เปิดใจ ‘กชเบล’ มิสแกรนด์คนใหม่ ก้าวข้ามทุกคำบูลลี่ ‘ผู้หญิงทุกคนควรภูมิใจในตัวเอง’ เดินสายแก้บน และ ‘หมูกระทะ’ คือสิ่งแรกที่อยากกินหลังคว้ามง
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการประกวด “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025” พร้อมกับผู้ครองมงทองคนใหม่ “กชเบล ศรัณย์รัตน์ เผือกพิพัฒน์” มิสแกรนด์ภูเก็ต ที่สร้างตำนาน B2B ของทีมภูเก็ต (Back To Back) เป็นปีที่ 2 ต่อจาก หลิน มาลิน ชระอนันต์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ซึ่งเรียกได้ว่าไม่พลิกโผ ตรงตามโพลทุกสำนักที่ต่างเคาะให้เธอเป็นผู้ครองมงในปีนี้
ซึ่งหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสุขไปแล้วนั้น เธอก็ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกกับสื่อมวลชนหลังคว้ามงทองว่า เธอรู้สึกช็อกและตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นตัวเอง พอจับมือลุ้นมงกับเฌอเอมก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ว่าเรามาไกลขนาดนี้ วันนี้ไม่ว่าใครได้มงกุฏ เราก็จะดีใจ เพราะตัวเองนั้นมีเฌอเอมเป็นแรงบันดาลใจ แต่พอก้าวขึ้นไปบนสเตจหมุน และเสียงแมทธิว ดีน เริ่มประกาศชื่อผู้ชนะ ตอนนั้นเราก็หวังไว้แล้วว่าอาจจะเป็นชื่อเรา
ต้องขอบคุณสำหรับโอกาสที่ บอสณวัฒน์ พี่อิงฟ้า และคณะกรรมการได้ให้โอกาสเราได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย คิดว่าเรามีความเป็นผู้นำ มีความพร้อมที่จะพาเพื่อน ๆ ทุกคน ทำงานให้กับองค์กร ต่อจากนี้พร้อมลุยเต็มที่ ซึ่งครั้งนี้เป็นปีแรกที่มาประกวด เป็นอะไรที่ภูมิใจมาก ๆ พร้อมกับให้คำมั่นว่า จะตั้งใจทำงานให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเหนื่อยไหมกว่าจะได้มงกุฏนี้ เธอตอบว่า คิดว่าทำเต็มที่ในทุกสิ่งที่ทำ ตรงนี้แหละที่ทำให้บอสณวัฒน์ และคณะกรรมการมองเห็นว่าตัวเรามีศักยภาพจะเป็นผู้นำให้กับองค์กรได้
กับการสร้างตำนาน Back To Back ของทีมจังหวัดภูเก็ต เธอก็ว่า ขณะที่หลิน มาลิน สวมมงกุฏให้กับเธอ เธอก็กระซิบกับหลินว่า “พี่หลิน หนูสร้างประวัติศาสตร์ใหม่แล้วนะ” ความสามารถของเรามีมากพอที่พร้อมจะเป็นแรงขับเคลื่อนและทำงานให้มิสแกรนด์ ไปพร้อม ๆ กับ MUT อีกเรื่องที่ดีใจมาก ๆ คือ พ่อกบ (ธนพัฒน์ นวลสกุล) จะต้องทำตามสัญญาว่าถ้ากชเบลมง จะตัดสกินเฮด ก็อย่าลืมทำตามสัญญา เพราะเธอตั้งตารอดูมาก
ในส่วนของรางวัลพิเศษในคืนนี้ที่เรียกได้ว่า “เยอะมาก” จนเธอถึงกับออกปากว่า ทีมงานข้างหลังคือวิ่งกันหูดับตับไหม้เพื่อเก็บรางวัลให้กับเธอ ซึ่งก็ไม่ได้นับเลยว่าได้เท่าไหร่
สิ่งแรกที่คิดหลังจากมงแล้วเลยคืออยาก “กินหมูกระทะ”
เรื่องถัดมาคือ “แก้บน” กับเรื่องนี้กชเบลก็ว่า พอได้มงกุฏแล้วเราคิดถึงเจ้าที่เจ้าทางชั้น 6 ณ MGI HALL และพระพรหมชั้นล่างของตึก วันนี้ก็มีการบนก่อนขึ้นเวที ซึ่งโดยปกติจะไม่ได้บน แต่พอวันนี้เราคิดว่าสักตั้งเถอะ โดยเธอบนไข่ 1,000 ฟอง ดอกดาวเรือง 100 ดอก ดอกบัว 100 ดอก และของเซ่นไว้ทั้งหมด ซึ่งก็ต้องทยอยแก้บนแล้ว
เมื่อถามว่า พร้อมรับมือกระแสดราม่าที่จะเข้ามาหลังจากนี้อย่างไร เธอก็ว่า “โดนตั้งแต่ประกาศ Road To แล้ว ซึ่งเราก็โดนมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นดราม่าทำให้เราเข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องเก็บมาคิดมาก เราเลือกฟีดแบ็กที่สามารถเอามาปรับปรุงตัวได้ อันไหนที่เป็นลบเราก็แค่ปล่อยไป”
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรูปร่าง เธอก็ว่า “ถ้าไม่ก้าวข้าม คงไม่มาถึงจุดนี้ ก่อนอื่นเลยผู้หญิงทุกคน และมนุษย์ทุกคนควรภูมิใจในตัวเองก่อน พึงระลึกว่าตัวเรามีคุณค่ามากแค่ไหน เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้ สร้างผลงานชิ้นโบว์แดง เป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ได้”
“เริ่มจากการเชื่อในตัวเอง สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในตัวเอง และยังมีคำสบประมาท คำดูถูก คำบูลลี่มากมายที่ติดอยู่ในใจ ให้ดูเบลเป็นตัวอย่าง สุดท้ายแล้วการที่เราเชื่อมั่นในศักยภาพ เราเชื่อว่าเราทำได้ แค่นี้ คำที่ว่าตัวเล็กเป็นไม่ได้หรอก หน้าตา จมูก ไม่สวย ผิวพรรณ การศึกษา หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุก ๆ อย่าง คนที่ตัดสินคือเจ้าของเวที ดังนั้น ตอนนี้ใครที่กำลังฟังเบลอยู่แล้วไม่มั่นใจในตัวเอง จงลงมือทำ ลุยเท่านั้น มันเลิศที่สุด เราทำได้”
สำหรับ คำถามที่ว่าหลังจากนี้ เธอจะกลับไปเล่นละครสั้นอีกไหม เธอก็ได้ให้คำตอบว่า เป็นคำถามมี่มีคนเข้ามาถามเยอะเหมือนกัน เพราะหลังจากที่มาประกวดมิสแกรนด์ภูเก็ต ก็คือพักการเล่นละครสั้น พอมาเก็บตัวก็ ไม่ได้เล่นอีกเลย ซึ่งวันนี้มีแก๊งละครสั้นก็มาเชียร์มาให้กำลังใจ
“ถามว่าจะไม่กลับไปเล่นแล้วเหรอ ? ตอนนี้ขอเปลี่ยนคำถามเป็น จะมีเวลาเล่นเหรอ (หัวเราะ) จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเป็นมิสแกรนด์ละครคุณธรรมเวอร์ชั่น 2025 จะบอกว่าเป็นอะไรที่ว้าวนะ เพราะกชเบลก็เติบโตจากฐานของละครสั้น จะไม่มีกชเบลในวันนี้เลยถ้าไม่มี ดอยแม่สลองสื่อสังคมออนไลน์ ที่ช่วยเปิดแสง เปิดแฟลช
ทำให้พี่น้องประชาชนทุกคน เด็ก ๆ เยาวชนคนไทยอายุ 3-4 ขวบ เขาเห็นเราเป็นตัวอย่าง เห็นเราแล้วมีความสุข เวลาดูเราแล้วยิ้มได้ หัวเราะได้ เบลรู้สึกดีใจมากเหมือนเราได้ชาร์จแบต เวลาเห็นเด็ก ๆ เข้ามาหาแล้วกรี๊ดกร๊าดเราทำให้เรารู้ว่า “ยังมีคนรักเรามากขนาดนี้เลยเหรอ”
ดังนั้นขอย้อนกลับไปถึงคำว่าบูลลี่อีกครั้งว่า เราไม่เห็นจำเป็นต้องไปสนใจคำพูดเหล่านั้นเลย ในเมื่อมีคนที่รักเราอีกมากมาย ดีใจมาก ๆ ที่นอกจากการได้เป็นนักแสดงแล้ว เรายังได้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ทุกคน และอยากจะเป็นนางร้ายตลกแบบเบลในดอยแม่สลอง”
พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ศรัณรัตน์ เผือกพิพัฒน์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์”
