โค้งสุดท้าย! ส่อง 8 ตัวเต็ง ลุ้นมงทอง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025
เป็นอีกหนึ่งเวทีที่เสิร์ฟความเอ็นเตอร์เทนไม่มีพัก สำหรับ “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025” โดยมาในคอนเซ็ปต์ “A Star Is Born” เพื่อเฟ้นหาผู้ครองมงกุฏที่มีความเป็นสตาร์ ติ๊กถูกในความเป็นแกรนด์ ซึ่งครั้งนี้เดินทางมาถึงปีที่ 13 ของการประกวดที่ทวีความเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งคอนเทนต์ และเหล่าผู้เข้าประกวดที่ครบเครื่องมากความสามารถจากหลากวงการ ไม่ว่าจะเป็น อินฟลูเอนเซอร์ นักแสดง ไปจนถึงนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ต่างเข้าร่วมประชันความงามในครั้งนี้ ซึ่งในโค้งสุดท้ายของการประกวด จะพาแฟนนางงามไปส่องตัวเต็งในแต่ละภาคว่ามีใครกันบ้าง บอกเลยว่าแต่ละคนนั้นโปรไฟล์ไม่ธรรมดา จับใจแฟน ๆ แน่นอน
เริ่มกันที่ “ภาคเหนือ” เรียกได้ว่าเป็นภาคที่ทำเอาหนักใจแทนกรรมการสุด ๆ เพราะแต่ละคนล้วนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง คาแรกเตอร์โดดเด่น อีกทั้งยังมีแฟนด้อมที่เหนียวแน่น กระแสมาแรงสูสีกันสุด ๆ
โดยตัวเต็งคนแรกจากภาคเหนือ สาวสวยหน้าหวานงามปะล้ำปะเหลือ อย่าง “แบม ปณิชดา คงสวรรยา” หรือ “โซแบม” มิสแกรนด์ ลำพูน อินฟลูเอนเซอร์ และนักแสดงสาวที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาจากบท “แอล” ในซีรีส์ซิตคอม “เป็นต่อ” ที่ออกอากาศทางช่องวัน 31 โดยเธอมียอดฟอลโลเวอร์ใน TIKTOK มากกว่า 900,000 ผู้ติดตาม เรียกได้ว่าแฟนคลับเหนียวแน่นสุด ๆ อีกทั้งเธอยังเป็นหนึ่งในสาวงามที่สามารถทำยอดขายทะลุ 1 ล้านบาท ในแคมเปญ 1 ล้าน ของบอสณวัฒน์ ได้รับสิทธิ์บินไปประเทศเกาหลีใต้แบบฉ่ำ ๆ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามอง ตอบโจทย์ทั้งความเป็นบิวตี้ และบิสซิเนสที่แกรนด์ตามหา


สาวงามคนต่อมา “แจน ณัฏฐ์ฑินี ธนัตพรภิญโญ” มิสแกรนด์ ลำปาง ว่าที่สัตวแพทย์สาว วัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น สาวสงขลาตาคม ที่ขอมาทำตามฝันลงชิงมงในปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นตัวแทนมิสแกรนด์ ขอนแก่น แต่ก็สละตำแหน่งไป ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอยังไม่พร้อม ประกอบกับคอมเมนต์ในแง่ลบต่าง ๆ ทำให้เธอในวัย 19 ปี เกิดความกดดัน และขอถอนตัวกลางอากาศไป ซึ่งหลังจากนั้น 1 ปี เธอกลับมาทำตามความฝันอีกครั้งในฐานะมิสแกรนด์ลำปาง เป็นเธอในเวอร์ชั่นที่พร้อมกว่าเดิม ฟาดกว่าเดิม จนกวาดรางวัลทุกแคมเปญ โดยล่าสุดเธอยังครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 มิสแกรนด์ขวัญใจสงขลาอีกด้วย


มาถึงผู้เข้าประกวดที่สร้างเสียงฮือฮาไม่น้อย สำหรับ “อาม ชุติมา โศดาภักดิ์” มิสแกรนด์ แพร่ นักร้องลูกทุ่งเสียงทอง ผู้แต่งเนื้อร้องเพลงชื่อดังอย่าง “ผู้สาวขาเลาะ” ของลำไย ไหทองคำ ที่ขอพักงานร้องเพลง จิกส้นสูงลงชิงมงกุฏมิสแกรนด์ไทยแลนด์ในปีนี้


ซึ่งหลังจากที่เธอคว้ามงจังหวัดมาครอง มีหลายเสียงที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่สมมงไปต่าง ๆ นานา ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงร่างเล็กและไม่เคยผ่านเวทีประกวดใดมาก่อน แต่เธอก็ฝ่าคำครหา พิสูจน์ตัวเองในทุกรอบการประกวด กลายเป็นขวัญใจของแฟน ๆ นางงามไปโดยปริยาย

ในส่วนของ “ภาคกลาง” กับเน็ตไอดอลสาวที่แฟน ๆ ยกให้เป็นตัวเต็งตั้งแต่ประกาศชิงมง “เกรซ ฐิตารีย์ พงศ์ธรสาธร” มิสแกรนด์ สระบุรี อินฟลูเอนเซอร์ และยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง วัย 20 ปี เจ้าของช่องยูทูบที่มีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคน และบน TIKTOK กว่า 7 ล้านคน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงจะเคยดูคอนเทนต์จากช่องของเธอมาบ้าง โดยเธอนั้นทำคอนเทนต์หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ หรือบิวตี้ ซึ่งยอดผู้เข้าชมสูงสุดบน TIKTOK อยู่ที่ 22 ล้านวิวเลยทีเดียว นอกจากนี้ เธอยังเป็นเจ้าของธุรกิจ “ร้านตุ๊กตาแคร์แบร์” ในอินสตาแกรม และร้านน้ำแข็งไส “YOOHOO หวานเย็น” ที่สานฝันวัยเด็กของเธออีกด้วย



ขยับมาที่ “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ที่การันตีความแซ่บ ความปัง ด้วยตัวเต็งที่แฟนนางงามคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี อย่างสาว “เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์” มิสแกรนด์ ขอนแก่น ฉายา “นางงามนักเคลื่อนไหว” ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับประเด็นสังคมในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งประเด็นการเมือง หรือแม้แต่ประเด็นเล็ก ๆ ที่คนในสังคมอาจมองข้าม


เช่น การรณรงค์ให้ทุกคนหันมาอนุรักษ์ โลมาอิรวดี ผ่านแฟชั่นโชว์ของดีจังหวัดสงขลา หนึ่งในกิจกรรมเก็บตัวในปีนี้ เรียกได้ว่าหลังจากที่เธอสวมชุดแมสคอตปลาโลมาบนเวทีในครั้งนั้น สร้างแรงกระเพื่อมในโลกโซเชียลจนเกิดเป็นไวรัล ทำให้คนเสิร์ชหา โลมาอิรวดีกันยกใหญ่ หรือในรอบชุดชาติพันธุ์ใต้ คาบสมุทรมลายู ที่เธอสวมชุด “ชาติพันธุ์มอแกน” เพื่อเรียกร้องสิทธิ และความเท่าเทียมให้กับพี่น้องชาวมอแกน ซึ่งนั่นทำให้เธอติด 1 ใน 5 ชุดชาติพันธุ์ใต้ยอดเยี่ยมอีกด้วย


โดยเส้นทางการประกวดของเธอนับว่าผ่านมาหลายสมรภูมิ ทั้งเวที “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020” ที่เธอกลายเป็นที่รู้จักในนาม นางงามเพื่อประชาธิปไตย โดยเธอออกมาเรียกร้องสิทธิทางการเมืองที่ค่อนข้างดุเดือดใขณะนั้น ก่อนจะเข้าสู่บ้านแกรนด์ กับการเป็นตัวแทน “มิสแกรนด์ ลำพูน 2023” พร้อมกับพ่วงตำแหน่ง “มิสแกรนด์ขวัญใจเชียงใหม่” แต่ด้วยดราม่าที่เกิดขึ้นระหว่างการประกวด ทำให้เธอหลุดโผจากท็อป 20 ในปีนั้น

ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ในเวอร์ชั่นที่พัฒนากว่าเดิม มีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น หรือเรื่องการจับไมค์ตอบคำถาม ก็ยังคงเป็นนัมเบอร์วัน จนสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสแกรนด์ขวัญใจสงขลา สร้างตำนานเป็นผู้เข้าประกวดที่เข้าไปถึงรอบจับมือลุ้นมงถึง 2 ครั้ง ขนาดที่บอสณวัฒน์ถึงกับออกปากว่า “เฌอเอมดีทุกอย่างแล้ว” ด้านอิงฟ้า วราหะ ก็ชื่นชมว่า “การเดินของเธอดีขึ้นมาก” ซึ่งแฟน ๆ ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป จนกว่าจะถึงวันไฟนัล

ลงมาที่ “ภาคใต้” บอกเลยว่าปีนี้ เป็นปีที่โดดเด่น และอุดมไปด้วยสาวงามมากความสามารถหลายคนมาก แต่หลังจากกุมขมับ คัดมาแล้วเน้น ๆ ก็ได้มา 3 ผู้เข้าประกวดตัวเต็ง โดยคนแรกที่มาแรงตั้งแต่ลงชิงมงคงหนีไม่พ้น “กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์” มิสแกรนด์ ภูเก็ต ในวัย 28 ปี สาวงามจากทีมพี่เลี้ยงที่ขึ้นชื่อว่า “ดีที่สุด” ในการส่งออกนางงามอย่างทีมภูเก็ต ที่การันตีมงใหญ่จากหลายเวที


โดยผลงานที่ถูกพูดถึง และเป็นที่จดจำของเธอนั้นคือการเป็นนักแสดงหลักใน “ละครคุณธรรม” บนแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนั้นเธอยังมียอดผู้ติดตามใน TIKTOK มากกว่า 2 ล้านฟอลโลเวอร์ รวมไปถึงบัญชีอินสตาแกรมกว่า 5 แสน ผู้ติดตาม อีกทั้งความสามารถของเธอก็ไม่ธรรมดา กวาดที่ 1 จากแคมเปญขายของมาเสมอ ด้วยพลังของแฟนด้อมที่แข็งแกร่งร่วมกันซัพพอร์ตเธอทุกแคมเปญ ตอบโจทย์ด้านบิสซิเนสที่แกรนด์ตามหาแบบถูกทุกข้อ

แม้ว่านี่จะเป็นการประกวดนางงามครั้งแรกของเธอก็ตาม แต่ในทุกรอบการประกวดที่ผ่านมา เธอทำอย่างเต็มที่ และแม้จะมีความกดดันในฐานะตัวเต็ง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้ เธอยังสามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 4 มิสแกรนด์ขวัญใจสงขลา พร้อมทั้งรางวัลพิเศษมาครองถึง 2 รางวัล

อีกหนึ่งผู้เข้าประกวดจากภาคใต้ “มิเชล เบอร์แมน” มิสแกรนด์ พัทลุง ดีกรีนักแสดงสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ โดยการถ่ายโฆษณา และแสดงละครในฐานะนักแสดงเด็ก กระทั่งเธอเข้าร่วมประกวดเวที “มิสทีนไทยแลนด์ 2009” และคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศดันอับ 1 ในปีนั้น ก่อนจะโลดแล่นในวงการบันเทิง โดยมีผลงานการแสดงเรื่องแรกคือ “แม่แตงร่มใบ” ที่ออกอากาศทางช่อง 3 นอกจากนี้เธอยังมีผลงานการแสดงที่โดดเด่นอีกหลายเรื่องอย่าง หลานสาวนายพล, หนึ่งในทรวง และอังกอร์


ซึ่งการเข้าร่วมประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ในครั้งนี้ เธอเผยว่า เธออยากจะลองเป็นตัวเองดูสักครั้ง หลังจากที่เธอต้องสวมบทบาทเป็นคนอื่นในฐานะนักแสดงมาทั้งชีวิต และเวทีมิสแกรนด์ก็ตอบโจทย์ความต้องการในข้อนั้นของเธอ อีกนัยหนึ่งเธอก็มั่นใจว่าในพาร์ทธุรกิจ ความเป็นสตาร์ของเธอจะสมารถเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยพัฒนาองค์กรได้เช่นกัน ซึ่งแฟน ๆ ก็ต้องรอลุ้นว่า เธอจะสมดังใจหวังหรือไม่




มาถึงสาวงามที่ขึ้นแท่นตัวเต็ง มาแรงแบบชั่วข้ามคืน “นิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์” มิสแกรนด์ ชุมพร สาวใต้จากสงขลา ในวัย 27 ปี ที่ครองมงกุฏมิสแกรนด์ขวัญใจสงขลามาครอง ด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์ในคืนนั้นที่ไร้ที่ติ ประกอบกับการตอบคำถามทั้ง 3 รอบ ที่พกทั้งไหวพริบ และความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ทำให้เธอคว้ามงกุฏไปครอง เป็นการปิดจบค่ำคืนพิเศษไปอย่างสวยงาม พร้อมทั้งกลายเป็นผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามองในทันที


ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอเคยคว้ารางวัลชนะเลิศ “นางสาวสมิหลา 2562” ก่อนจะเป็นตัวแทนประกวดเวทีมิสแกรนด์ พังงา ในปี 2024 แต่ความฝันของเธอยังไม่บรรลุความสำเร็จ เธอจึงกลับมาสู้ต่อในปีนี้ และคว้ามงกุฏขวัญใจที่ว่ากันว่า ใครก็ตามที่ครองมงกุฏนี้ การันตีท็อป 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ได้เลย ซึ่งจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ แฟน ๆ ต้องรอลุ้นกันต่อไป
