านนี้อยู่บ้าง เพราะเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ ‘อิงฟ้า วราหะ’ ที่ชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ทั้งละครและภาพยนตร์ที่คับแน่นไปด้วยคุณภาพ ซึ่งเธอก็ได้รับคำชมเป็นอย่างมากในบท ‘แม่กุหลาบ’ โสเภณีจากละครเรื่องบางกอกคณิกาที่ในปีนี้กลายเป็นคำค้นหาที่คนเสิร์ชมากที่สุดของปี 2024 ในหมวดละคร-ซีรีส์ และบท ‘โหม๋’ จากภาพยนตร์เรื่องวิมานหนามที่มีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งกระแสตอบรับของสองเรื่องนี้บอกเลยว่าปังมาก เพราะหน้าฟีดมีแต่คนแต่งตัวคัฟเวอร์เป็นแม่กุหลาบ และพูดถึงตัวละครโหม๋กันทั้งโซเชียล เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้แฟนๆ ได้เบิกบานใจกันอยู่บ้าง
ขณะที่เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก็มีเรื่องน่ายินดีกันอีกครั้ง หลัง ‘โอปอล สุชาตา ช่วงศรี’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เดินทางไปปฏิบัติภารกิจพิชิตมง 3 ณ ประเทศเม็กซิโก ที่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในประเทศในการคว้าตำแหน่ง รองชนะเลิศอันดับ 3 มาครอง ถึงแม้ว่ามง 3 จะยังไม่มา แต่อย่างน้อยผลงานในรอบตอบคำถามของเธอก็สร้างอิมแพกต์ทั่วโลกในคีย์เวิร์ด empathy ที่ไวรัลไปทั่วโซเชียล เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการนางงามไทย
เป็นอีกหนึ่งปีที่เคล้าไปด้วยความสุขและคราบน้ำตาจริงๆ